๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓
แด่เธอผู้เป็นที่รัก
...
เมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงฉันได้ถามตัวฉันเองว่า จริงแท้แล้ว "ฉัน" นั้นมีความรักต่อที่รักหรือไม่ หรือว่าฉันนั้นเพียงแค่เกิดความรักในตัวเอง อันเป็นความรักที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาในห้วงเวลาสองสามวัน ... ทั้งๆ ที่ฉันนั้นได้พบปรากฏการณ์แห่งการเรียนรู้ในตนเอง และเกิดเป็นความซาบซึ้ง แท้จริงแล้วฉันกำลังโดนหลอกด้วยความอยากหรือไม่
หากว่าฉันรักจริง ใจของฉันต้องเบิกบานสิ
ฉันกำลังถูกเจ้าราคะนั้นหลอกลวงให้เกิดการยึดว่านี่คือ ความรักของฉัน ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่และไม่มีเลย ไม่มีคำว่า "ความรักของฉัน"... ที่แท้แล้ว มันเป็นเพียงอาการ "รัก" อันไร้เงื่อนไข ... ซึ่งที่ผ่านมานั้นฉันได้นำพาตนเองก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการฝึกฝนรักไร้เงื่อนไขนี้ อันเป็นรักที่ใครๆ ก็โหยหาให้เกิดเป็นความอิ่มในใจ...
สองสามวันมานี่ฉัน...ได้ก้าวพลาดไปในหลุมพรางและกักดักที่ทำมาดักทางเดินของฉันเอง ใจของฉันเต็มไปด้วยการครอบครองและความเห็นแก่ตัว ... แต่หลงประเสริฐไปว่า "ฉัน" นั้นมีความรักที่ยิ่งใหญ่
ที่รัก...ฉันรู้สึกเสียใจที่ได้สาดความทุกข์อันแฝงในรูปของความโกรธและความไม่พอใจ อันเป็นความโกรธและความไม่พอใจที่เป็น "อณู" เล็กๆ ที่แทบสัมผัสไม่ได้ หลายครั้งที่ที่รักสะท้อนและให้สติ... แต่ฉันนั้นก็ยังมองไม่เห็น
"ฉัน"...นั่งลง และมองมาที่ใจ มันช่างมีแต่ความบีบคั้นและอาการอยากปะทุ ปะทะ และความเจ็บปวด... แต่อาการเหล่านี้ ฉันนั้นมองไม่เห็นในตัวเอง แต่หลายครั้งฉันนั้นเลือกที่จะไปสาดใส่ที่รักเสมอ ... ความเห็นตัวของฉันช่างเลวร้ายเสียจริง ตกลงแล้วฉันรักที่รักหรือฉันรักตัวเองกันแน่... ความไม่แคร์ ความไม่ใส่ใจ ความเอื้ออาทร ฉันนั้นปรารถนาที่อยากจะทำจริงเพื่อให้ที่รักบรรเทาทุกข์ หรือเพียงแค่สนองให้ฉันทุกข์เบาบางลง...
เป็นเรื่องที่ ฉัน...ได้เลือกนำมาใคร่ครวญในตนเอง
แล้วฉันก็พบว่า ฉันนั้นกำลังถูกตนเองหลอกอย่างไม่รู้ตัว
ความรักที่ใสใส...ที่มักนำพาความเบิกบานมาสู่ใจของฉัน ดั่งดอกไม้บานนั้น ตอนนี้โดนความร้อนของโทสะราดลงไปทำให้ดอกไม้นั้นเหี่ยวเฉา โชคดีที่ว่า ... ดอกไม้นั้นยังไม่ตาย แต่ต้องเป็นหน้าที่ของฉันล่ะนะที่จะต้องหันมาฟูมฟักให้ดอกไม้นี้ฟื้นตัวขึ้นมา
การภาวนาอยู่กับลมหายใจ ทำให้ฉันได้มีสติ...และมองเห็นอณูอันเป็นอนุสัยเล็กๆ ของความเห็นแก่ตัวนอนเนืองอยู่ในใจ ฉันเกือบพลาดทำร้าย "ใจ" ของที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโง่เขลา...
ค่ำคืนนี้...ฉันขอโทษที่รัก ที่ได้ทำให้ที่รักต้องเศร้าหมอง และปนเปื้อนรอยแห่งความรุ่มร้อนในใจนี้ ฉันต้องหันกลับมาดูแลและเยียวยาใจ...ดวงนี้เสมอว่าเป็นลูกน้อยๆ ที่ฉันต้องตระคองกอดให้เขาหรือเธอปลอดภัยจากความโกรธ และความอยากในต่างๆ ...
ที่รัก...ฉันหวังว่าค่ำคืนนี้ ดวงดาวบนท้องฟ้าจะส่องนำทางให้ที่รักได้หลับไปด้วยใจสว่างอันเปี่ยมด้วยอนุภาคแห่งความรักที่ตระคองกอดใจของที่รักไว้...พรุ่งนี้เช้าท้องฟ้าจะรอรับความสว่าง...ของแสงตะวันอีกครั้ง แล้วเราจะได้พบกับความอบอุ่นแห่งใจอีกครั้ง
ด้วยความรัก
๒๓.๕๒
สวัสดีค่ะ
พรุ่งนี้รอพบความอบอุ่นจากใจด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อีกมุมหนึ่งที่หนูขอโอกาสเข้ามาเรียนรู้ความรักอย่างไร้เงื่อนไข แม้จะยังไม่สามารถน้อมมาสู่ใจได้อย่างเต็มที่ แต่ขอโอกาสเข้ามาเรียนรู้ฝึกฝนตน ให้เข้า "ใจ" รักที่ไร้เงื่อนไข
กราบขอบพระคุณค่ะ
มีพี่ครูต้อยkrutoiting ...เช้าวันนี้แดดอุ่นดีจังเลยค่ะ
เมื่อเรานั้นน้อมมาอยู่กับลมหายใจของเราแล้ว..ใจจะอุ่นๆ เมื่อใจอุ่น ... อันเป็นใจที่ผ่านการเคลื่อนไหวด้วยลมหายใจที่สบาย เรามองเห็นและสัมผัสการเคลื่อนเข้าและออกของลมหายใจ แล้วเราจะมองเห็น "ความรัก" อันเบิกบานที่แผ่ซ่านเข้าและออกตามลมหายใจนั้นค่ะ...
การฝึกฝนด้วยการวิ่งหรือเดินภาวนา...จะทำให้เราตามการเคลื่อนไหวของลมได้ดีขึ้นค่ะ
แล้วติ๋ว ใบไม้ร้องเพลง ... คิด ว่า "ความรักอย่างไร้เงืื่อนไข" มันเป็นเป็นเช่นไรเหรอ
ความรักอย่างไร้เงื่อนไข ไม่ใช่ทฤษฎีที่เราท่องจำ หากแต่จะปรากฏขึ้นในใจเรา เราเท่านั้นจะเป็นผู้รู้ได้ด้วยตัวเราเอง ..
ไหน...ติ๋ว ลองมองเข้ามาในใจตนเองสิว่า ตอนนี้ "ใจ" ของเรานั้นเข้าใจคำว่า "รักอย่างไร้เงื่อนไข" นั้นเป็นเช่นไร...