ผลการสอบสมรรถนะ

จากการสอบสมรรถนะครูในเดือนเมษาที่ผ่านมา
ซึ่งสอบไป 2 วิชา คือ วิชาเอก (บรรณารักษ์) และบังคับเลือกอีกหนึ่ง
เลือกสอบ ภาษาไทย ม.ปลาย (ช่างกล้า) 
ปรากฎว่าผลการออก (ซึ่งช้า และไม่ยอมประกาศคะแนน)

ภาษาไทย ผลออกก่อน ไม่ไ้ด้เป็น Master Teacher ไปอบรม
แต่สอบได้ลำดับที่ 5 (แต่ชื่อเป็นที่ 6 เพราะได้คะแนนเท่ากัน)
ได้สิทธิ์สมัครทุนเรียนต่อโทภาษาไทยของเขต 4 อุดร
ทว่า... ขณะนี้ครูเมย์ย้ายเขตแล้ว
อีกอย่างเรียนโทไปแล้วด้วย... ในตอนแรกที่รู้ อยากได้ทุนนี้มาก
เพราะตอนนี้สอนภาษาไทย ม.ปลาย แต่ไม่ได้เรียนมาโดยตรง
อยากให้ตัวเองมีความรู้แน่นๆ สอนเด็กได้อย่างดีมากๆ กว่านี้
ยื่นใบสมัครไปที่เขตเดิม แต่ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

บรรณารักษ์ เพิ่งออกวันนี้ แต่ไม่ปลื้มเท่าไหร่ เดาว่าเอกนี้จะให้ไปทุกคนที่สอบ
(แต่ตามโครงการคือไป 15% ก่อน เมื่อเทียบกะอย่างอื่น เราว่าไปเยอะเกิน 15% มั้ง)
ไม่ปลื้มเพราะมันดูไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าเอกอื่นๆ ที่คนไปน้อย
เนื่องจากข้าพเจ้ามั่นใจในการทำข้อสอบของตัวเองซะเหลือเกิน (จริงจริ๊ง)
เพราะเป็นข้อสอบที่บังเิอิญว่ามีองค์ความรู้เรื่องบรรณารักษ์ บริหาร และประชาสัมพันธ์
ซึ่งเรียนมาพอดี จาก ป.ตรี บรรณารักษ์ โท บริหาร กะ นิเทศศาสตร์
ส่วนคอมพิวเตอร์ก็มีจากการศึกษาส่วนตัว... ก็อุตส่าห์ุ้นเหลือเกินว่า...
งานนี้ผลออกมาได้หน้าบานแน่ๆ :) (ความจริงผลไม่บอกคะแนนออกมา เลยโม้ได้)

แต่... ได้ไปกันเยอะอย่างนี้ก็น่าปลื้มใจแทนครูบรรณารักษ์เหมือนกัน... ในที่สุด
ในที่สุด ก็มีคนเห็นความสำคัญของครูบรรณารักษ์และห้องสมุดโรงเรียนแล้ว

จากประสบการณ์การเป็นครูบรรณารักษ์โรงเรียนมา 5 ปี รู้ซึ้งเลยว่า...
ใครๆ ก็อยากให้เราทำให้เด็กรักการอ่าน จัดห้องสมุดดีๆ สวยๆ 
IT โดดเด่น คนเข้าใช้เยอะ ยืมเยอะ อ่านเยอะ
ห้องสะอาดเนี้ยบ จัดกิจกรรม สร้างผลงานบานตะไท
แต่... ไม่เค้ยไม่เคยจะได้งบมากเท่าชาวบ้าน
ได้มาทีก็ซื้อหนังสือ ไม่เคยจะได้เครื่องทำน้ำเย็น ปริ้นเตอร์ โต๊ะเก้าอี้ ชั้นหนังสือครู
ไม่ใช่คนปิดทองหลังพระ
แต่ครูบรรณารักษ์เหมือนคนเช็ดฝุ่นหลังกองหนังสือ

เหนื่อย... แต่ ก็พยายามทำไปทุกที
ยอดเด็กอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นนิดหนึ่งก็สุขใจไปสามวันแปดวัน

รักการอ่าน ไม่เหมือนรักแรกพบ
รักการอ่านของเด็กๆ ต้องเกิดจากความผูกพันกับหนังสือ
ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ซึมซับ ค่อยๆ รัีกกันไป

แค่ใครๆ เห็นความสำคัญของครูบรรณารักษ์บ้าง
สนับสนุนกันสักหน่อย

เท่านี้... ใจที่อยากให้เด็กอ่านหนังสืออยู่แล้ว
ก็จะมีแรง มีงบ มีอุปกรณ์เสริมมาร่วมพัฒนาเด็กไทย

"เด็กไทยรักการอ่าน" คงไม่นานเกินไป
แต่คงไม่เร็วทันที ทันใจ ให้หยิบไปใช้ง่ายๆ 

ดังนั้น สนับสนุน แต่อย่าเพิ่งกดดันนะคะ :)