๑. พระราชกรณียกิจสำคัญในรัชกาลที่ ๒
ด้านการปกครอง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านการปกครองโดยยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิม แต่มีการตั้งเจ้านายที่เป็นเชื้อพระวงศ์เข้าดูแลบริหารงานราชการตามหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมพระคลัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เป็นผู้กำกับดูแล เป็นต้น ส่วนด้านการออกและปรับปรุงกฎหมายในการปกครองประเทศที่เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนมากขึ้น ได้แก่ พระราชกำหนดสักเลก โดยพระองค์โปรดให้ดำเนินการสักเลกหมู่ใหม่ เปลี่ยนเป็นปีละ 3 เดือน ทำให้ไพร่สามารถประกอบอาชีพได้ นอกจากนี้ยังมีการออกกฎหมายว่าด้วยสัญญาที่ดินรวมถึงพินัยกรรมว่าต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และกฎหมายที่สำคัญที่พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้กำหนดขึ้น คือ กฎหมายห้ามซื้อขายสูบฝิ่น
ด้านเศรษฐกิจ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือการรวบรวมรายได้จาการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งในสมัยนี้ได้มีการเรียกเก็บภาษีอากรแบบใหม่คือ การเดินสวนและการเดินนา การเดินสวนเป็นการแต่งตั้งเจ้าพนักงานไปสำรวจพื้นที่เพาะปลูกของราษฎร เพื่อคิดอัตราเสียภาษีอากรที่ถูกต้อง ทำให้เกิดความยุติธรรมแก่เจ้าของสวน ส่วนการเดินนาคล้ายกับการเดินสวน แต่ให้เก็บหางข้าวแทนแทนการเก็บภาษีอากร
ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ญวน เขมร มลายู จีน และประเทศในทวีปยุโป เช่น โปรตุเกส อังกฤษ โดยมีความสัมพัน์ในทางการเมืองและการค้า
ด้านสังคมและวัฒนธรรม
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูพระพุทธศาสนามาก ในรัชสมัยของพระองค์มีการส่งคณะสงฆ์ไปยังศรีลังกา และพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ ได้แก่ วัดแจ้ง และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดประจำรัชกาล และโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดอีก คือ วัดท้ายตลาด และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดพุทไธสวรรค์ รวมทั้งทรงจำหลักบานประตูพระวิหารศรีศาสกยมุนีที่วัดสุทัศน์ฯ อีกทั้งยังทรงปฏิสังขรณ์วัดหงส์รัตนาราม วัดหนัง วัดบวรมงคล วัดราชาธิวาส วัดราชบูรณะ และวัดโมลีโลกยาราม นอกจากนี้พระองค์ยังทรงปั้นหุ่นพระพักตร์พระพุทธธรณิศราชโลกนาถดิลก พระประธานในวัดอรุณฯ และทรงปั้นหุ่นพระพักตร์พระปฏิมา พระประธานในวัดราชสิทธาราม นอกจากนี้พระองค์ยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการแก้ไขปรับปรุงการสอนพระปริยัติธรรม และโปรดเกล้าฯ ให้มีการแปลบทสวดมนต์จากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย รวมถึงซ่อมแซมพระไตรปิฎกฉบับที่ขาดหายไป
นอกจากนี้แล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้มีการรื้อฟื้นพระราชต่างๆ ได้แก่ พระราชพิธีวิสาขบูชา ที่เคยทำในสมัยสุโขทัยให้กลับมามีความสำคัญอีก พระราชพิธีลงสรงและพระราชพิธีอาพาธพินาศ เมื่อเกิดอหิวาตกโลกระบาด
ด้านศิลปกรรมวรรณคดี
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสนพระทัยและทรงทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติทุกแขนง ได้แก่
ด้านการช่าง งานปั้นพระประธาน งานแกะสลับานประตู การสร้างสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง
ด้านการละคร ทรงฟื้นฟูการละคร โดยทรงให้มีการซ้อมท่ารำแบบแผนประกอบการแต่งบทพระราชนิพนธ์ การละครมีมาตรฐานในการรำ เพลง และบท เป็นแบบอย่างของละครสืบมา
ด้านดนตรี ทรงมีความชำนาญในเครื่อดนตรี คือ ซอสามสาย และได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลง บุหลันลอยเลื่อน หรือบุหลันลอยฟ้า ซึ่งเป็นเพลงที่มีความไพเราะมาก นอกจากนี้ทรงริเริ่มให้มีการขับเสภาประกอบปี่พาทย์
ด้านวรรณคดี ทรงเป็นกวีที่มีพระปรีชาสามารถและทรงสนับสนุนกวี ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง นับว่าสมัยของพระองค์นี้เป็นยุคทองแห่งวรรณคดี
๒. พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีลักษณะคำประพันธ์ทั้งที่เป็นกลอนบทละคร กาพย์ และกลอนสุภาพ โดยสามารถแยกตามประเภทของคำประพันธ์ได้ดังนี้
คำประพันธ์ที่เป็นกลอนบทละคร มีดังนี้คือ
๑) บทละครเรื่องอิเหนา
๒) บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ทรงพระราชนิพนธ์ตอนหนุมานถวายแหวนถึงตอนทศกัณฐ์ล้ม และตอนบุตรลบ
๓) บทละครนอกเรื่องไกรทอง ตั้งแต่ไกรทองอยู่ในถ้ำชาละวันจนกลับตามนางวิมาลาลงไปในถ้ำ
๔) บทละครนอกเรื่องคาวี ตั้งแต่ท้าวสันนุราชได้ผอบผมถึงคาวีฆ่าไวยทัต
๕) บทละครนอกเรื่องไชยเชษฐ์ ตั้งแต่ไชยเชษฐ์กลับมาจากไปตามช้านถึงพระไชยเชษฐ์กับนางสุวิญชาคืนดีกัน
๖) บทละครนอกเรื่องมณีพิชัย ตั้งแต่งูขบนางจันทรถึงพระมณีพิชัยออกไปอยู่กับพราหมณ์ ที่ศาลาในป่า
๗) บทละครนอกเรื่องสังข์ทอง ตั้งแต่กำเนิดพระสังข์ถึงท้าวยศวิมลกับพระสังข์กลับจากเมืองสามนต์
๘) บทละครนอกเรื่องสังข์ศิลป์ชัย ตั้งแต่พระสังข์ศิลป์ชัยตกเหวถึงท้าวเสนากุฎเข้าเมือง
ส่วนบทละครเรื่องอุณรุทนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงนำมาดัดแปลงแก้ไขเพื่อหัดหุ่นละครเล็ก
คำประพันธ์ที่เป็นกาพย์ มีดังนี้คือ
๑) บทพากย์รามเกียรติ์ ทรงพระราชนิพนธ์ 5ตอน คือ นางลอย นาคบาศ พรหมาสตร์ เอราวัณ และบทพากย์เบ็ดเตล็ดชมรถและม้า
๒) รามเกียรติ์ตอนพระพิราพ
๓) กาพย์เห่เรือ
คำประพันธ์ที่เป็นกลอนสุภาพ คือ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ ๔ ตอน ได้แก่
ตอนที่ ๔ พลายแก้วเป็นชู้กับนางพิม
ตอนที่ ๑๓ นางวันทองหึงนางลาวทอง
ตอนที่ ๑๗ ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างได้นางแก้วกิริยา
ตอนที่ ๑๘ ขุนแผนพานางวันทองหนี
อ้างอิง
สิริวรรณ วงษ์ทัต.(มปป.) พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย. ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา.
ไม่มีความเห็น