ผมได้เดินทางไปที่บ้านนาฝาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ได้พบกับท่านผู้ใหญ่บ้าน
ชื่อผู้ใหญ่พิกุล ท่านเป็นผู้นำชุมชนที่มีแนวคิดที่กว้างไกล เพื่อสร้างความยั่งยืน และให้ลูกบ้านพึ่งตนเองได้ ชุมชนมีความเข้มแข็งตามมาเป็นลำดับ แต่ที่มันเกิดขึ้นได้เพราะท่านลงมือปฏิบัติจริงไม่ใช่เพียงแค่ประชุมเพื่อหาแนวคิดร่วมกัน เรื่องที่สำคัญที่พวกผมได้ไปเจาะประเด็นมาคือ การเล็งเห็นความสำคัญของการเก็บกักน้ำ สำรอง รวมไปถึงการจัดการน้ำภายในชุมชน
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสภาพภูมิประเทศของหมู่บ้านค่อนข้างตั้งอยู่ที่ดอนไม่มีลำห้วยหรือคลองชลประทาน จึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดแนวคิดนี้ขึ้น และอีกอย่างชาวบ้านยังทำการเกษตรเป็นหลัก.......แหม๋เคยได้ยินแต่ธนาคารออมทรัพย์ภายในชุมชน แต่ที่นี่มีธนาคารน้ำ สามารถเบิกจ่ายไปใช้ได้จริง ฟังดูเหมือนเรื่องตลกเน้อ แต่ใครจะรู้เล่าว่าวันหนึ่งน้ำกินน้ำใช้จะขาดแคลนจริงๆ.........และทุกวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว ถ้าการใช้น้ำของคนในชุมชน ต่างคนต่างใช้ มือใครยาวสาวได้สาวเอาอยู่แบบนี้รับรองล่มจมทั้งชุมชน
ทางออกของชุมชนแห่งนี้คือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสใช้ความแห้งแล้งสร้างแรงบันดาลก่อเกิดแนวคิดการสร้างแหล่งน้ำและใช้ร่วมกัน ..........คือถ้าขับรถยนต์ผ่านแถวนั้นมองไปสองข้างทางจะคิดว่า ร้อน แห้งแล้ง มีแต่ทุ่งนารกร้างว่างเปล่า แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เดินเข้าไปในๆ ลึกๆ จะเห็นบ่อ สระน้ำ มากมาย เต็มปรี่ รอฤดูกาลทำนากลับมาใหม่ ซึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด จากการมองที่ข้างถนน
นี่แหล่ะคือความได้เปรียบของคนนอกเมือง ถ้ามองกลับกันคนในเมืองเขาจะสร้างแหล่งน้ำและเก็บกักน้ำกันอย่างไร?
ไม่มีความเห็น