การเรียนรู้จาการดำเนินงานตามมาตรฐานสุขศึกษา โรงพยาบาลชุมชน
วันที่ 3 มิถุนายน 2553 โรงพยาบาลมโนรมย์ได้รับการตรวจประเมินจากผู้แทนกองสุขศึกษา ที่นำทีมโดย รศ.สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย รองอธิการบดีด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณบังอร ปล่องทอง ท่านนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และคุณศศิธร สังข์ขำ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี
มาตรฐานประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ 20 ดัชนีชี้วัด 75 เกณฑ์
ความเป็นมา
โรงพยาบาลมโนรมย์เริ่มนำแนวทางมาตรฐานมาศึกษาและปรับใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 แต่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติครบทุกองค์ประกอบ มีเพียงการจัดทำนโยบาย การแต่งตั้งคณะกรรมการสุขศึกษาระดับโรงพยาบาล การเก็บและใช้ข้อมูลสุขภาพ การจัดทำแผนงานโครงการ การจัดกิจกรรมสุขศึกษา การประเมินผล ยังไม่ครบทุกองค์ประกอบตามมาตรฐาน
ปี 2552 ตัดสินใจขอรับการประเมินการดำเนินงานตามแนวทางมาตรฐานสุขศึกษา โดยมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานสุขศึกษาของโรงพยาบาลเข้ารับการฟื้นฟูความรู้เรื่องมาตรฐานสุขศึกษาฉบับปรับปรุง 10 องค์ประกอบ และนำมาถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ปฏิบัติที่เป็นตัวแทนหน่วยงานในโรงพยาบาล ได้มีการร่วมกันศึกษามาตรฐานแต่ละองค์ประกอบอย่างจริงจัง จนสามารถประเมินตนเองครบทุกองค์ประกอบ และสมัครรับการประเมินรับรองจากกองสุขศึกษา
ปัจจัยที่ทำให้งานสำเร็จ
-การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูงด้านงบประมาณในการจัดทำแผนงานโครงการ การสนับสนุนทรัพยากร อาคารสถานที่ บุคลากรในการปฏิบัติงาน
-การได้รับความร่วมมือจากผู้ปฏิบัติงานทุกระดับในทุกหน่วยงานในโรงพยาบาล
-การได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายสุขภาพต่าง ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน กรรมการชุมชน สภาชิกสภาเทศบาล ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมแอโรบิกและสุขภาพดี ชมรมดูแลผู้พิการ ชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว โรงเรียนต่างๆ สถานีวิทยุชุมชน ร้านจำหน่ายยา ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น
-การมีคณะทำงานที่กำกับติดตามให้การดำเนินงานสุขศึกษาเป็นไปอย่างเหมาะสมตามเวลาที่กำหนดในแผนงานโครงการ
ปัญหาอุปสรรค
-การไม่มีผู้ที่มีวุฒิการศึกษาด้านสุขศึกษาโดยตรงและไม่มีกรอบอัตรากำลังเฉพาะด้านทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการปฏิบัติงานบางอย่าง เช่น การนิเทศงาน การเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ
-การจัดทำแผนงานโครงการของหน่วยงานบางแผนไม่ตรงตามที่กำหนดในมาตรฐาน
-ไม่สามารถประเมินผลงานได้ครบทุกแผนงานโครงการ
-การดำเนินงานเฝ้าระวังสุขภาพยังเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม
ประโยชน์ที่ได้รับ
-เพิ่มพูนความรู้และทักษะเรื่องการจัดทำแผนงานโครงการ
-ทำให้เรียนรู้ที่จะนำข้อมูลด้านสุขภาพที่มีอยู่ในหน่วยงานมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประโยชน์
-เป็นเครื่องมือที่ดีในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
-การดำเนินงานตามมาตรฐานสุขศึกษาถือเป็นการพัฒนาคุณภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ
-ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการทำงานระหว่างหน่วยงาน และการถ่ายทอดความรู้จากหัวหน้าสู่ผู้ปฏิบัติ
อังค์ริสา พินิจจันทร์
ขอบคุณค่ะ ทำให้เข้าใจงานด้านนี้มากขึ้น/By Jan
งานสุขศึกษาเป็นงานที่พูดง่ายแต่ปฎิบัติยากเพราะการที่จะพูดให้คนเข้าใจในเรื่องเดียวกันให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันโดยที่แต่ละคนก็มีระดับการศึกษาต่างกัน,ครอบครัวต่างกัน,การเลี้ยงดูต่างกันคงต้องใช้ความสามารถ,ประสบการณ์และวิทยายุทธสูงมากโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าคนที่ทำงานสุขศึกษาประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนรับรู้,เข้าใจและให้ความร่วมมือได้ถือว่ายอดเยี่ยมจริงจริง