บันทึกที่ห้า


จงสอนลูกให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

จงสอนลูกให้ "รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"

       การสอนและปลูกฝังให้ลูกเป็นคนที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้จะดูว่าเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินที่ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ที่จะรักได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรมุ่งเน้นก็คือการสอนให้ลูก "รักให้เป็น" เพราะเมื่อรักเป็นแล้วก็จะเกิดความรู้สึกที่สวยงาม สร้างสรรค์และเมื่อเกิดขึ้นกับใครหรือในสังคมใดแล้ว คนๆ นั้นหรือสังคมนั้นๆ ก็จะมีแต่สิ่งที่ดีงามเกิดขึ้น

             ปกติเรามักสอนให้ลูกรักคุณพ่อคุณแม่หรือรักตัวของเขาเอง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่การสอนและปลูกฝังให้ลูกรู้จักรักผู้อื่นและสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยนั้นก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากไม่น้อยไปกว่ากันเลย นั่นเป็นเพราะว่าความรักที่มีให้แก่ผู้อื่นและสรรพสิ่งใดๆ จะสามารถสร้างสิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นได้ในสังคมของเรานั่นเอง ซึ่งการสอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นหรือสิ่งอื่นใดนั้น อาจเริ่มจากผู้คนหรือสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว เช่น สอนให้เขารักญาติพี่น้อง รักเพื่อน รักคุณครู รักสัตว์เลี้ยง รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

             นอกจากนี้ ความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยที่จะปลูกฝังให้กับลูกตั้งแต่เล็กๆ ก็คือความรักที่มีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพราะทั้ง 3 ส่วนนี้มีความสำคัญและเป็นเหมือนรากเหง้าของสังคมไทยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นคนยุคใดสมัยใด ก็ควรจะต้องมีความรักอย่างแท้จริงให้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกมีความรักต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ได้ด้วยวิธีการดังนี้

             1. สอนให้ลูกตระหนักถึงความหมายและความสำคัญของ "ชาติ"

             ชาติ คือสิ่งที่แสดงถึงที่มาที่ไปและความเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์และตัวบุคคล ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกตระหนักถึงความเป็นชาติไทย ให้ลูกมีความรักและภูมิใจในความเป็นชาติไทยได้โดยผ่านประวัติศาสตร์ไทย ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย ภาษาไทย เช่น คุณพ่อคุณแม่บอกให้ลูกรู้ว่าประเทศไทยมีภาษาเป็นของเราเอง ดังนั้น ลูกควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่อแสดงถึงความรักและความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทยของเรา

             วิธีง่ายๆในการปลูกฝังให้ลูกรักชาติ

             ให้ลูกฟังเพลงชาติ ร้องเพลงชาติ เพลงปลุกใจให้รักชาติและฝึกให้ยืนตรงเคารพธงชาติ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่อาจเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย หาหนังสือภาพเกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมไทยที่เป็นความภาคภูมิใจให้ลูกได้ดูและอ่าน เช่น ภาพการไหว้ของเด็กๆ ที่น่ารัก อ่อนช้อยและงดงาม ภาพการละเล่นแบบไทยๆ ภาพประเพณีวันสงกรานต์ วันลอยกระทง สิ่งเหล่านี้จะช่วยหล่อหลอมและปลูกจิตสำนึกให้ลูกเกิดความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนชาติไทยได้

              2. สอนให้ลูกตระหนักถึงความหมายและความสำคัญของ "ศาสนา"

              ศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติ ประเทศชาติใดไม่มีหลักศาสนาค้ำจุน ก็จะเกิดปัญหาการขาดศีลธรรมของคนในชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้ประเทศชาตินั้นล่มสลายและถูกทำลายลงได้ แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีคนหลายศาสนาอยู่ร่วมกัน แต่ก็สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรต้องสอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ให้ความเคารพและรักคนที่นับถือศาสนาต่างจากเรา เพราะไม่ว่าใครจะนับถือศาสนาใดก็ตามแต่ แก่นแท้ของทุกศาสนาล้วนสอนให้คนเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรมทั้งต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและต่อสังคมด้วยกันทั้งสิ้น

        วิธีง่ายๆในการปลูกฝังให้ลูกรักศาสนา

        คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกได้เข้าใจเรื่องศาสนาตั้งแต่ยังเล็กโดยการสอนให้ลูกรู้จักหลักคำสอนตามศาสนาที่ได้นับถือ หรือหากมีเวลาควรพาลูกไปสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่น ถ้าเป็นครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธก็พาลูกไปวัด ไปฟังเทศน์ ฟังธรรม ทำบุญ ตักบาตร ถ้าเป็นครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์ก็พาลูกไปนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์วันอาทิตย์ ถ้าเป็นครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลามก็พาลูกไปมัสยิดเพื่อทำศาสนพิธีกรรมตามหลักศาสนา ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกได้ซึมซับหลักธรรมคำสอนต่างๆ เพื่อขัดเกลาจิตใจและจะทำให้เกิดความรักศาสนาหรือเป็นคนที่มีศาสนาอยู่ในหัวใจนั่นเอง

         3. สอนให้ลูกตระหนักถึงความหมายและความสำคัญของ "พระมหากษัตริย์"

         พระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทรงเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของคนไทยทุกคน ทุกพระองค์ทรงดูแลพสกนิกร รักษาเอกราชและพัฒนาประเทศให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง ในฐานะคนไทยและลูกหลานไทยจึงต้องรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด

          วิธีง่ายๆในการปลูกฝังให้ลูกรักพระมหากษัตริย์

          คุณพ่อคุณแม่ควรเล่าพระประวัติของพระมหากษัตริย์ของไทยทุกพระองค์ให้ลูกฟัง และกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงยอมสละพระองค์เพื่อรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ เช่น พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ทำให้ชาติไทยได้สะสมความรู้ทางวิชาการและศิลปะต่างๆ สืบทอดกันมา, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) ทรงเลิกทาสและพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าอารยประเทศ , พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินไทยอย่างมีความสุขจวบจนวันนี้ นอกจากนี้ การสอนให้ลูกแสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ เช่น ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี การไม่พูดจาจาบจ้วงหรือกล่าวหา ก็ถือเป็นการปลูกฝังให้ลูกรักสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยเช่นกัน

          การสอนให้ลูกรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ อย่าคิดว่าเป็นเพียงแต่การสอนตามหน้าที่เท่านั้น เพราะในแก่นที่แท้จริงแล้ว การสอนให้ลูกรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์นั้น เปรียบเหมือนการสอนและย้ำเตือนถึงความรักและความภูมิใจที่เรามีต่อตนเองด้วย เพราะจะมีใครสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่มีโอกาสได้อยู่อาศัยบนแผ่นดินที่สวยงาม ร่มเย็น ไม่อยู่ในอาณัติหรือเป็นเมืองขึ้นใคร จะมีสักกี่ที่บนโลกใบนี้ที่จะให้เรามีอิสระในการนับถือศาสนาใดก็ได้โดยไม่ถูกต่อต้าน และที่สำคัญจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่โชคดีเหลือเกินที่มีพระมหากษัตริย์ที่รักและอยู่เคียงข้างกับประชาชนเสมอไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุขก็ตาม ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะปฏิเสธไม่ให้เราและลูกของเรารักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราเอง

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ

คำสำคัญ (Tags): #ศรีสะเกษ 6
หมายเลขบันทึก: 362043เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2010 13:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท