ครูตีนักเรียน
ปรากฎการณ์อย่างนี้มีมานานคู่กับการศึกษาไทย
แต่ครูเรียนรู้อะไรบ้างจากการตีเด็กแต่ละครั้ง และแต่ละคน หรือว่าแค่ตี (Just ตี) ไม่ได้คิดอะไรเลย
น้องโอ๊ฆ อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง กลับมาจากโรงเรียนสักพักก็บอกคุณพ่อว่า...
น้องโอ๊ฆ : ป่าป๊า... เจ็บ
ป่าป๊า : เจ็บตรงไหนลูก
น้องโอ๊ฆ : ชี้ให้ดูด้านหลังมือซ้ายน้อยๆ ของเค้า ปรากฎว่ามีรอยของมีคมบาด และบวมเล็กน้อย
ป่าป๊า : ไปโดนอะไรมาลูก
น้องโอ๊ฆ : คุณครู xxx ตี
ป่าป๊า : ครูใช้อะไรตีครับ
น้องโอ๊ฆ : ไม้บรรทัด
ป่าป๊า : ไม้บรรทัดทำจากอะไรลูก พลาสติกหรือเหล็ก
น้องโอ๊ฆ : เหล็ก
เกิดคำถามขึ้นในใจผมทันที
จึงเป็นที่มาของบันทึกนี้...
เราก็เคยโดนตีกันมาก่อนแทบทุกคน ครูก็ตีเด็กมานับไม่ถ้วน เราเรียนรู้อะไรจากการตีและการถูกตีบ้าง...
ถึงเวลาต้องมาทำ Analysis กันอีกครั้ง
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการตี
อุปกรณ์ที่ใช้ตีเด็กได้
ตำแหน่งที่ตีได้ (ไม่เกิดอันตรายถ้าไม่ตีแรงเกินไป)
วิธีการตี
สิ่งที่สำคัญคือ
ผมไม่ได้รังเกียจหรือ Anti การตีเด็ก แต่อยากฝากไปถึงทุกคนที่จะตีเด็กว่า คิดก่อนตี คิดอะไร ก็ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ที่จริงเรื่องการตีเด็กนี้ ได้มีการวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นผลเสียของการตี มีหลักฐานมากจนเกินกว่าที่จะมาถกเถียงกันแล้วครับ ขณะนี้ทั่วโลกมีกว่าสามสิบประเทศที่ได้ออกกฎหมายห้ามตีเด็กในทุกสถานที่แล้ว ลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.endcorporalpunishment.org/ ก็จะเห็นได้ชัดครับ ปีที่แล้วมีการประชุมระดับนานาชาติเพื่อยุติการเฆี่ยนตีเด็กเป็นครั้งแรกที่เมืองดัลลัส เทกซัส ซึ่งผมได้ไปร่วมประชุมและบรรยายด้วย มีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาเสนอผลงานวิจัยและแบ่งปันประสบการณ์ เข้าไปดูข้อมูลได้ที่นี่ครับ http://smu.edu/psychology/html/globalSummit.html