โฆษณา ดาบสองคม(ทางออกของปัญหา) และจิตวิทยาการขอ


Appreciative Inquiry : การขอด้วยโฆษณา

มาต่อกันจากเมื่อวานครับ ที่ผมได้พูดถึงอีกแง่มุมหนึ่ง

ของสื่อโฆษณา ที่กลายเป็นภัยต่อธุรกิจของเราไปซะงั้น

(ใครพลาด!!! สามารถอ่านได้ที่ >>>โฆษณา ดาบสองคม และจิตวิทยาการขอ <<< )

เรื่องราวในวันนี้จะเป็นการเสนอทางออกของปัญหา "ดาบสองคม" ของโฆษณา "การขอที่ Work ควรทำอย่างไร?"

โดยเฉพาะในระหว่างการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ทางออกที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน ตามผมมาครับ ^^



จากประสบการณ์ที่ผมเคยดูกีฬาประเภทนี้มากว่า 12 ปี รวมทั้งคอมเม้นจากคุณ "ชาญชัย เต็งสุจริตกุล" ซึ่งเป็นคอบอลเหมือนกัน

ความเห็นของเราไปในแนวทางเดียวกันครับ ตรงจุดนี้ผมคิดว่าน่าจะทำให้พอใจกันทั้งผู้บริโภค และเจ้าของโฆษณา

ในความเห็นของเรา 2 คน ทางออกมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธีครับ (ซึ่งมันเวิร์คกว่าการหุบจอการแข่งขันไปไว้มุมขวาบนแน่ๆ)

1.ให้โฆษณาวิ่งด้านล่างของจอ >>> วิธีนี้จะคล้ายกับตัววิ่งด้านล่างจอของ Free TV ในบ้านเราที่ใช้สำหรับดู

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ต่างประเทศเขาใช้กันมานานแล้วครับ บางเจ้าทำเป็นภาพ Animations

น่ารักๆ แทน Logo วิ่งธรรมดาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม ซึ่งก็ได้ผลครับ แถมไม่ขัดใจผู้บริโภคด้วย Work สุดๆ



2.ใช้พื้นที่ 1/3 ขอจอในการโฆษณา >>> วิธีนี้ก็เป็นทางออกที่ดีครับ ถึงแม้ว่าโฆษณาจะกินพื้นที่ถึง 1/3 ขอจอ แต่ก็ไม่ได้ขัดใจ

แฟนบอลแต่อย่างใดครับ เพราะไม่ได้ตัดเสียงพากย์ และบรรยากาศในการถ่ายทอดสดออกไป แค่โชว์ Logo กับข้อความนิดส์หน่อย

ตรงบริเวณ 1/3 จอนั้น เท่านี้สินค้าของท่านก็จะเป็นที่จดจำ และเข้าไปอยู่ในใจของเหล่าแฟนบอลได้โดยไม่ยากครับ Work มากๆ



3.ใช้ป้ายโฆษณาที่ข้างสนาม >>> วิธีนี้เป็นอะไรที่ Basic แต่คนไทยมักจะมองข้ามครับ... เพียงแค่ท่านนำป้ายโฆษณาของท่าน

ไปติดที่ข้างสนามตรงที่เขาจัดเตรียมไว้ เพียงเท่านี้สินค้าของท่านก็จะประจักสู่สายตาแฟนบอล ทั้งในและนอกสนามตลอด 90 นาที

แถมยังไม่ต้องมารอจังหวะตัดเข้าโฆษณาด้วย แฟนบอลจะจดจำว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีบอลดีๆดู เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ Work ครับ




เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... กับ "การขอด้วยโฆษณา" ทั้ง 3 วิธีนี้เป็นทางออกที่ดีของทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างเกมส์การแข่งขันฟุตบอลครับ

ผมว่ามันเป็นอะไรที่เวิร์คสุดๆ ผู้บริโภคไม่ต้องขัดใจที่ต้องมาชมโฆษณาของท่านทุกๆจังหวะที่ลูกออก แถมท่านก็ยังโฆษณาสินค้า

ของท่านได้ตามที่ต้องการ
อีกด้วย ส่วนโฆษณาเต็มรูปแบบก็จัดไปให้เต้มที่เลยครับ ระหว่างพักครึ่งเวลา 15 นาที ไม่ใครว่าครับ

แต่ระหว่างเกมส์การแข่งขัน "ขอเถอะครับ"... เพื่อที่เราจะได้ดูเกมส์สนุกๆ และก็ไม่พาลไปเกลียดสินค้าของท่านเอา โดยที่ท่านไม่รู้ตัว



แล้วคุณละคิดยังไง ^^


หมายเลขบันทึก: 340495เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2010 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีคะ ตัวอักษรวิ่งด้านล่าง เห็นแค่หนังสือ ไม่เห็นภาพ อาจจะไม่ชัดเจน รึป่าวคะ

ถ้าเห็นภาพบ้าง แบ่งพื้นที่จอมาน่าจะโอ ค่ะ แต่ไม่ดูบอล เลยไม่ติดใจค่ะ

1.ให้โฆษณาวิ่งด้านล่างของจอ ... บางเจ้าทำเป็นภาพ Animationsน่ารักๆ แทน Logo วิ่งธรรมดาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม ซึ่งก็ได้ผลครับ << ขอนำวิธีที่ว่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจหน่อยนะคะ พอดีทำ พรีเซนเตชั่นราคาสินค้าติดหน้าร้าน .. เคยคิดจะใช้ตัววิ่ง แต่กลัวลูกค้าไม่ให้ความสนใจ งั้นเดี๋ยวจะลองทำ animation ผสมผสานเข้าไปบ้าง เผื่อจะดึงสายตาลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านบ้าง เผื่อจะกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ 

แน่นอนคะว่าผู้ชมย่อมไม่ต้องการโฆษณา เพราะมันทำให้เสียอรรถรสในการชม

แต่....ตัวแปรที่สำคัญในการโฆษณาใดๆก็ตาม คือ "เงิน" ในเมื่อลงทุนไปตั้งเยอะแล้ว ผลตอบแทนก็ต้องได้กลับมาอย่างคุ้มค่า

แล้วเรื่องอาไรที่เค้าจะต้องยอมลดโฆษณาของเค้าให้มันเล็กลง ในขณะที่จ่ายเงินเท่าเดิม

ยิ่งหน้าจอเล็ก ก็ยิ่งทำให้ความสนใจของคนน้อยลงไปอีก..... แล้วเค้าจะลงทุนไปเพื่ออะไร

เค้าไม่แคร์หรอกคะว่า คนดูจะคิดอย่างไร จะด่าเค้ายังไง ไม่สนนนนน

เพราะอย่างน้อยก็ยังดีกว่า..มองไม่เห็นเลย ไม่สนเลย แม้แต่จะรำคาญเค้าก็ยอม

เพราะถึงจะรำคาญ แต่อย่างน้อยผู้ชมก็พูดถึง (ถึงจะในแง่ลบก็ตาม)

แต่หากไม่สนใจเลยล่ะ.....ความเงียบจะบังเกิด คนจะจำสินค้าไม่ได้ แล้วจะลงทุนทำไม

เจ้าของสินค้าไม่ได้เล็งเห็นจุดนี้หรอกคะ และไม่คิดหรอกคะว่า ถ้าให้ win-win จะต้องทำอย่างไร

แล้วคำว่า work ในที่นี้มัน workกับใคร เค้าคงคิดว่า....คงไม่ใช่กับเค้าอย่างแน่นอน

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
สวัสดีวันหยุดยาวค่ะ..ไปเที่ยวไหนรึปล่าวค่ะ..เอากล้วยบัวมาฝากด้วยค่ะ..เคยเห็นมั้ยเอ่ย..

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ

@คุณ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'- >>> ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ... ครับทางออกที่ผมว่าเป็นกลางสุดก็ตัวเลือกที่ 2 นั้นเอง เพราะก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร และก็ยังได้โฆษณาเหมือนเดิม ^^

@Jtom >>> ยินดีมากเลยครับที่บทความผมเป็นประโยชน์... แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว นี้ยังเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วยผมเป็นเกียรติมากเลยครับ ^^

@หนิง >>> ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ... สำหรับความเห็นของหนิงก็ไม่ผิดอะไรนะ ผู้ประกอบการที่สนับสนุนส่วนใหญ่ก็จะคิดอย่างงั้นละ แต่... ที่เอิร์ทเสนอคือมุมมองของผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าคิดเหมือนเอิร์ทนี้ละ ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะพูดในทางลบ ป่าวนะ... มันจะไม่พูด ไม่ซื้อ ไม่อะไรทั้งสิ้น จะหันไปใช้สินค้าทดแทนซะด้วยซ้ำ ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่าแต่เอิร์ทเป็น 555+ แล้วที่อยากเสนอมุมมองนี้เพราะว่าสมัยนี้ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องใส่ใจผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ไม่ใช่แต่ว่าจะขายอย่างเดียว ไม่งั้นก็ไม่ต่างอะไรกับประกันภัยที่พอระยะยาวก็จะไม่มีคนชอบเอาซะดื้อๆ ทั้งๆที่สินค้าไม่ได้ผิดอะไร แต่วิธีเสนอขายตั้งหากที่ผิด White Ocean ถึงได้เกิดขึ้นไงหนิง เพราะว่าบางอย่างต้องทำเพื่อสังคมมากขึ้น อยากจะยกย่องมากก็ "เบียร์ช้าง" ชมฟุตบอลโลก โดยไม่มีโฆษณาเป็นจ้าแรกที่กล้าทำ แล้วผลเป็นยังไง ช่่วงนั้นเอิร์ทเชื่อว่า เบียร์ช้างขายดีขึ้นแน่ๆ เพราะคอบอลทุกคนจะนึกถึงเขา ว่าเรามีบอลดีๆดูเพราะเขา แถมไม่มีโฆษณามากวนใจทุกลูกออกอีก แบบนี้จะไม่ดีกว่าเหรอ แทนที่จะหาโอกาสที่จะเสนอสินค้าอย่างเดียว แม้มันจะถูกพูดถึงใจแง่ลบก็ตาม และสิ่งที่บทความตัวนี้เสนอก็คือทางออกที่น่าจะดีสำหรับ 2 ฝ่าย ซึ่งผมก็ได้ดูบอล คุณก็ได้ขายของ ถึงจะบอกว่ามันไม่ชัดเจน แต่เราก็จำคุณไปในแง่บวก จริงไหมครับ... ก็ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ เป็นมุมมองของเจ้าของสินค้าที่ชัดทีเดียว ^^

@New.ครูบันเทิง >>> ขอบคุณที่แวะมาครับ และก็นำสิ่งดีๆมาฝากด้วย ผมไม่ได้ไปไหนหรอกครับ กลับบ้านมาพักผ่อนกับครอบครัว ขอให้มีความสุขในวันพระนี้ครับ ^^

เป็นบทความที่น่าเอาไปทำวิจัยเป็นอีกเรื่องนะ

ขอด้วยคนค่ะ  เพราะนู๋อยากดูจริงๆ 

T^T   plzzzzz

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีคะ ^^

ชอบที่มันอยู่ข้างสนามมากกว่า...

จริงอย่างที่อาจารย์บอกนะ น่าเอาไปทำวิจัยจริงๆอ่ะเอิร์ท เห็นด้วยๆๆๆ

จะได้หาทางได้จริงๆ จากการเก็บข้อมูลดูจริงๆ ว่ามีคอบอลที่คิดแบบเรามากน้อยแค่ไหน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพียงใด

ไม่แน่นะ... ถ้าทำแล้วเวิร์ค เอาไปเสนอพวกบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ ว่าเราได้ลองทำวิจัยแล้วกับคอบอล จำนวน..... ก็ว่าไป

สถาบันเราก็ถือว่ามีชื่อเสียง แล้วเรามาทำวิจัยเพื่อเสนอเขาแบบนี้ เขาต้องสนใจบ้างแหละนะ

ถ้าเขาสนใจจริงๆลองทำคำแนะนำ เราก็ช่วยติดตาม feedback เขาดูว่าเป็นอย่างไร จะเยี่ยมมากๆเลยนะ

แล้วในที่สุดก็น่าจะได้ทางออกทั้ง 2ฝ่ายนะ (เอาไปทำเป็นThesis จบได้เลยนะเนี่ย อิอิ)

ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ

ดีใจมากเลย ที่บทความนี้เป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน ^^

...พวกเขาอยู่ได้ก็เพราะป้ายแหละค่ะ...อย่าคิดมากเลย...เพราะชินซะแล้ว...

อืมมมม ให้โฆษณาทำแบบจอเล็กๆด้านขวาล่าง แทนคนแปลภาษามือก็ดีนะ ผมชอบตัวหนังสือเลื่อนมากกว่า ไม่เกะกะเสียอารณย์ดี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท