ในความเป็นจริงย่อมมีให้เห็นได้
ที่ใครก็ตามต้องเกี่ยวข้องกับสภาพสภาวะหรือรูปหรือนามใดที่ไม่ดีเลิศสมบูรณ์แบบ
แต่จะอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบให้เป็นสุขได้อย่างไร
ประการแรกที่ควรตระหนักให้ชัด คือ สภาวะปรุงแต่งทั้งหลายย่อมไม่สมบูรณ์แบบไปได้เพราะ ต้อง เสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ด้วยตัวมันเป็นทุกข์มีแรงบีบคั้น และต้องตกอยู่ในอำนาจของเหตุปัจจัย (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
ประการที่สองที่ควรตระหนักให้ชัด คือ สภาวะปรุงแต่งทั้งหลายต้องดับหรือเปลี่ยนสภาพไปเป็นธรรมดา ซึ่งอาจเปลี่ยนไปแล้วดีขึ้น แย่กว่าเดิม หรือดีเท่าเดิม ก็ได้แล้วแต่เหตุปัจจัยจะปรุงไป
ประการที่สามที่ควรตระหนักชัด คือ สภาวะธรรมทั้งหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัย
สภาวะทั้งหลายย่อมมีคุณสมบัติเฉพาะของสภาวะนั้น เช่น น้ำก็มีคุณสมบัติแบบน้ำจะให้เหมือนเกลือ เหมือนทอง ย่อมไม่ได้
เช่นเดียวกัน จะให้ทองเหมือนน้ำเหมือนเกลือย่อมเป็นไปไม่ได้
การเปลี่ยนสภาวะทั้งหลายให้ดีขึ้น อาจทำได้ด้วยการปรุง แต่ต้องปรุง
ในกรณีมนุษย์หรือจิตทั้งหลายก็คือฝึกให้ดีมากยิ่งขึ้นหรือเก่งหรือสุขมากยิ่งขึ้น
กรณีที่ในขณะนั้นไม่สามารถปรุงให้ดีขึ้นก็น่าจะยอมรับและเข้าใจได้เพราะเมื่อไม่มีเหตุปัจจัยครบถ้วนเพียงพอแก่การปรุงให้ดีขึ้น การเปลี่ยนสภาพให้ดียิ่งขึ้นย่อมไม่อาจเกิดได้
(ยังมีต่อ งานยังไม่จบครับ)
ไม่มีความเห็น