เทคนิคการเดาอย่างมีหลักการ เพิ่มโอกาสถูก 30-100% ถึงเรียนไม่เก่ง อ่านไม่จำ แต่ก็ทำข้อสอบได้


เก่งไม่เก่ง ก็เดาข้อสอบได้


เทคนิคการเดาข้อสอบและการตอบคำถามที่ไม่มั่นใจ
เวลาคับขัน สับสน และจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกตอบปัญหา ที่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเดาข้อสอบ ฉะนั้นคุณที่เคยผ่านการสอบมาแล้ว คงไม่มีใครที่จะหลีกเลี่ยงการเดาข้อสอบในบางข้อที่คุณไม่สามารถทำได้ หนทางในการตัดสินใจช่างมืดมนเสียเหลือเกินจะทำอย่างไรดี

ในสถานการณ์เช่นนี้ การเดาข้อสอบย่อมเกิดขึ้นได้เสมอและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับการส่งกระดาษเปล่าคับ

หลายคนอาจเห็นว่าไม่ควรทำ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง ทุกคนต้องผ่านขั้นตอนนี้มาแล้วกันทั้งนั้น

เพราะ ฉะนั้นในการเดาข้อสอบแต่ละครั้งจึงต้องอาศัยเทคนิคต่างๆ เป็นองค์ประกอบเข้าช่วย ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ การสังเกตและการพิจารณาคำถามนั้นๆ โดยเลือกตามหลักของความน่าจะเป็นไปที่จะหาความเสี่ยงน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้

เทคนิคในการเดาข้อสอบที่นิยมใช้เป็นหลักในเป็นการช่อยตัดสินใจมีดังต่อไปนี้

1.จงระลึกอยู่เสมอว่า คำตอบแรกที่นึกขึ้นได้ มักจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องก่อนเสมอข้อนี้มักเป็นพื้นฐานในการเดาข้อสอบอยู่เสมอ

2.สังเกตเปรียบเทียบจากคำตอบและคำถามจากข้ออื่นๆเข้าประกอบตัดสินใจ บางครั้งมีคำตอบในข้อที่ต้องเดา อาจจะซ่อนอยู่ข้ออื่นๆก็ได้

3.คำ ตอบที่ไม่มีในข้อนี้ อาจจะมีในข้ออื่นๆ แม้บางครั้งคำตอบในข้ออื่นนั้นอาจจะไม่ใช่ข้อที่ถูกต้องที่สุดในข้อนั้น แต่ก็ต้องเปรียบเทียบดูก่อนที่จะตอบลงไป

4.การสลับข้อสอบแบบเรียง เช่น เมื่อข้ออื่นๆ มีคำตอบข้อ ก.ข.ค.ง.แล้วเริ่มต่อด้วย ข้อ ก.ข.ค. ใหม่ คำตอบต่อไปก็น่าจะเป็นไปได้ว่า เป็นข้อ ง. ข้อนี้ไม่ควรจะจริงจังจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงก็มีบางวิชาที่อาจารย์บางท่านที่ชอบออกข้อสอบแล้วมีคำตอบ ต่างๆ ที่ทดสอบทักษะการสังเกตของนักเรียน หรือบางท่านที่ต้องการความสวยงามและง่ายในการตรวจ โดยเฉพาะข้อสอบแบบปรนัย (โดยปกติอาจารย์จะเจาะกระดาษคำตอบเป็นช่องๆ แล้วเอาทาบตรงกระดาษของนักเรียนแล้วตรวจตามนั้น แต่บางครั้งก็ตรวจโดยการใช้คอมพิวเตอร์)เพราะฉะนั้นนอกขากการเดาข้อสอบแล้ว ก็ต้องเดา(ทาย) ใจอาจารย์เจ้าของวิชาด้วย

5.การตอบแบบบรรยาย แบบน้ำท่วมทุ่ง (กรณีข้อสอบเป็นอัตนัย) ก็ช่อยแก้สถานการณ์ที่วิกฤตได้ หากไม่ตอบอาจจะได้ศูนย์คะแนน แต่บางครั้งอาจารย์จะให้คะแนนสงสารหรือค่าน้ำหมึก แม้ได้คะแนนน้อยแต่ก็มีผลไปเพิ่มคะแนนรวมในข้ออื่นๆได้

6.ให้นึกถึง การบรรยายที่ผ่านมาว่ามีอะไรลางๆ ที่พอจะเป็นเค้าในการเดาข้อสอบ มีข้อไหนที่ทำให้สะกิดใจเมื่อเห็นว่าควรจะเห็นไปได้ให้รีบเขียนลงในกระดาษคำ ถามทันที ก่อนที่คำตอบนั้นจะเลือนหายไปเสียก่อน

7.เมื่อเริ่มทำข้อ สอบให้ทำตำหนิไว้ก่อน (ในข้อจำเป็นต้องอาศัยการเดา) เมื่อทำเสร็จหมดแล้วให้กลับมาทบทวนอีกครั้ง เพราะบางครั้งข้อสอบที่ทำไปอาจมีคำตอบในข้อนี้ อย่ารีบร้อนส่ง ควรอ่านให้ดีจนเวลาใกล้หมดจึงส่งกระดาษคำตอบนั้น

8.สรุปข้อสอบ ในทุกข้อที่มีแล้วหาคำตอบว่าเกี่ยวโยงหรือมีความคล้ายคลึงพอที่จะเป็นคำตอบ ได้หรือไม่ หรือนั่งรอในห้องสอบจนวินาทีสุดท้าย ไม่ควรเร่งรีบออกจากห้องสอบแม้รู้ตัวว่าทำไม่ได้ก็ตาม ก็ควรนึกตรึกตรองข้อส

กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่านน่ะครับ เพราะว่ามันไม่แน่เสมอไป ผมเองก็ไม่เคยทำแบบนี้น่ะ ลองอ่านดู เผื่อว่าจะช่วยหาทางออกให้คุณได้ ในยามคับขัน

คำสำคัญ (Tags): #ข้อสอบ
หมายเลขบันทึก: 324837เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2010 21:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 10:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

น่าสนๆ แต่จบแล้วครับ เลยอดใช้วิธีนี้

เฮ้อๆๆ ใช้บ่อยรึป่าวคนตานี อิอิ

เมื่อครั้งอดีต แต่ปัจจุบัน ละ เลิก ไปจากวงการนี้แล้ว

การเดาอย่างมีหลักการนี้

ผมเคยใช้ตอน Entrance เหมือนกันครับ จำได้เลยว่าวิชาคณิตศาสตร์

จำได้ว่า Entrance สมัยก่อน ข้อสอบกากบาทจะเฉลี่ยข้อออกครับ คือกันคนเดาแบบยิงข้อเดียว ( กาข้อใดข้อหนึ่งหมด )

เทคนิคที่ใช้ตอนนั้นจำได้ว่า ให้ทำแต่ข้อที่คิดว่าถูกแน่ๆ 100% ให้ได้สัก 7 ข้อก่อน ( ย้ำครับว่าต้องชัวจริงๆ )

ทีนี้มาดูต่อว่าตัวเลือกไหนที่ได้เลือกน้อยที่สุด ให้จัดการยิงข้อที่เหลือไปที่ข้อนั้นทั้งหมด แล้วก็ได้ผลจริงๆครับ

Ent รอบแรกผมได้ 18 พอมารอบที่ 2 ได้ 38 เพราะใช้เทคนิคนี้

และอยากฝากอีกอย่าง จากประสบการณ์ของผม ความคิดแรกมักจะถูกต้องครับ ( 90% เลยก็ว่าได้ )

สำหรับข้อสอบบรรยายนะครับ ประสบการณ์ตรงจาก ป.โท เลย เขียนไปเถอะครับ ขอให้เขียนว่าเราคิดยังไงกับข้อนี้

(ถ้าไม่ใช่ข้อสอบคำนวนนะครับ) มีความรู้อะไรพยายามบรรยายไป อาจารย์ท่านจะพยายามหาที่ให้คะแนนครับ

แต่ถ้าไม่เขียนโอกาสของเราก็จะเป็น 0 ไปเลยครับ เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เสียโอกาสครับ ^^

ได้ผลจริงน่ะครับ คุณเอิร์ท สงสัย ต้องลองซะแล้วครับงานนี้ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท