บทบาทของการวิจัยที่มีต่อทฤษฎีและสมมติฐาน
ทฤษฎี หมายถึง แนวความคิดหรือความเชื่อที่เกิดขึ้นอย่างมีหลักเกณฑ์ มีการทดสอบและ การสังเกตจนเป็นที่แน่ใจ ทฤษฎีเป็น เซทของมโนทัศน์ที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เป็นข้อสรุปอย่างกว้างที่พรรณาและอธิบายปรากฎการณ์อย่างเป็นระบบ ถ้าทฤษฎีได้รับการพิสูจน์บ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นกฎเกณฑ์ ทฤษฎีเป็นแนวความคิดที่มีเหตุผลและสามารถนำไปประยุกต์ และปฏิบัติได้ ทฤษฎีมีบทบาทในการให้คำอธิบายเกี่ยวกับปรากฏทั่วไปและชี้แนะการวิจัย
สมมติฐาน หมายถึง การอธิบายความคาดหมายล่วงหน้าสำหรับปรากฏการณ์ที่สามารถสังเกตได้ มักใช้เป็นมูลฐานแห่งการหาเหตุผล การทดลอง หรือการวิจัย ในทางวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์จะตั้งสมมติฐานจากสิ่งที่สังเกตการณ์ได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนด้วยทฤษฎีที่มีอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือ สมมติฐานอาจเป็นข้อคาดการณ์ที่จัดตั้งขึ้น เพื่อใช้ในการสรุปคำตอบของปัญหาประเภท ถ้าเป็นเช่นนี้ แล้วจะเป็นเช่นไร (what if)
โดยทั่วไปแล้วเรามักจะถือว่าการลองเดาคำตอบของปัญหาเป็นสมมติฐานอย่างหนึ่ง ซึ่งนั่นเรียกว่า การคาดเดาอย่างมีหลักการ เพราะมันเป็นคำตอบอันเป็นที่แนะนำซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน หลักทฤษฎี ในขณะที่ผู้ทำการทดลองอาจทดสอบและปฏิเสธสมมติฐานหลายอย่างก่อนที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหา สมมติฐานที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้
หลักการตั้งสมมติฐาน
1.
ต้องเป็นข้อความที่บอกความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวแปรต้น กับ
ตัวแปรตาม
2. ในการศึกษาปรากฏการณ์หนึ่ง ๆ
อาจตั้งสมมติฐานได้หนึ่งสมมติฐานหรือหลายสมมติฐานก็ได้
และสมมติฐานที่ตั้งขึ้นอาจจะถูกหรือผิดก็ได้
ดังนั้นจำเป็นต้องมีการทดลอง
เพื่อตรวจสอบว่า
สมมติฐานที่ตั้งขึ้นนั้นเป็นที่ยอมรับหรือไม่
ซึ่งจะทราบภายหลังจากการทดลองหาคำตอบแล้ว
สมมติฐานถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากอย่างหนึ่งในการวิจัย เพราะเป็นตัวบ่งบอกถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัญหากับข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่จะตอบปัญหา สมมติฐานเปรียบเสมือนแนวทางในการสำรวจปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับปัญหาที่กำลังทำการสืบค้นอยู่นั้น ความสำคัญของสมมติฐานพอจะสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
1)
สมมติฐานชี้ให้เห็นปัญหาชัดเจน
ทั้งนี้ถ้าไม่มีสมมติฐานเป็นเครื่องชี้นำ
ผู้วิจัยอาจเสียเวลาในการหาสาเหตุและการแก้ปัญหา
ซึ่งการตั้งสมมติฐานนั้น
ผู้วิจัยจะต้องมีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนถึงข้อเท็จจริงและมโนทัศน์ที่คาดว่าจะสัมพันธ์กับปัญหา
แล้วแยกแยะให้เห็นข้อสนเทศที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องในเชิงความสัมพันธ์
ซึ่งจะช่วยทำให้เห็นประเด็นของปัญหาที่ทำการวิจัยชัดเจนมากขึ้น
2)
สมมติฐานเป็นตัวชี้การออกแบบการวิจัย
สมมติฐานที่ดีจะเป็นตัวบ่งชี้ว่ารูปแบบการวิจัยควรจะเป็นเช่นไรจึงจะเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะที่ต้องการทราบ
ซึ่งสมมติฐานจะบอกแนวทางถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล
กลุ่มตัวอย่าง แบบสอบหรือเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้
วิธีการสถิติที่เหมาะสมคืออะไร
ตลอดจนจะรวบรวมข้อเท็จจริงในสถานการณ์ใดที่เหมาะสมกับปัญหา
3)
สมมติฐานช่วยอธิบายปรากฏการณ์
สมมติฐานจะช่วยอธิบายความสัมพันธ์ที่น่าจะเป็นสาเหตุและผลของการเกิดปรากฏการณ์
โดยสมมติฐานที่สร้างขึ้นจากข้อเท็จจริงจะช่วยให้ผู้วิจัยมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสำรวจและอธิบายสิ่งที่แฝงอยู่เบื้องหลังได้
เข้าใจง่ายดีจัง ขอบคุณนะค่ะ
อธิบายความหมายของสมมติฐานได้เข้าใจง่ายดี
สวัสดีครับ....
อ่านแล้วเข้าดีมาเลยครับ..
เป็นกำลังใจให้นะครับพี่จูน
ถ้าคนเราสงสัย แล้วพูด
ทำไม ทำไม ทำไม
ถ้าหาคำตอบไม่ได้ในตอนนั้น ก้จะมี
คำพูดตามมาว่า
สมมติว่าน่าจะ สมมติว่าน่าจะ สมมติว่าน่าจะ
ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของมมติฐานได้ไหมครับ
เป็นกำลังให้ครับ
เขียนได้ชัดเจนเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก
อ่านแล้วเข้าใจง่ายค่ะ
ดิฉันขอถามการบ้านเรื่อง
ยี่ห้อของโถสุขภัณฑ์ กับการเลือกยี่ห้อหรือไม่เมื่อปวดหนักจนอั้นไม่อยู่ โจทย์ให้หาตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุมค่ะ
น้องน้อย ได้รับน้ำดื่มจำนวน 2 ขวด ขวดละสองลิตร หลังจากดื่มน้ำขวดแรกหมด
ครูให้นักเรียนนั่งพักจนกว่าจะปวดปัสสาวะจนสุดขีด จึงจะให้ไปถ่ายปัสสาวะได้
ห้องน้ำมีโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อการัต และอเมริกันสแตนดาร์ท
ครูของน้องให้หาตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุมค่ะ โจทย์น่าสนุกนะคะ ขอความกรุณาอาจารย์ แยกให้น้องด้วยเถอะค่ะ