แบบทดสอบข้อสอบกลางภาค
วิชาประวัติพระพุทธศาสนา มจร ห้องเรียนวัดพระธาตุแช่แห้ง
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๓ ภาคเรียนที่ ๑
ก. อริยกะ ข. มิลักขะ
ข. ภัตทันตะ ง. ภาระตะ
2. ข้อใดไม่ใช่หลักการอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธศาสนา ?
ก. เพื่อความหลุดพ้น
ข. เพื่อสันติภาพ
ค. เพื่อแสวงหาโมกขธรรม
ง. เพื่อพระชาติสุดท้าย
3. ข้อใด ไม่ใช่ เหตุผลประกอบของสัตถุศาสน์
ก. สั่งสอนโดยปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหลักการเดิม
ข. สอนโดยความเป็นจริงของสัพสัตว์
ค. สั่งสอนโดยปฏิบัติลัทธิศาสนา
ง. การอุบัติขึ้นและพัฒนาการศาสนา ๓ ประเด็น
4. ข้อใดเรียงลำดับของสมัยชมพูทวีปก่อนพุทธกาลได้ถูกต้อง
1.สมัยอุปนิษัท 2. สมัยพระเวท
5. สมัยพราหมณ์ 4. สมัยอารยัน
ก. 1, 2, 3, 4 ข. 2, 1, 4, 3
ค. 4, 2, 3, 1 ง. 3, 2, 4, 1
6. การแบ่งวรรณะมีสาเหตุมาจากเรื่องใด ?
ก. เชื้อชาติและการเมือง
ข. เผ่าพันธุ์และตระกูล
ค. ลัทธิและศาสนา
ง. ปรัชญาและเชื้อชาติ
7. ข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในหลักการประพฤติปฏิบัติของศาสนาพราหมณ์
ก. ประพฤติตามคำแนะนำของพราหมณ์
ข. ประพฤติตามคำสอนของพระเวท
ค. ประพฤติตามระบบของวรรณะ
ง. ประพฤติตามหลักคัมภีร์ศาสนา
8. สิ่งใดที่ไม่ได้จัดอยู่ในสิ่งของบวงสรวงของศาสนาพราหมณ์
ก. มนุษย์ ข. ม้า
ค. แพะแกะ ง. วัว สุกร
9. นาย ก.อยู่วรรณะพราหมณ์แต่งงานกับนาง ข. ซึ่งอยู่ในวรรณะศูทย์ บุคคลทั้งสองจะถูกลงโทษจากเผ่าพรรณด้วยวิธีใด ?
ก. เทวทัณฑ์ ข. อัศวเมธ
ค. จัณฑาล ง. อัปรียกรรม
10. พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นศิษย์ของบุคคลใดมาก่อน ?
ก. อชิตเกสกัมพล ข. มักขลิโคศาล
ค. สัญชัยเวลัฎฐบุตร ง. ปูรณะกัสสปะ
11. พระองค์ทรงเปรียบมนุษย์เหมือนบัว ๔ เหล่า หากแต่เหล่าที่โง่เขลามากที่สุดเรียกว่าอะไร ?
ก. อุคฆฏิตัญญู ข. วิปจิตัญญู
ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ
12. จุดหักเหของพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นเมื่อใด ?
ก. พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน
ข. การสังคายนาครั้งที่ ๑
ค. การกล่าวจาบจ้วงของพระสุภัททะ
ง. การแบ่งนิกายเถรวาทและมหายาน
13. พระเถระรูปใดทรงเป็นประธานในการสังคายนาครั้งที่ ๑ ?
ก. พระสารีบุตร ข. พระอานนท์เถระ
ค. พระอุบาลี ง. พระมหากัสสปะ
14. ผู้ที่วิสัชนาพระวินัยคือใคร ?
ก. พระสารีบุตร ข. พระอานนท์เถระ
ค. พระอุบาลี ง. พระมหากัสสปะ
15. กษัตริย์องค์ใดเป็นผู้อุปถัมภ์ในการทำสังคายนาครั้งที่ ๑
ก. พระเจ้าสุทโธทนะ ข. พระเจ้าพิมพิสาร
ค. พระเจ้าชัยเสน ง. พระเจ้าอชาตศัตรู
16. คำกล่าวที่ว่า “ พระธรรมและพระวินัยจักเป็นตัวแทนศาสดา” ใครเป็นคนกล่าว ?
ก. พระพุทธเจ้ากับพระอานนท์
ข. พระอานนท์กับพระมหากัสสปะ
ค. พระพุทธเจ้ากับพระสุภัททะ
ง. พระอานนท์กล่าวกับผู้ร่วมสังคายนา
17. พระปุราณะมีทิฎฐิเรื่องใดที่ไม่ยอมรับการสังคายนาครั้งที่ ๑ ?
ก. วัตถุ ๘ ประการ
ข. วัตถุ ๑๐ ประการ
ค. พุทธาพิเศษที่ทรงอนุญาต
ง. การบัญญัติยกเลิกสิกขาบท
18. ใครเป็นผู้ชี้แจงเรื่องการสังคายนาให้แก่พระปุราณะให้เข้าใจ ?
ก. พระอานนท์เถระ
ข. พระมหากัสสปะเถระ
ค. พระมหาสังคีติกาจารย์
ง. พระเถระทั้งหลาย
19. การลงพรหมทัณฑ์หรือการคว่ำบาตรหมายถึงอะไร ?
ก. การลงโทษขั้นเด็ดขาด
ข. การไม่คบค้าสมาคม
ค. การไม่พึงว่ากล่าวไม่พึงพร่ำสอน
ง. การขับออกจากพวก
20. ใครเป็นผู้ได้รับการลงพรหมทัณฑ์เป็นคนแรก ?
ก. พระปุราณะกัสสปะ ข. พระจุนทะ
ค. พระฉันนะ ง. ปุษยมิตร
21. ข้อใดไม่ใช่ผลที่เกิดจากการสังคายนาครั้งที่ ๑ ?
ก. ได้ร้อยกรองพระวินัยและพระธรรมออกเป็น ๔๕ เล่ม
ข. ทำให้คำสอนของพระพุทธองค์มั่นคง
ค. เป็นตัวอย่างของการใช้หลักประชาธิปไตย
ง. เกิดความสามัคคีของหมู่สงฆ์
22. อลัชชี หมายถึงบุคคลพวกไหน ?
ก. นักบวชศาสนาพราหมณ์
ข. พวกทรมานร่างกาย
ค. คน ๒ ศาสนา
ง. นักบวชนอกศาสนา
23. ใครเป็นผู้ยึดถือวัตถุ ๑๐ ประการ ?
ก. พระชาวพีรชาฌาน ข. พระชาววัชชี
ค. พระอุปเสรนีย์ ง. พระอสุมิตร
24. หลักฐานการสังคายนาครั้งที่ ๒ ที่กล่าวไว้ในมหาญาณคือภัมภีร์ใด ?
ก. คัมภีร์ธรรมเภทจักรศาสตร์
ข. คัมภีร์พระเวท
ค. คัมภีร์สังคีติสูตร
ง. พระไตรปิฎกเล่มที่ ๗
25. การสังคายนาครั้งที่ ๓ เกิดขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานผ่านไปกี่ปี ?
ก. ๓ เดือน ข. ๑๐ ปี
ค. ๑๐๐ ปี ง. ๒๐๐ – ๕๐๐ ปี
26. จากหลักฐานของฝ่ายเถรวาทเห็นว่าการสังคายนาครั้งที่ ๒ เกิดขึ้นจากเรื่องใด ?
ก. ความแตกแยกของพระภิกษุสงฆ์ ๒ จำพวก
ข. ความขัดแย้งเรื่องวัตถุ ๑๐ ประการ
ค. ความวิบัติแห่งทิฎฐิ
ง. ความเห็นของพวกภิกษุชาววัชชีและชาวเมือง
27. ชโลคิง ปาตุง ภิกษุฉันเหล้าอ่อน ๆ ผิดวินัย...เหล้าอ่อนหมายถึงเหล้าประเภทใดในพุทธศาสนา ?
ก. น้ำหมักจากผลไม้ ข. โสมะ
ค. สปายวายคูเลอร์ ง. แสงโสม
28. พระอรหันต์อาจมีกังขาคือความสงสัยในบางสิ่งได้” เป็นการสนทนาระหว่างใคร ?
ก. พระพุทธเจ้ากับพระอานนท์
ข. พระมหาเทวะกับศิษย์
ค. พระยสกากัณฑกบุตรกับศิษย์
ง. พระวสุมิตรกับศิษย์
29. กษัตริย์องค์ใดที่ทรงปล่อยให้เรือแตกเพราะต้องการให้พระเถระจมน้ำตาย ?
ก. พระเจ้ากาฬาโศกราช
ข. พระเจ้าอโศกมหาราช
ค. พระเจ้าปัสเสนธิโกศล
ง. พระเจ้าปุษยมิตร
30. ภิกษุณีรูปใดที่มีบทบาทต่อการบริหารความขัดแย้งในหมู่สงฆ์สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ?
ก. อุปเทวี ข. ปชาบดีโคตรมี
ค. อุบลวรรณา ง. นันทเถรี
31. สิ่งใดที่มีความคล้ายคลึงกันมากที่สุดระหว่างพระสงฆ์สมัยปัจจุบันและพระสงฆ์สมัยสังคายนาครั้งที่ ๒ ?
ก. เล่นการเมือง ข. การปกครอง
ค. พระวินัยหย่อนยาน ง. ความอาวุโส
32. มหาสังคีติกะ หมายถึงอะไร ?
ก. พระสูตรเริ่มแรกของการสังคายนา
ข. พระสงฆ์ผู้ที่มีพวกมาก
ค. พระสงฆ์ฝ่ายมหายาน
ง. การสังคายนาครั้งใหญ่
33. การทำสังคายนาครั้งที่ ๓ ทำขึ้น ณ สถานที่ใด ?
ก. เมืองอโศการาม ข. แคว้นเวสาลี
ค. กรุงปาฏลีบุตร ง. ถ้ำสัตตบรรณคูหา
34. ใครเป็นพระอนุชาของพระเจ้าอโศกมหาราช ?
ก. พระสุมนเทวราช ข. พระเจ้าพินทุสาร
ค. เจ้าชายสุมน ง. เจ้าชายติสสะ
35. อุปนิสัยเดิมของพระเจ้าอโศกฯ เป็นเช่นไร ?
ก. เหี้ยมโหด ข. ดุร้าย
ค. มีเมตตา ง. เอาแต่ใจตนเอง
36. สาเหตุใด ที่ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชหันมานับถือพระพุทธศาสนา ?
ก. ได้เสด็จออกผนวช
ข. ได้สนทนากับพระนาคเสน
ค. ได้ฟังเทศน์จากนิโครธกุมาร
ง. สะเทือนขวัญกำลังใจทหารเสียชีวิตยามสงคราม
37. นรกาลัย หมายถึงอะไร ?
ก. เมืองสวรรค์บนดิน
ข. เมืองนรกบนโลกมนุษย์
ค. สถานที่ประหารโทษ
ง. ดินแดนต้องห้าม
38. ทำไมพระเจ้าอโศกฯ จึงให้สร้างนรกาลัย ?
ก. เพื่อสนองอารมณ์
ข. เพื่อเป็นสถานที่ลงทัณฑ์
ค. เพื่ออำนาจการปกครอง
ง. เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่
39. หลักธรรมใดที่พระเจ้าอโศกฯใช้ในการปกครอง?
ก. พรหมวิหารธรรม ข. ธรรมาธิปไตย
ค. ทศพิธราชธรรม ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
40. การสังคายนาครั้งที่ 3 เริ่มขึ้นเมื่อพ.ศ.ใด
ก. ๒๐๐ ปี ข. ๒๓๔ ปี
ค. ๒๔๓ ปี ง. ๒๗๘ ปี
41. การสังคายนาครั้งที่ ๓ ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากคณะสงฆ์ฝ่ายใดบ้าง ?
ก. ฝ่ายเถรวาท ข. ฝ่ายมหายาน
ค. ฝ่ายธรรมวาที ง. ฝ่ายธรรมาธิปไตย
42. พระสมณทูตรูปใดที่เดินทางมายังสุวรรณภูมิ ?
ก. พระโสณะและอุตตระ
ข. พระโสณะและกุติกันนะ
ค. พระมหารักขิตะ
ง. พระมหาหินทเถระ
43. หลักจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ไทยแล้ว ขณะนั้นพระมหากษัตริย์องค์ใดได้นำจริยวัตรของพระเจ้าอโศกเป็นแบบอย่างในการบำรุงพระพุทธศาสนา ?
ก. พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
ข. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ค. กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
ง. พระศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช
44. พิธีอัศวเมธของพราหมณ์คือการปฏิบัติอย่างไร ?
ก. การบูชายัญด้วยไฟ ข. พิธีจันศักดิ์สิทธิ์
ค. พิธีบูชายัญด้วยม้า
ง. พิธีบูชายัญด้วยสตรี
45. ผู้ที่ล้มล้างพระพุทธศาสนาหลังสิ้นยุคของพระเจ้าอโศกมหาราชคือใคร ?
ก. พระเจ้าชัยเสน ข. ปูรณกัสสปะ
ค. มัคคลีโคสาล ง. ปุษยมิตร
46. เชื้อสายเดิมของพระเจ้ามิลินท์มาจากชนชาติใด ?
ก. อินเดียอารยัน ข. กรีก – โรมัน
ค. เอเชียกลาง ง. ราชวงค์โมริยะ
47. จากหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าพระเจ้ามิลินท์มีตัวตนอยู่จริงจะศึกษาได้จากอะไร ?
ก. เหรียญกษาปณ์ ข. อวทานกัลปลดา
ค. ศิลาจารึกหีบศพ ง. ประวัติศาสตร์
48. พระนาคเสนใช้วิธีการใดโต้ตอบคำถามกับพระเจ้ามิลินท์ จนเป็นที่น่าพอใจ ?
ก. ถามมาตอบไป ข. โต้แบบปัณฑิตวาท
ค. โต้แบบราชวาท ง. ตอบแบบตรงไปตรงมา
49. ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระนาคเสน ?
ก. พระอัสสคุตตเถระ ข. พระธรรมรักขิตเถระ
ค. พระโรหนะเถระ ง. พระธรรมกิตตวงค์
50. ข้อได ไม่ จัดอยู่ในบรรดาพุทธเจดีย์ ๔ อย่าง ?
ก. ธาตุเจดีย์ ข. บริโภคเจดีย์
ค. ธรรมเจดีย์ ง. วิหารเจดีย์
51. พระพุทธศาสนาเปรียบเหมือนตัวนก “พระสงฆ์ฝ่ายเถรวาทและมหายาน” เปรียบเหมือนอะไร ?
ก. ขนนก ข. เท้านก
ค. หางนก ง. ปีกนก
( พระครูวินัยธรสมคิด อิสฺสรธมฺโม )
อยากดูเฉลยด้วยค่ะ