การออกแบบ ( DESIGN)
ไม่มีผู้สร้างสรรค์ออกแบบคนใดจะสร้างรูปแบบจาก………ความว่างเปล่าได้
หากดื้อรั้นสร้างไปผลลัพธ์ก็คือ…….......ความว่างเปล่า
การศึกษา - อาชีพ - สังคม (Education - Occupation – Social )
กระบวนการออกแบบ……….ให้ประโยชน์อะไร ?
กระบวนการเทคโนโลยี…….สร้างงานได้อย่างไร ?
กระบวนการทำงาน……..สร้างอาชีพเป็นอย่างไร ?
การออกแบบ ( DESIGN)
ไม่มีผู้สร้างสรรค์ออกแบบคนใด...........จะสร้างรูปแบบจากความว่างเปล่าได้
หากดื้อรั้นสร้างไปผลลัพธ์ก็คือ…….......ความว่างเปล่า
การศึกษา - อาชีพ - สังคม (Education - Occupation – Social )
กระบวนการออกแบบ………….. มีประโยชน์อย่างไร ?
กระบวนการเทคโนโลยี…………สร้างงานได้อย่างไร ?
กระบวนการปฏิบัติงาน…………สร้างอาชีพเป็นอย่างไร ?
การออกแบบ ( Design )
การออกแบบคืออะไร( What is design ? )การออกแบบในภาษากรีกมีความหมายตรงกับคำว่า “ Poetry ” หมายถึงบทกวีหรืองานที่สำเร็จได้ต้องมีการวางเค้าโครงตามจินตนาการผสมผสานกับความต้องการแสดงออกอย่างมีสุนทรียภาพเปรียบได้กับการแต่งคำประพันธ์ที่รังสรรเรียบเรียงพรรณาความอย่างมีสุนทรียภาพด้วยสื่อสัญลักษณ์เสียง อักษรหรือท่วงที่ท่าทาง
การออกแบบ ( Design )
หมายถึง....การจัดลำดับความคิดหรือจินตนาการให้เป็นขั้นตอนเพื่อนำไปสู่การวางแผนการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ
หมายถึง......การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยการนำส่วนประกอบ ปรับปรุง ดัดแปลงของเดิมให้เหมาะสมยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์และความงาม
หมายถึง.....การวางแผนและประยุกต์ประสบการณ์เดิมกำหนดรูปแบบใหม่อย่างมีสุนทรียภาพสอดคล้องกับวัสดุ เทคโนโลยีและความต้องการในปัจจุบัน
ปัจจุบันคำว่าออกแบบได้นำมาใช้อย่างแพร่หลายในทุกสถาบัน องค์กรหรือหน่วยงานด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม เช่น การออกแบบบริหารจัดการองค์กร ออกแบบเทคโนโลยีแทนที่อดีตส่วนใหญ่จะใช้ในงานศิลปะเช่น การออกแบบงานเวทีประชาสัมพันธ์ การแต่งกายและผลิตภัณฑ์
ความสำคัญของการออกแบบ ( Benefit of Design )
1. ด้านกายภาพ ( Physical) หมายถึงลักษณะผลงานที่นำไปการใช้ทำให้เกิดความสะดวก ประสิทธิภาพ ความเหมาะสม ความปลอดภัย
2. ด้านอารมณ์ ( Emotion) หมายถึงลักษณะผลงานที่นำไปการใช้และเกิดความพึงพอใจ ความสวยงาม ความชื่นชมหรือคุณภาพ
3. ด้านทัศนคติ ( Attitude) หมายถึงลักษณะผลงานที่นำไปการใช้ให้เกิดส่งเสริมคุณความดี คุณธรรมและจริยธรรมที่มีต่อสังคม
องค์ประกอบที่ต้องพิจารณาในการออกแบบ( Function of Design consideration )
การออกแบบจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพความต้องการและความพร้อม คุณลักษณะที่สอดคล้องต่อสภาพทางสังคม/เศรษฐกิจ ( Social & Economics)และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี(Technology )ประกอบด้วย
1. ปัจจัยหลัก ( Major of Design consideration )หมายถึงการศึกษา คุณลักษณะ ค่านิยม ความจำเป็นพื้นฐานและสภาพความต้องการด้านจิตวิทยาของกลุ่มเป้าหมาย ผู้รับรู้หรือผู้บริโภค( Customer)ที่มีอิทธิพลต่อคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือชิ้นงาน ประกอบด้วย
1.1. เพศ ( Sex )หมายถึงคุณลักษณะหญิงและชายที่มีผลต่อความชอบ ความปราณีตสวยงามและค่านิยมที่สอดคล้องต่อคุณธรรมจริยธรรมและวิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคม
1.2. อายุ ( Age )หมายถึงระดับวัยของเด็ก วัยรุ่นและผู้สูงอายุที่มีอิทธิพลต่อระดับความต้องการและโอกาสในการแสวงหาของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัย
1.3. การศึกษา ( Education ) หมายถึงระดับสติปัญญาความรู้ความสามารถ ความคิดวิเคราะห์สภาพความเหมาะสม
2. ปัจจัยรอง ( Minor of Design consideration )หมายถึงปัจจัยที่นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคที่สามารถควบคุมได้และเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2.1. ประโยชน์ ( Benefit of Design ) คุณสมบัติ ลักษณะ การใช้งาน คุณค่า ความปลอดภัยและเหมาะสม
2.2.เออร์กอนอมิกส์ ( Ergonomics ) หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างสรีระศาสตร์กับการใช้ผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อม เช่น ความสดวกสบาย ความปลอดภัย ประสิทธิภาพและผลกระทบ
2.3. แอนโทรโปเมตริกซ์ หมายถึงการศึกษาความสัมพันธ์ของร่างกาย สัดส่วน ความคล้องตัวการเคลื่อนไหว เช่น สัดส่วนความแตกต่างของวัย เพศหญิงเพศชาย มาตรฐานคนเอเชียกับคนยุโรป
2.4. รูปทรงและรูปแบบ ( Shape & Form) รูปลักษณ์ ประหยัด ความสดวก ของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอความงาม ( Appreciation ) คุณค่าทางอารมณ์ ความพึงพอใจ การบริการ คุณภาพและประสิทธิภาพ
2.5. วัสดุ-อุปกรณ์( Material & Equipments ) มีคุณสมบัติสอดคล้องกับกระบวนการผลิตและเครื่องมือ
หลักเกณฑ์ในการออกแบบ ( Principle of Design )
1. กลุ่มเป้าหมาย ( Customer) คุณลักษณะเฉพาะ ค่านิยมและความจำเป็นพื้นฐาน
2. ประโยชน์ ( Benefit of Design ) การใช้สอย คุณภาพ คุ้มค่าและเหมาะสม
3. มาตรฐาน (Standard) ปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความถูกต้องและผลกระทบ
4.วัสดุ-อุปกรณ์(Materials&Equipments) มีคุณสมบัติสอดคล้องกับกระบวนการผลิตและเครื่องมือ
5. องค์ประกอบงานออกแบ ( Composition ) รูปทรง ขนาด เส้นแสงสีจังหวะหรือพื้นผิวผลิตภัณฑ์
6. ความงาม (Appearance); ที่น่าสนใจ ความพึงพอใจ การให้บริการ รูปลักษณ์ สัดส่วน สีสรร
7. ความก้าวหน้า (Advance) ; ความคิดริเริ่ม (Originality) ความเรียบง่าย ( Simplicity) ทันสมัย
การพิจารณาตัดสินตามเกณฑ์
1. ลักษณะรูปทรง( FORM ) ประกอบด้วยคุณลักษณะ ดังนี้
การจัดองค์ประกอบ( COMPOSITION)
ลักษณะของชิ้นงาน ( )
การหลอมรวมความเป็นหนึ่ง (INTEGRATION )
สัดส่วน ( PROPORTION )
2. ลักษณะพื้นผิว( TEXTURE OR SURFAC )วัสดุ.ลักษณะพื้นผิว
ธรรมชาติและการสร้างสรรค์ ( Nature & Creative Design )
การสร้างสรรค์ รังสรรค์ผลงานคือการนำความรู้ประสบการณ์มาประยุกต์ใช้กับวัสดุ-อุปกรณ์และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยธรรมชาติ( Nature )และสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ ( Creative design )ขึ้นโดยมีปัจจัยด้านต่างๆเป็นส่วนส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผลงาน ประกอบด้วย
1. ความคิด ( Mental model )
2. สิ่งแวดล้อม ( Environment )
3. ความมุ่งมั่นใฝ่ดีหรือสัญชาติญาณการใฝ่รู้ ( Creative Attention or Instinct )
4. ความซาบซึ้ง ( Appreciation )
5. จินตนาการ ( Imagination )
หลักเกณฑ์พิจารณางานออกแบบที่ดี
1. ดึงดูดสายตา(Eye Appeal); ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ
2. ประโยชน์ (Function ); สนองตอบต่อการใช้สอยงานและปลอดภัย
3. โครงสร้าง (Construction); แข็งแรงทนทาน
4. ราคา(Price); เหมาะสมกับคุณภาพ
การย้อนยุคของการเฟื่องฟูคุณค่าผลงานทางศิลปะอันเกิดจากศิลปินหรือช่างฝีมือกับคุณค่าทางโบราณวัตถุที่แสดงถึงความเจริญของยุคสมัยกับข้อจำกัดเรื่องจำนวนและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทำให้ความรู้สึกในคุณค่าของผลงานเริ่มมีมูลค่าน้อยลงขณะที่มนุษย์มีความต้องการด้านความสะดวก การให้บริการกับคุณค่าทางศิลปะจึงเป็นแนวทางหนึ่งของการประกอบอาชีพนักออกแบบหลากหลายสาขา เช่น นักออกแบบอุตสาหกรรม ( Industrial designer) นักออกแบบผลิตภัณฑ์ ( Product designer) ซึ่งต้องผลิตเป็นจำนวนมาก ( Mass product)จำเป็นต้องนำความรู้ทางศิปะมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบ กระบวนการผลิตและกระบวนการเทคโนโลยีเพื่อให้ทันต่อความต้องการและความเจริญของยุคสมัย
กระบวนการออกแบบ( Design Process )
1. การวิเคราะห์ (Analysis) ข้อมูลที่มีผลต่อการออกแบบ แยกตามความสัมพันธ์เฉพาะ P-Spec
2. การสังเคราะห์ (Synthesis) นำผลมาสร้างสรรค์ ด้วยเทคนิควิธีการ P-Spec
3. การประเมินผล (Evaluation) นำวิธีการแก้ปัญหามาเปรียบเทียบหลักเกณฑ์และความเหมาะสม
ความสัมพันธ์เฉพาะ (Performance Specification ; P-Spec)
1.3. การศึกษา ( Education ) หมายถึงระดับสติปัญญาความรู้ความสามารถ ความคิดวิเคราะห์สภาพความเหมาะสม
2. ปัจจัยรอง ( Minor of Design consideration )หมายถึงปัจจัยที่นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคที่สามารถควบคุมได้และเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2.1. ประโยชน์ ( Benefit of Design ) คุณสมบัติ ลักษณะ การใช้งาน คุณค่า ความปลอดภัยและเหมาะสม
2.2.เออร์กอนอมิกส์ ( Ergonomics ) หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างสรีระศาสตร์กับการใช้ผลิตภัณฑ์และสิ่งแวดล้อม เช่น ความสดวกสบาย ความปลอดภัย ประสิทธิภาพและผลกระทบ
2.3. แอนโทรโปเมตริกซ์ หมายถึงการศึกษาความสัมพันธ์ของร่างกาย สัดส่วน ความคล้องตัวการเคลื่อนไหว เช่น สัดส่วนความแตกต่างของวัย เพศหญิงเพศชาย มาตรฐานคนเอเชียกับคนยุโรป
2.4. รูปทรงและรูปแบบ ( Shape & Form) รูปลักษณ์ ประหยัด ความสดวก ของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอความงาม ( Appreciation ) คุณค่าทางอารมณ์ ความพึงพอใจ การบริการ คุณภาพและประสิทธิภาพ
2.5. วัสดุ-อุปกรณ์( Material & Equipments ) มีคุณสมบัติสอดคล้องกับกระบวนการผลิตและเครื่องมือ
หลักเกณฑ์ในการออกแบบ ( Principle of Design )
1. กลุ่มเป้าหมาย ( Customer) คุณลักษณะเฉพาะ ค่านิยมและความจำเป็นพื้นฐาน
2. ประโยชน์ ( Benefit of Design ) การใช้สอย คุณภาพ คุ้มค่าและเหมาะสม
3. มาตรฐาน (Standard) ปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความถูกต้องและผลกระทบ
4.วัสดุ-อุปกรณ์(Materials&Equipments) มีคุณสมบัติสอดคล้องกับกระบวนการผลิตและเครื่องมือ
5. องค์ประกอบงานออกแบ ( Composition ) รูปทรง ขนาด เส้นแสงสีจังหวะหรือพื้นผิวผลิตภัณฑ์
6. ความงาม (Appearance); ที่น่าสนใจ ความพึงพอใจ การให้บริการ รูปลักษณ์ สัดส่วน สีสรร
7. ความก้าวหน้า (Advance) ; ความคิดริเริ่ม (Originality) ความเรียบง่าย ( Simplicity) ทันสมัย
การพิจารณาตัดสินตามเกณฑ์
1. ลักษณะรูปทรง( FORM ) ประกอบด้วยคุณลักษณะ ดังนี้
การจัดองค์ประกอบ( COMPOSITION)
ลักษณะของชิ้นงาน ( )
การหลอมรวมความเป็นหนึ่ง (INTEGRATION )
สัดส่วน ( PROPORTION )
2. ลักษณะพื้นผิว( TEXTURE OR SURFAC )วัสดุ.ลักษณะพื้นผิว
ธรรมชาติและการสร้างสรรค์ ( Nature & Creative Design )
การสร้างสรรค์ รังสรรค์ผลงานคือการนำความรู้ประสบการณ์มาประยุกต์ใช้กับวัสดุ-อุปกรณ์และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยธรรมชาติ( Nature )และสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ ( Creative design )ขึ้นโดยมีปัจจัยด้านต่างๆเป็นส่วนส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผลงาน ประกอบด้วย
1. ความคิด ( Mental model )
2. สิ่งแวดล้อม ( Environment )
3. ความมุ่งมั่นใฝ่ดีหรือสัญชาติญาณการใฝ่รู้ ( Creative Attention or Instinct )
4. ความซาบซึ้ง ( Appreciation )
5. จินตนาการ ( Imagination )
หลักเกณฑ์พิจารณางานออกแบบที่ดี
1. ดึงดูดสายตา(Eye Appeal); ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ
2. ประโยชน์ (Function ); สนองตอบต่อการใช้สอยงานและปลอดภัย
3. โครงสร้าง (Construction); แข็งแรงทนทาน
4. ราคา(Price); เหมาะสมกับคุณภาพ
การย้อนยุคของการเฟื่องฟูคุณค่าผลงานทางศิลปะอันเกิดจากศิลปินหรือช่างฝีมือกับคุณค่าทางโบราณวัตถุที่แสดงถึงความเจริญของยุคสมัยกับข้อจำกัดเรื่องจำนวนและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทำให้ความรู้สึกในคุณค่าของผลงานเริ่มมีมูลค่าน้อยลงขณะที่มนุษย์มีความต้องการด้านความสะดวก การให้บริการกับคุณค่าทางศิลปะจึงเป็นแนวทางหนึ่งของการประกอบอาชีพนักออกแบบหลากหลายสาขา เช่น นักออกแบบอุตสาหกรรม ( Industrial designer) นักออกแบบผลิตภัณฑ์ ( Product designer) ซึ่งต้องผลิตเป็นจำนวนมาก ( Mass product)จำเป็นต้องนำความรู้ทางศิปะมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบ กระบวนการผลิตและกระบวนการเทคโนโลยีเพื่อให้ทันต่อความต้องการและความเจริญของยุคสมัย
กระบวนการออกแบบ( Design Process )
1. การวิเคราะห์ (Analysis) ข้อมูลที่มีผลต่อการออกแบบ แยกตามความสัมพันธ์เฉพาะ P-Spec
2. การสังเคราะห์ (Synthesis) นำผลมาสร้างสรรค์ ด้วยเทคนิควิธีการ P-Spec
3. การประเมินผล (Evaluation) นำวิธีการแก้ปัญหามาเปรียบเทียบหลักเกณฑ์และความเหมาะสม
ความสัมพันธ์เฉพาะ (Performance Specification ; P-Spec)
ไม่มีความเห็น