วันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2553 คณะทำงานฝ่ายบริการสารนิเทศ ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาได้จัดประชุมและบรรยายวิชาการ ณ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยมีบุคลากรสำนักหอสมุดเข้าร่วมประชุมและฟังการบรรยายจำนวน 2 คน คือ คุณอ้ชนา แสงกระจ่าง และคุณปทุมทิพย์ ลิ้มพงศานุรักษ์ ดังนี้
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปโดยคุณปทุมทิพย์ ลิ้มพงศานุรักษ์ ดังนี้
เมื่อวันที่ 4-5 ก.พ. ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกลุ่มคณะทำงานบริการที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะมีการประชุมแล้ว ยังมีการบรรยายด้วย ซึ่งหัวข้อการบรรยายในช่วงเช้า เวลา 9.00-12.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ชื่อว่า “แนวคิดและหลักการ: การบริหารทรัพยากรมนุษย์" โดย รศ.ดร.มณีวรรณ ฉัตรอุทัย ซึ่งเนื้อหาของการบรรยายเยอะ แต่อาจารย์สามารถบรรยายให้เข้าใจและเห็นภาพได้ โดยการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เนื้อหาบรรยายหลักๆ กล่าวถึงการบริหารทุนมนุษย์และการนำพาองค์การไปสู่ความสำเร็จ
ทุนมนุษย์ (Human Capital) หมายถึง ผลรวมของทักษะ ความรู้และประสบการณ์ของพนักงานที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นปัจจัยเพิ่มมูลค่าให้กับองค์การ หากได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม อาจารย์ได้ยกตัวอย่างแนวคิดของ Gary Stanley Becker ซึ่งเป็นผู้สร้าง Human Capital Investment Model อันประกอบด้วย Acquire – Manage – Optimise – Restructure ซึ่งสรุปให้เข้าใจแบบไทยๆ ได้ว่า สร้าง พัฒนาความสามารถคนทำงานในทุกระดับและสายงาน สงวน เก็บรักษาให้คงอยู่ สั่งสม ความสามารถชั้นเลิศ สนับสนุน ให้มีการจัดการ Human Capital อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่งานเสริม
ไฮไลท์ที่สำคัญที่อาจารย์เน้นย้ำให้พวกเราผู้เข้าบรรยายได้นำไปใช้ในการทำงาน คือ หลักการคิดแก้ปัญหา โดยอาจารย์ยกตัวอย่างจากหนังสือ How will your organization achieve process excellence? ของ Rummler & Brache มี 6 ข้อ ได้แก่
1. Output - เป้าหมายผลงาน ผู้ปฏิบัติงานรู้เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการและมาตรฐานงาน
2. Input - โครงสร้างสนับสนุนการทำงาน มีทรัพยากรเหมาะสมกับการทำงาน (เวลา เครื่องมือ จำนวนคน ข้อมูล)
3. Consequences - ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องสนองตอบภารกิจองค์กร ความต้องการของผู้รับบริการ
4. Feedback - ข้อมูลป้อนกลับ ผู้ปฏิบัติงานได้รับรู้ผลการทำงานเพื่อการปรับปรุง (เมื่อเกิดปัญหา ผู้ปฏิบัติงานต้องรับรู้ทันที จะได้แก้ปัญหาได้เร็ว)
5. Performer - ทักษะ ความรู้ที่จำเป็นในการทำงาน (Competency)
6. คุณลักษณะส่วนบุคคล กายภาพและวิธีคิด
ประเด็นสุดท้าย อาจารย์บรรยายถึง Competency บอกว่า เป็นเหมือนเสื้อสามารถ ที่แต่ละองค์การจะต้องตัดเย็บเอง คิดเอง ออกแบบเองให้เหมาะสมกับงาน (Key Job) อย่าลอกเลียนแบบเด็ดขาด ถ้าองค์การใดมี Competency จะทำให้กำหนดการฝึกอบรมได้ว่า พนักงานแต่ละตำแหน่งจะต้องรู้อะไรบ้างตามลำดับก่อน-หลัง Competency ทำให้องค์การดำเนินงานไปได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ทำให้องค์การสะกดคำว่า Success ได้ถูกต้อง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อันเนื่องมาจากการทำงาน ต้องกลับมาทบทวนว่า ณ ขณะนั้น Competency ของคนทำงานหายไปไหน ทำไมถึงเกิดปัญหาขึ้นได้ และที่สำคัญ Competency จะต้องไม่หยุดนิ่ง จะต้องตอบโจทย์ปัญหาใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 9.00-12.00 น. บรรยายเรื่อง การสื่อสารกับงานห้องสมุด โดย อ.ดร.กำพล แสวงบุญสถิต และเวลา 13.00-16.00 น. บรรยายเรื่อง สร้างทีมสร้างสุข โดย รศ.ดร.วิชัย อุตสาหกิจ
สรุปโดยคุณอัชนา ดังนี้
เรื่อง การสื่อสารกับงานห้องสมุด
ในมุมมองของอาจารย์ ห้องสมุดในปัจจุบันควรจะเป็น Library for change คือต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานของคุณลักษณะที่มีเพื่อการสร้างสรรค์ ห้องสมุดส่วนใหญ่ในขณะนี้ โดยเฉพาะห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษามุ่งบริการเพื่อให้ได้ 5คะแนนในการประกันคุณภาพ แต่ผลลัพธ์กับผู้ใช้จะเป็นแบบผิวเผิน จึงควรนำวัฒนธรรมของบ้านเรามาผสมผสานกับการให้บริการด้วย
อาจารย์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการสื่อสารที่สามารถนำไปใช้กับการดำเนินงานได้ ดังนี้
1. สื่อสารอัตตลักษณ์ คือห้องสมุดเป็นผู้ทำหน้าที่ในการแนะนำ แบ่งปัน
เสริมสร้างสติปัญญา ความรู้และคุณธรรม
2. สื่อสารกับใคร หากเป็นห้องสมุดในสถาบันอุดมศึกษาจะเป็นนักศึกษา อาจารย์
เจ้าหน้าที่ นักวิจัย และนักวิชาการ
3. สื่อสารผ่านสื่ออะไร E-mail SMS จดหมายข่าว แผ่นปลิว โปสเตอร์ และ Web
4. สื่อสารอย่างไร อาจจะเป็นภาพลักษณ์/อัตลักษณ์ใหม่ การประกวดตั้งชื่อ
ห้องสมุด หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ
ในส่วนบริการของห้องสมุดโดยเฉพาะห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา อาจารย์ให้ข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. สร้างอัตลักษณ์
2. แสดงวิทยานิพนธ์/สารนิพนธ์ดีเด่น หนังสือใหม่ จัดทำbook review ฯลฯ
3. อบรมการทำบรรณานุกรม การใช้ฐานข้อมูล การเขียนวิทยานิพนธ์ การนำเสนอผลงานวิชาการ
4. แนะนำและดูแลนักศึกษาที่ทำวิทยานิพนธ์เป็นรายบุคคล
เรื่อง สร้างทีมสร้างสุข
สำหรับหัวข้อนี้อาจารย์ใช้วิธีการบรรยายกับการทำกิจกรรม 1 อย่างโดยมีเป้าหมายให้เห็นชัยชนะ หากทำงานเป็นทีมคือการแข่งขันทำอาหารเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน โดยแบ่งผู้ร่วมสัมมนาเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะได้รับเครื่องปรุง 1 อย่าง ซึ่งจะต้องเอาไปแลกกับกลุ่มอื่นเพื่อนำมาประกอบอาหารให้ได้มากอย่างที่สุด และใช้เสียงโหวตของผู้ร่วมสัมมนาว่าเป็นอาหารที่รับประทานได้หรือไม่ได้ เนื่องจากจำนวนผู้ร่วมสัมมนามีมากเกิน 100 ราย จึงทำให้เสียเวลากับกิจกรรมนี้ค่อนข้างนานเกินไป
ส่วนเนื้อหาของการบรรยายแยกเป็นประเด็นได้ ดังนี้
1. องค์กรที่มีประสิทธิภาพสูง จะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
1. การทำงานเป็นทีม
2. ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
3. โครงสร้างของการบริหารงาน
2. การทำงานเป็นทีม ทีมงานที่ดีมีลักษณะ ดังนี้
1. มีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายชัดเจน เป็นที่เข้าใจร่วมกัน
2. สื่อสารตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์
3. ตัดสินใจโดยใช้มติกลุ่ม
4. มีความคิดสร้างสรรค์
5. มีทิศทางชัดเจน
3. ความไว้วางใจที่เป็นปัจจัยทำให้ทีมงานเข้มแข็งมีมิติสำคัญ ได้แก่
1. ความซื่อสัตย์
2. ความสามารถ
3. ความสม่ำเสมอ
4. ความภักดี
5. ความเปิดเผย ตรงไปตรงมา
ในตอนท้ายของการบรรยายอาจารย์ได้ให้สูตรลับของความสำเร็จในการทำงาน คือ
การทำงานแบบ 3 ส ได้แก่ใช้สติ มุ่งความสำเร็จ และสร้างความสุข
ไม่มีความเห็น