บทบาทสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยให้การจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยบรรลุอุดมการณ์การจัดการศึกษาตลอดชีวิต
นางสุปรางค์ทิพย์ หล้าหลั่น
ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีสมัยใหม่มีบทบาทอย่างกว้างขวางในทุกวงการ ซึ่งไม่ว่าเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีโทรมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำงานทุกด้าน นับตั้งแต่ทางด้านการศึกษา พาณิชยกรรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สาธารณสุข การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนด้านการเมืองและราชการ อันที่จริงแล้วจะเห็นว่าไม่มีงานด้านใดที่ไม่มีผู้คิดประยุกต์หรือนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปช่วยให้การทำงานนั้น ๆ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
บทบาทและความสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่อการพัฒนาการจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ดังนี้ 1. บทบาทในฐานะองค์ความรู้ เป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้ของการศึกษาทุกระบบ 2. บทบาทในฐานะเครื่องมือทางวิชาการ เช่น เป็นสื่อต่าง ๆ ของการเรียนรู้
3. บทบาทในฐานะเครื่องมือบริการทางวิชาการ ช่วยเผยแพร่ความรู้ให้นักเรียน ประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในระบการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย 4. บทบาทในฐานะทรัพยากรสนับสนุนการเรียน เป็นสิ่งอำนวยต่อการเรียนรู้ เช่นข้อสนเทศ/ข่าวสาร บุคคล วัสดุ เทคนิค และอาคารสถานที่ 5. บทบาทในฐานะเครื่องมือพัฒนาบุคลากร 6. บทบาทในฐานะเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้ เช่น จัดหาเครื่องมือกระตุ้นการเรียนรู้ สร้างชุมชนวิชาการ นำหลักสูตรซึ่งตั้งพื้นฐานที่เร้าใจ เป็นต้น 7. บทบาทในฐานะสนับสนุนการสอน เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในรูปแบบของการปฏิบัติ การใช้โปรแกรมทำงานประหนึ่งเป็นติวเตอร์การศึกษาตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้การศึกษาจะไร้ขีดพรมแดน ข้อจำกัดในด้านสถานที่ เวลา และด้านอื่นๆ จะไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้อีกต่อไป โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ชุมชนมีสิทธิและส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางจัดการศึกษา โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยระดมทรัพยากรและทุนทางสังคมเข้ามาเป็นปัจจัยในการจัดกิจกรรม ไม่จำเป็นจะต้องมุ่งใช้งบประมาณจากรัฐแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสและนิมิตหมายที่ดี ที่ชุมชนจะได้มีส่วนร่วมในการบูรณาการภูมิปัญญาชาวบ้าน จารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นเข้ากับการจัดการศึกษาในชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ การจัดการเรียนการสอน เปลี่ยนไปในรูป e-learningซึ่งต้องสนองตอบการศึกษาได้ทุกรูปแบบทั้งในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ตลอดจนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการก็จำเป็นต้อง ส่งเสริมและพัฒนาให้ทันกับสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง โดยการพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์ ระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการ และพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยจัดทำข้อมูลสารสนเทศเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดจนให้บริการทางการศึกษา ส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน จัดหา คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้ปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของงานในการจัดการศึกษา ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ประโยชน์จาก ICTเพื่อการเรียนรู้ ให้มีการสอนผ่าน e-learning เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตซึ่งนำไปสู่สังคมแห่งคุณธรรมและสังคมแห่ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการจัดการเรียนการสอนในสังคมปัจจุบัน ทำให้เด็กไทยสามารถรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่ทันสมัย ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทุกโรงเรียน”
ข้อมูลอ้างอิง
สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โรงการพัฒนาวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา ชุดวิชาการจัดองค์ทางการศึกษา เรื่อง ความรู้พื้นฐานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ไม่มีความเห็น