แผนยุทธการเผชิญเหตุสาธารณภัย
แนวทางการปฏิบัติ
กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด/อำเภอปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุฯ ดังนี้
1) ขั้นที่ 1 การเตรียมการและป้องกัน
ก) การบูรณาการตามแผนเผชิญเหตุฯ กับหน่วยข้างเคียง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เหล่ากาชาด กำลังอาสาสมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชนและอื่น ๆ ในการปฏิบัติเมื่อเกิดภัยพิบัติในด้านกำลังพล เครื่องมืออุปกรณ์ ยานพาหนะทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือสื่อสาร เครื่องจักรกล รวมทั้งเวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่มเครื่องนุ่งห่ม สถานที่พักพิงชั่วคราว และอื่น ๆ เป็นต้น
ข) การติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จากสื่อทุกประเภท หรือจาก เว็บไซด์การเตือนภัยจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หรือกรมอุตุนิยมวิทยา
หรือสำนักงานเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน รวมทั้งการสังเกตและตรวจสอบปริมาณน้ำฝน ระดับน้ำ และการรายงานจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
ค) ประสานกับหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อร่วมกันตรวจสอบระบบแจ้งเตือนภัยทุกประเภทที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบว่ามีความพร้อมใช้งานหรือไม่ เช่นหอเตือนภัยสึนามิ
มีการทดสอบหรือซ้อมเตือนภัยโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบบ้างหรือไม่ เป็นต้น
ง) ประสานหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อร่วมกันสำรวจและกำหนดเส้นทาง สถานที่หรือพื้นที่ปลอดภัย ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือจำเป็นต้องอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ภัยพิบัติ
จ ) ประสานแผนการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
และส่วนราชการ โดยใช้อาวุธตามความจำเป็นและเหมาะสมร่วมกับฝ่ายปกครอง
ฝ่ายตำรวจ หรือฝ่ายทหาร
ฉ) การฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนเผชิญเหตุฯ และแผนของศูนย์เฉพาะกิจฯ ด้านกำลังพล และการเตรียมพร้อมเครื่องมือ หรือสิ่งอุปกรณ์ ยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือสื่อสาร และอื่น ๆ เพื่อให้พร้อมปฏิบัติได้ทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น
ช) ฯลฯ (ข้อ ก) - ฉ) เป็นตัวอย่างสามารถเพิ่มเติมได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ในพื้นที่รับผิดชอบ)
2) ขั้นที่ 2 เผชิญเหตุภัยพิบัติ
ก) การแจ้งเตือนภัยพิบัติผู้บังคับบัญชา ผู้ปฏิบัติแผนเผชิญเหตุฯ ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
ประชาชนโดยทันที
ข) การดำเนินการตามขั้นตอนตามแผนเผชิญเหตุฯ
1) เมื่อมีข้อมูลข่าวสารหรือการแจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมกำลังพลสมาชิก อส.
รวมทั้งเครื่องมือ สิ่งอุปกรณ์และอื่น ๆ ณ ที่ตั้งเต็มอัตราตลอด 24 ชั่วโมง
2) เมื่อเกิดภัยพิบัติซึ่งอยู่ในขีดความสามารถที่จะปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุฯได้เอง ให้ดำเนินการช่วยเหลือเหตุเฉพาะหน้าก่อน โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยเป็นลำดับแรก สัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินเป็นลำดับรอง ลงไป
3) การเข้าถึงและการออกจากสถานที่หรือพื้นที่เกิดภัยพิบัติ โดยเส้นทาง
ปลอดภัยตามที่สำรวจ และกำหนดไว้ในแผนเผชิญเหตุฯ
4) การดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง โดยเครื่องมือสื่อสารทุกประเภทที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งการใช้พลนำสาร
5) การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือพื้นที่พักพิงชั่วคราวและ
ให้การช่วยเหลือขั้นต้น เช่น การปฐมพยาบาล อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
6) สนับสนุนช่วยเหลือศูนย์เฉาะกิจฯในการสำรวจความเสียหายขั้นต้น เพื่อให้
ทราบจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้สูญหาย และพื้นที่เกิดภัยพิบัติ รายงานผู้บังคับกองร้อยฯ
(นายอำเภอ/ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ) ทราบโดยด่วน
7) ประเมินและรายงานสถานการณ์ สามารถควบคุมหรืออยู่ในขีดความสามารถที่จะ
ดำเนินการเองได้หรือไม่ หากเกินขีดความสามารถที่ปฏิบัติได้ ให้ร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
จากกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด หรือจากหน่วยข้างเคียง ส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน หรือหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่
ได้มีการประสานหรือบูรณาการตามแผนเผชิญเหตุฯ
8) การส่งกำลังบำรุงขั้นต้นตามขีดความสามารถ เช่น อาหาร น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ เครื่องนุ่งห่ม แก่ผู้ประสบภัยและกำลังพลที่เข้าช่วยเหลือ
9) การปฏิบัติการร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการส่งกลับผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือสถานพยาบาลชั่วคราวโดยด่วน ด้วยพาหนะทางบก ทางน้ำ หรือขอรับการสนับสนุนทางอากาศ รวมทั้งการกำหนดพื้นที่ที่พาหนะสามารถเข้าถึงหรือลงจอดได้
10) การปฏิบัติการร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้องเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตไปยังพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อรอการตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
11) จัดชุดปฏิบัติการสมาชิก อส. อยู่ประจำ เมื่อมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจฯ ส่วนหน้า
เพื่อประสานงานการช่วยเหลือในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ที่กำหนดไว้ ซึ่งยานพาหนะสามารถ เข้าถึงได้ในระดับตำบลหรือหมู่บ้าน
12) จัดชุดปฏิบัติการลำเลียง อาหารและน้ำดื่ม ด้วยยานพาหนะหรือเดินเท้า เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลไม่สามารถอพยพออกไปพื้นที่ปลอดภัยได้
13) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจ หรือฝ่ายทหาร รักษาความสงบ เรียบร้อย เพื่อ ป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินผู้ประสบภัย และการจัดระบบการจราจร
ตั้งจุดตรวจ เส้นทาง เข้า-ออก เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องและหน่วยช่วยเหลือปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก
14) หากเกินขีดความสามารถให้กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสั่งใช้สมาชิก อส. จากกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด หรือกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ/กิ่งอำเภอ ภายในพื้นที่จังหวัด ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ช่วยเหลือเพิ่มเติมก่อน และหากยังเกินขีดความสามารถให้ร้องขอกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เพื่อให้ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดนสั่งใช้กำลังสมาชิก อส. ข้ามเขตจังหวัด จากกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ หรือจากกองร้อยบังคับการและบริการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน (ส่วนแยกชะอำ) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
15) ฯลฯ (ข้อ 1) - 14) เป็นตัวอย่างเพิ่มเติมได้เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ )
3) ขั้นที่ 3 หลังเกิดภัยพิบัติ (การฟื้นฟู)
ก) จัดชุดปฏิบัติการเพื่อค้นหาผู้สูญหาย และกำจัดเก็บกวาดสิ่งปฏิกูลในที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย รวมทั้งการทำความสะอาดสถานที่ราชการ
ข) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับองค์กรภาคประชาชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยข้างเคียง บรรจุและขนย้ายสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากภาครัฐและภาคเอกชน
ค) จัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือพร้อมเครื่องมือช่างไม้ หรือช่างก่อสร้าง เ พื่อซ่อมแซมบ้านเรือน อาคาร ฝาย ทำนบ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ตามขีดความสามารถ
ง) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับสาธารณสุข ในการเฝ้าระวังและสนับสนุนช่วยเหลือ
เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดภายหลังเกิดภัยพิบัติ
จ) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ในการอำนวยความสะดวก
และการนำทางเข้าพื้นที่ภัยพิบัติ แก่คณะที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ฉ) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับหน่วยราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้
เครื่องมือจักรกลเปิดเส้นทางหรือซ่อมแซมทางคมนาคมในขั้นต้น
ช) การจัดทำบรรยายสรุปการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลสมาชิก อส.ในการช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยแก่คณะตรวจเยี่ยม หรือคณะที่มาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ซ) การรายงานผลการปฏิบัติงานของสมาชิก อส. พร้อมภาพถ่ายหรือแผ่นซีดี (ถ้ามี)
ให้กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนทราบ
ฌ) พิจารณาสับเปลี่ยนกำลังพลเพื่อหมุนเวียนกันพัก เมื่อมีการปฏิบัติงานติดต่อกัน
เป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นและมีกำลังพลเพิ่มเติมจากกองร้อยอาสารักษาดินแดนใกล้เคียง หรือจากกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดหรือหน่วยกำลังอื่น
ไม่มีความเห็น