อินเตอร์เน็ตนั้นก็ดีมากๆ เพราะหาได้เร็ว ไว ง่าย ๆ และสะดวกถ้าต้องการเก็บเป็นเปเปอร์ก็ได้ หรือเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ก็สะดวก แต่บางเรื่องก็ต้องไปซื้อหาที่ร้านหนังสืออยู่ดี
หนังสือที่ชอบและเมื่อเข้าร้านหนังสือทีไรต้องมีซื้อ คือ หนังสือแนวธรรมะต่างๆ ซึ่งก็มีผู้เขียนหลากหลาย ส่วนใหญ่ที่ซื้อมักเป็นของท่านพุทธทาส ท่าน ว.วชิรเมธี ตอนนี้ก็เป็น พระอาจารย์มิตซูโอะ ตอนนี้มีอยู่ที่บ้าน 2-3 เล่ม ยังอ่านไม่จบ เป็นคนที่ชอบอ่านเมื่อรู้สึกที่อยากจะอ่านจริงๆ
หนังสืออื่นๆ ที่อ่านประจำก็นิตยสารต่างๆ ทั้งรายปักษ์ รายเดือน ซื้อหาไม่ได้ขาด ชอบที่จะอ่าน มันสนุก ทำให้เรารู้กว้าง (ปกติเป็นกบที่ชอบอยู่ในที่ที่ของตนเองเท่านั้น) เกิดจินตนาการ นิยายเนี่ยสนุกสุดๆๆ อ่านอยู่ไม่กี่แนว ชอบนิยายรักหวาน โรแมนติก ยิ่งนิยายที่เกี่ยวกับทะเลทรายน่ะใช่เลย ตอนเด็กๆ ประทับใจ "ฟ้าจรดทราย" มากอินสุดๆ "เพชรพระอุมา" ก็สนุก และอยากมีไว้ครอบครองมาก (รอเก็บตังค์ก่อน อยากได้ครบชุด)
วันนี้ที่เขียนบันทึกก็อยากจะคัดลอกบางตอนของหนังสือที่น่าอ่านมาให้ ได้อ่านกันบ้างเป็นน้ำจิ้ม ต้องขออนุญาตเจ้าของหนังสืออมรินทร์พริ้นติ้ง พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ผู้เขียน ชุด ธรรมะซาโตริ เรื่อง วัคซีนธรรมะ ตอนที่จะคัดมาอยู่หน้า 129 ข้อความดังนี้
ในการปฏิบัติธรรมของเรา ก่อนอื่นต้องเข้าใจให้ถูกต้องและปฏิบัติให้ถูกต้องเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร เราศึกษาวิธีปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น... ...การปฏิบัติที่ถูกต้องควรเข้าหาหลักสติปัฏฐาน 4 ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
สติปัฏฐาน 4 พูดถึงกายและจิตใจของเรา ซึ่งประกอบด้วย กาย เวทนา จิต และธรรม ซึ่งเราสามารถกำหนดเป็นฐานของสติ สมาธิ และปัญญา เพื่อให้เรารู้จักตนเองตามความเป็นจริง
การกำหนดพิจารณาตามหลักสติปัฏฐาน 4 แบ่งเป็น 4 หมวด คือ
1. กายานุปัสสนา สติปัฏฐาน
2. เวทนานุปัสสนา สติปัฏฐาน
3. จิตตานุปัสสนา สติปัฏฐาน
4. ธัมมานุปัสสนา สติปัฏฐาน
คนเราทั่วไปมักไม่รู้จักตนเอง แม้มีชีวิตอยู่ 100 ปี มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เรียนจบปริญญาตรี โท เอก เป็นดอกเตอร์ ทำงานเก่ง สร้างฐานะร่ำรวยเป็ยมหาเศรษฐี เป็นผู้บริหารระดับชาติ ระดับนานาชาติ แต่ถ้ายังกลัว โกรธ ร้องไห้ เสียใจอยู่ก็เพราะไม่รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง
การปฏิบัติของเราคือดูสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ คือพิจารณาดูตนเองจนรู้แจ้งเห็นจริง ตัวเองในที่นี้หมายถึง ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (หรือพูดอีกแง่หนึ่งคือ กาย เวทนา จิต ธรรม) การรู้แจ้งเห็นจริงในขันธ์ 5 ว่าเป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา คือการรู้จักตนเองอย่างสมบูรณ์
...ชีวิตคนเราประสบกับทุกขเวทนามากมาย ทุกคนทุกชีวิตถูกเบียดเบียนจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่างกายที่เสื่อมลงๆ หรือสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมบางคนก็ปฏิบัติโดยรักษาอิริยาบถเดียวนานๆ ไม่ขยับเขยื้อน เพื่อพิจารณาความจริงของทุกขเวทนา เมื่อทุกขเวทนานั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดที่จะทนทุกขเวทนาจนเกือบตาย หรือขาดใจตายไปจริงๆ ถึงขนาดนั้นก็ตาม เรายังไม่เห็นทุกขเวทนา ไม่รู้ทุกขเวทนาตามความเป็นจริง เราเพียงแต่"รู้สึก" ทุกข์ "เป็น"ทุกข์ รู้สึกว่าทุกขเวทนาเป็นเรา เป็นของเรา เราอยู่ในทุกขเวทนา ทุกขเวทนาอยู่ในเรา
ต่อจากนั้นก็จะเริ่มด้วยนิทานเรื่องเต่าเจ้าปัญญา ปลาไม่เห็นน้ำ เป็นการอุปมาอุปไมยให้เข้าใจง่ายๆ
การนั้นให้คุณค่าแก่เราอย่างอเนกอนันต์ และเป็นวิธีการที่ง่ายๆ ที่เบสิคและคลาสิกที่สุด การอ่านจะทำให้เรารู้จักตนเองได้ดียิ่งขึ้น และจะดีไปกว่านี้อีกถ้าเราถึงพร้อมทั้งการปฏิบัติควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
รักคนอ่านค่ะ
มีเนื่อหาอีกไหมครันพอดีผมไดทำรายงานเรื่องนี้