คุณครูผู้น่ารักจากโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เคยร่วมกันจัดค่าย โทร.มาถามข่าวคราวด้วยความห่วงใยสถานการณ์ในกรุงเทพฯ คุยไปคุยมาก็เล่าให้ฟังถึงความปวดหัวของงบไทยเข้มแข็ง 2 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดของคุณครูได้รับงบมา 80 ล้านบาท แบ่งมาให้ทางโรงเรียนพร้อมกำชับว่าต้องเบิกจ่ายภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น คุณครูต้องรีบจัดการซื้อๆๆๆๆอย่างเร่งด่วน งบที่ว่านี้มีการบังคับหมวดการจัดซื้อไว้ เช่น ให้ซื้อเครื่องดนตรีไทย คุณครูคิดว่าอยากซื้อกลองยาวเพราะสอนได้และน่าจะได้ประโยชน์จริง แต่เมื่อสั่งซื้อปรากฏว่ากลองยาวขาดตลาดเพราะทุกโรงเรียนก็ได้รับงบเหมือนกันและต้องรีบซื้อเหมือนกันด้วย สุดท้ายทางร้านส่งอังกะลุงมาให้แทน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครจะสอน
จากเครื่องดนตรีต่อมาที่งบจัดซื้อสื่อการสอนประเภทซีดีรอม คุณครูปวดหัวมากเพราะที่โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์เพียง 3 ตัว แต่จะต้องซื้อสื่อมากมายไม่รู้ว่าเด็กๆจะเปิดดูครบได้อย่างไร การจัดค่ายอบรมให้นักเรียนที่ทางโรงเรียนสามารถจัดอาหารให้ได้ในราคาย่อมเยาก็ต้องพยายามสร้างตัวเลขเพื่อขอเบิกงบให้ได้ตามยอด มิฉะนั้นก็จะถูกต้นสังกัดเพ่งเล็งเพราะต้องยุ่งยากเรื่องคืนเงินงบประมาณ เหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณครูปวดหัวเป็นที่สุด
จบจากรายการไทยเข้มแข็งแล้ว งบเรียนฟรีก็จะเข้ามา และทางโรงเรียนจะต้องแจกค่าเสื้อนักเรียนให้กับผู้ปกครองก่อนปิดเทอมนี้ คุณครูบ่นว่าใครหนอช่างคิดให้แจกเงินตอนจะปิดเทอม เสื้อนักเรียนคงได้แปลงกายเป็นขวดเหล้าหรือมือถือกันยกใหญ่
คุณครูสรุปว่า ที่ทุกอย่างเร่งด่วนไปหมดก็คงเป็นเพราะนโยบายเหล่านี้เป็นเรื่องของประชานิยม ที่รัฐต้องรีบๆอัดให้เผื่อจะต้องมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ ที่จริงการมีงบประมาณมาให้โรงเรียนเป็นเรื่องดี แต่น่าจะมีเวลาให้คิดและดำเนินการให้เหมาะกับสภาพของโรงเรียนอย่างเป็นอิสระ ไม่ใช่บังคับกันทั้งเนื้อหาและเวลาแบบนี้
นี่อาจจะเป็นเพียงหนึ่งคำบ่นจากคุณครูหนึ่งคน แต่ก็สะท้อนให้เห็นความจริงของการใช้งบประมาณราชการไทยได้ชัดเจนมาก คงเป็นเสียงตัวแทนให้กับคุณครูอีกหลายท่านที่อยากบ่นในเรื่องนี้เหมือนๆกัน
ทำให้นึกถึง...การใช้งบของกระทรวงสาธารณสุขเช่นกัน...
เสียดายเงินประเทศชาติ...
ขอบคุณคุณ nui ที่มาเล่าจากมุมมองฝ่ายทำแผน
แล้วทำยังไงดีล่ะคะ แผนถึงจะออกมาเป็นงานได้อย่างเกิดผลและไม่ต้องผ่านกระบวนการมากมายอย่างนี้?
ขอฝากความหวังไว้ที่การพัฒนาและกระจายบุคลากรคุณภาพในท้องถิ่น
กับการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ประชาธิปไตยจะได้ไม่ต้องมาทวงกันในกรุงเทพฯอีกต่อไป