บันทึกที่ 1 ลักษณะของผู้นำต้องมี คือ 1. ผู้นำการแลกเปลี่ยน (Transactional Leadership) ผู้นำที่ติดต่อกับผู้ตามโดยการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และสิ่งแลกเปลี่ยนนั้นต่อมากลายเป็นประโยชน์ร่วมกัน ลักษณะนี้พบได้ในองค์กรทั่วไป เช่น ทำงานดีก็ได้เลื่อนขั้น ทำงานก็จะได้ค่าจ้างแรงงาน และในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรมีข้อแลกเปลี่ยนกับชุมชน เช่น ถ้าตนได้รับการเลือกตั้งจะสร้างถนนให้ เป็นต้น
2. ผู้นำการปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership) ผู้นำที่ตระหนักถึงความต้องการของผู้ตาม พยายามให้ผู้ตามได้รับการตอบสนองสูงกว่าความต้องการของผู้ตาม เน้นการพัฒนาผู้ตาม กระตุ้นและยกย่องซึ่งกันและกันจนเปลี่ยนผู้ตามเป็นผู้นำ และมีการเปลี่ยนต่อๆกันไป เรียกว่า Domino effect ต่อไปผู้นำการเปลี่ยนแปลงก็จะเปลี่ยนเป็นผู้นำจริยธรรม
3. ผู้นำจริยธรรม (Moral Leadership) ผู้นำที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ตาม ซึ่งผู้นำจะมีความสัมพันธ์กับผู้ตามในด้านความต้องการ (Needs) ความปรารถนา (Aspirations) ค่านิยม (Values) และควรยึดจริยธรรมสูงสุด คือ ความเป็นธรรมและความยุติธรรมในสังคม ผู้นำลักษณะนี้มุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ตอบสนองความต้องการ และความจำเป็นอย่างแท้จริงของผู้ตาม
บันทึกที่ 2 ยัญขอสวรรค์ถึงนิพพาน ของ
นามแฝง: |
ณัฐรดา |
นามแฝง: |
ณัฐรดา |
http://gotoknow.org/profile/nadrda
หากทำการสละบางสิ่งเพื่อบูชาแล้วอธิษฐานขอสิ่งที่ต้องการก็เท่ากับไม่ได้สละ ไม่ได้ละ แต่ทำโดยการแลก คือแลกสิ่งที่ต้องการหรือจำเป็นต่อชีวิตน้อยกว่าในขณะนี้ เพื่อสิ่งที่ต้องการมากกว่าในภายหน้า
เท่ากับเป็นการยึดมั่นว่าผลของการบูชานั้นเป็น “ของตน” เป็นการกระทำที่จะส่งผลตอบแทน “ตน” จึงทำให้ต้องมี “ตัวตน” วนเกิดเพื่อรับผลต่อไป
บันทึกที่ 3 "ความสุขจากการมองโลกในแง่ดี" บันทึกของทัศนาวรรณ์
คนที่คิดในแง่บวกเสมอจะมีความสุข เพราะจะมีความหวังเกิดขึ้นในใจเสมอ มีกำลังใจ มองตัวเองและคนอื่นแบบมีค่าและมีศักดิ์ศรี เข้ากับผู้คนได้ง่าย ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเสมอ และสามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆในชีวิตและการทำงานได้ดี
คนที่มองโลกในแง่ดีมักเป็นผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวที่อบอุ่นและเติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่ถึงแม้ว่าเราไม่ได้มาจากการเลี้ยงดูที่ดีนัก แต่เราก็สามารถฝึกตนให้มองโลกในแง่ดีได้ โดยการพัฒนาความคิดจากลบให้เป็นบวก โดยการทำความรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น สร้างความสัมพันธ์ดีๆกับเพื่อน รู้จักให้ความรัก ถนอมความรัก ให้อภัยตนเองและผู้อื่น ขจัดความเครียด มองข้ามความหยุมหยิม ไม่ทำตัวน่าเบื่อจำเจ รู้จักลงมือทำในสิ่งที่ตนเองรัก รู้จักยิ้มและมีความสุขได้แม้ในยามลำบากหรือไม่มีความสุข
บันทึกที่ 4 " กำลังใจ " บันทึกของอ้อแอ้ ,,ท้อเป็นเพียงถ่าน ผ่านถึงเป็นเพชร,,
ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน
ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ?
ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า
ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว....
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ
ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร
แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว
แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป
ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ
จนกาลเวลาผ่านไป เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง
และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง
เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
บันทึกที่ 5 คือ บันทึกของ อิงจันทร์ ครูผู้สอน ณ กระท่อมอิงจันทร์ http://gotoknow.org/blog/ruschadawon-taltal/378586 เขียนไว้ว่า เมื่อลูกวัย ม.2 บวชไม่สึก ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของผู้เป็นพ่อและแม่ เพราะลูกได้บวชตามโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนร่วมกับนักเรียนหลายๆ คน แต่ขณะนี้เปิดเทอมไปได้ 2 เดือนกว่าแล้ว ลูกยังไม่เอ่ยปากว่าอยากสึกเลย แถมยังบอกว่าอาจจะเรียนทางธรรมไปตลอดก็เป็นได้ เป็นที่น่าชื่นชมมาก เพราะเด็กวัยนี้กำลังสนุกสนาน มีเพื่อนมาก แต่นั่นเป็นความคิดของแต่ละบุคคลเท่านั้นเอง...
บันทึกที่ 6 คือ บันทึกของ Kwanchai เจ้าหน้าที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
Naresuan University International College http://gotoknow.org/blog/zigma/378589 เขียนไว้ว่า ในการดำรงชีวิตของคนเราในแต่ละวัน ตั้งแต่เกิดจนตาย ย่อมมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ต่างๆ นาๆ โดยตลอด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปฏิบัติตนยอมรับคำนั้นได้หรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นข้อคิดที่ดีมากในการดำรงชีวิตในแต่ละวันของคนเรา
บันทึกที่ 7 คือ บันทึกของ เตวิชโช นักบวชของพุทธ พุทธบริษัท http://gotoknow.org/blog/mind-ing-power/378591 เขียนไว้ว่า "การทำความดีนั้นทำไม่ยากเลย ที่ยากเพราะ ไม่คิด จะทำมากกว่า"และท่านได้ฝากคำคม ข้อคิดดีๆ ไว้เตือนใจไว้ว่า "สิ่งเดียวที่มนุษย์รักที่สุดคือ ชีวิต แต่จะเกลียด ที่สุดคือ ผู้เอาชีวิต ของตนไป แล้วไฉนจึงมาคิดทำลายล้างชีวิตให้สิ้นไปเสียเช่นนี้เล่า" และ"ฆ่าสัตว์ได้โทษ ฆ่าความโกรธได้บุญ" ซึ่งเมื่ออ่านแล้วเป็นบันทึกที่ดี และมีประโยชน์มากๆ เลยนะคะ...
บันทึกที่ 8 คือ บันทึกของ อาภรณ์ พร คำชุมภู รับราชการ http://gotoknow.org/blog/aporn-pon2/378579 เขียนรวบรวมบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำไว้ 3 เรื่องซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทและผู้ที่มีความสนใจเรื่องเกี่ยวกับภาวะผู้นำมากๆ เลย ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ แนวทางปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยม...
บันทึกที่ 9 คือ บันทึกของ บุษยมาศ รับราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) http://gotoknow.org/blog/bussaya37/378536 เขียนไว้ว่า ความขัดแย้งในองค์กร คือการมีความคิดที่แตกต่างกัน และการมีความรู้สึกส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ถ้าคนเราสามารถแยกประเภทความขัดแย้งเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้แล้วนั้น เชื่อว่า...เมื่อการขัดแย้งกันในเรื่องงานเกิดขึ้น...แต่เมื่อพูดกันด้วยเหตุ ด้วยผล...ความขัดแย้งในการทำงานก็จะจบลงด้วยดี...ความบาดหมางใจกันก็จะไม่เกิด...เพราะต่างฝ่ายต่างยอมรับกติกา และยอมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชาก็ตาม...
บันทึกที่ 10 คือ บันทึกของ ณัฐวรรธน์ ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ธุรกิจขายตรง http://gotoknow.org/blog/econtent/378540 เขียนไว้ว่า ในการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ซึ่งข้อบกพร่องจากการที่เขาดำเนินชีวิตเหล่านี้เองเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาเกิดความไม่ประมาท เกิดความมั่นใจ เกิดความพยายาม และนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้...
(จากใจคนดีครับผม...แสงสว่าง)
ดีใจมากค่ะที่ได้เป็นหนึ่งใน10 บันทึกที่คุณประทับใจ ได้อ่านแล้วแต่ละบันทึกมีแต่สิ่งดีดีที่สอนใหเราได้คิด และจะนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตในโลกอันแสนสวยงามนี้ต่อไป ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ทัศนาวรรณ์