สหายรัก...เรายังเหมือนเดิม


พี่ผีให้เลือกว่าชอบบทกวีใดมากกว่าระหว่าง “..........” พี่ผีร่ายบทกวียาวเหยียดอย่างไพเราะยิ่งนัก แต่ฉันจำไม่ได้...กับบทกวีที่ว่า “กบกระโดดน้ำดังจ๋อม”

 ดอกหญ้าริมทาง บนเนินเขา ณ ผาแต้ม

เรานั่งล้อมวงกันอยู่รอบกองไฟด้วยพึ่งพิงท่อนฟืนน้อยใหญ่เป็นเชื้อไฟ แผ่ผ่านไออุ่น  ท่ามกลางความมืดที่ประดับประดาด้วยดวงดาวน้อยใหญ่สุกสกาวระยิบระยับดาษดื่นท้องฟ้า สดับฟังเสียงจิ้งหรีดร้องระงม...ไม่น่าเชื่อว่ากลางป่าผืนน้อยแห่งนี้จะหายุงได้ยากเหลือเกิน ราวกับว่านั่งอยู่ในมุ้งหลังใหญ่ที่ธรรมชาติบรรจงกางไว้เผื่อแผ่มวลมนุษย์...วันนี้อากาศไม่หนาวไม่ร้อน สบายตัวสบายใจ...สัมผัสลมหายใจเข้าบางเบา ลมหายใจออกสบายๆ...ด้วยจิตเบิกบาน...

ระยะหลังมานี้เราไม่ได้พบกันนานหลายปีแล้ว... “สุขสันต์วันเกิดจ้า...” เมื่อปีที่แล้วฉันได้รับโทรศัพท์จากเธอด้วยความตื่นเต้นดีใจ...เธอไม่เคยลืมวันเกิดของฉันเลย...โลกช่างกลมจริงๆด้วย วันเวลาหมุนเวียนให้เธอได้มาทำงานเป็นผู้บริหารใหญ่โตที่จังหวัดเดียวกันกับที่ฉันอาศัยอยู่ในขณะนี้...เธอแวะมาหาฉันโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า...เราสวมกอดกันด้วยความดีใจอย่างบอกไม่ถูก...ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันและกันด้วยห่วงใยเสมอมา

เธอเล่าถึงพ่อของน้องชีวาว่า...เมื่อครั้งที่เรียนจบปริญญาตรี สาขาปรัชญาแล้วได้เดินทางขึ้นเหนือไปหาห้องสอบเข้าเรียนต่อปริญญาโท สาขาวิชาประวัติศาสตร์นั้น แทนที่จะเจอห้องสอบ...ทว่ากลับเจอกับพี่ผี ดังนั้นในฐานะรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าถิ่น...พี่ผีจึงอาสาพาเธอไปส่งที่ห้องสอบนั้น...ซึ่งเป็นการพบหน้ากันหลังจากที่ไม่ได้เห็นกันมานานหลายปีอย่างไม่คาดคิดโดยบังเอิญ...อย่าประมาทไปบุพเพอาละวาดมีจริงนะ...

ฉันยังจำภาพวันนั้นเมื่อประมาณสี่ปีก่อนได้ว่า...เพื่อนๆศิลปินของเธอจากเชียงใหม่เดินทางมาร่วมงานแต่ง พร้อมกับขับขานบทกลอนอย่างซึ้งใจ...ซึ่งฉันก็พลอยซึ้งใจเคลิบเคลิ้มตามไปด้วย...

        

    ที่พักระหว่างเส้นทางเดินชมผาแต้ม...                ย่ำเดิน ด้วยเปลวแดดที่แผดเผา

วันนี้...ความเหนื่อยล้าหลังจากการเดินเท้าราวสี่กิโลเมตรชมผาแต้ม ท่ามกลางแสงแดดจ้าเมื่อตอนกลางวัน...ได้คลาย หายเป็นปลิดทิ้ง...เมื่อพวกเราพ่อ แม่ ลูก ลูก ลูกมาถึงที่หมายตอนพลบค่ำ...เราลงมือทำอาหารด้วยเตาถ่านที่พี่ผีนำมาตั้งไว้บริเวณลานหน้าบ้านใกล้ๆกับกองไฟที่ก่อด้วยกิ่งไม้แห้ง...ขณะทำอาหารภายใต้แสงเทียนที่จุดไว้หลายเล่มตามมุมต่างๆนั้น เด็กๆก็เล่นกันกระหนุงกระหนิงตามประสาเด็กผู้หญิงวนเวียนอยู่รอบๆกองไฟ... “แม่จ๋า...หนูเห็นตัวอะไรด้วยค่ะ...” น้องชีวาร้องบอก...ปรากฎว่าเป็นงูตัวน้อยที่ไม่มีพิษเลื้อยมา เธอบอกว่าเรากับงูอาศัยอยู่ร่วมกันในระบบนิเวศน์ พี่ผีเสริมอีกว่างูจะไม่ทำอะไรเราหรอก...ถ้าเราไม่ไปเดินเหยียบหัวมันเข้า!...เราจึงไล่มันเข้าป่าไปโดยไม่ทำร้ายกัน...

 ร่องรอยวัฒนธรรมทรงคุณค่า ณ ผาแต้ม

หลังจากต้มน้ำให้เด็กๆอาบด้วยกันอย่างสนุกสนานในกะละมังใบใหญ่แล้วนั้น...น้องพลอยเดินมาบอกแม่ว่า “หนูเห็นคางคกในห้องน้ำด้วยจ้ะ...” น้องชีวาไม่รอช้ารีบอธิบายให้พี่พลอยเข้าใจว่า “แม่จ๋าบอกว่า...อึ่งอ่างไม่ใช่คางคกนะ...มันอยู่ด้วยกันกับเรา...มันไม่ทำอะไรเราหรอก...” ลูกๆช่างใสซื่อบริสุทธิ์น่ารักอย่างไม่มีขีดสุด...พี่ผียังมีข้อเสนอจากการสังเกตพฤติกรรมของลูกอีกว่า...ถ้าพ่อแม่มีความสุขแล้ว...รัสมีของความสุขน่าจะแผ่ผ่านถึงลูกและทำให้ลูกจะมีความสุขตามไปด้วย...ท่านอาจจะไม่ต้องเดินเข้าไปเล่นกับลูก แต่จงทำให้ลูกเดินเข้ามาเล่นกับท่าน... “เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้นนะครับ...” พี่ผีย้ำ จากการรับรู้ถึงความรู้สึกของความเป็นแม่มากว่าสิบสามปีแล้วนั้น...ฉันอดที่จะพูดไม่ได้ว่า “เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ...”

บรรยากาศแห่งการโสเหล่ อบอวลสรวลเสเออา คละเคล้าเสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจ ปราศจากการเสแสร้ง หลุดจากพันธนาการที่ร้อยรัด ไร้กรอบ แลกฎเกณฑ์  ด้วยเธอและพี่ผีมีมุกขำกลิ้งตลอดเวลา...ทั้งมุกคำผวน...มุกปรัชญา...มุกหนังตลก...ที่ฉันชอบใจมากที่สุดคือ หนังตลกที่ทุกคนในเรื่องชื่อปิแอร์ทั้งหมด...และเรื่องที่พี่ผีให้เลือกว่าชอบบทกวีใดมากกว่าระหว่าง “..........” พี่ผีร่ายบทกวียาวเหยียดอย่างไพเราะยิ่งนัก แต่ฉันจำไม่ได้...กับบทกวีที่ว่า “กบกระโดดน้ำดังจ๋อม” ไม่ต้องคิดยากเลยเธอกับฉันเลือกชอบ “กบกระโดดน้ำดังจ๋อม” ในขณะที่คุณพ่อผู้มีสาระนั่งขบคิดค้นหาความหมายแฝงเชิงปรัชญาที่ซ่อนอยู่ในบทกวี...ทว่าสุดท้ายก็หัวร่อด้วยกันทั้งวงจนท้องแข็งอยู่นาน...มันไม่มีอะไรหรอก ค่ำคืนนี้มีเพียงมิตรภาพระหว่างเราเท่านั้นเอง...

ยามค่ำคืนมืดมิดดึกสงัดแล้ว ลมหนาวเริ่มโชยมาแตะผิวกายทำให้รู้สึกได้ถึงความเย็น...พัดพาเรื่องราวในวงเดินทางย้อนกาลเวลาเข้าไปในอดีต...หวนคิดถึงความหลังสมัยเรียนมัธยมปลายด้วยกัน...แม้!..ชวนหัวซะเหลือเกิน...เธอมักจะมาโรงเรียนตั้งแต่เช้าตรู่ราวหกโมงเช้า...หลายครั้งที่ฉันเห็นเธอเอาไม้กวาดทางมะพร้าวหรือไม่ก็คราดมือเสือที่ทำจากไม้ไผ่ กวาดใบไม้แห้งที่ล่วงหล่นบนลานดินอันเป็นบริเวณที่เธอสิงสถิตเป็นประจำ...นิสัยรักการอ่านอย่างยิ่งยวดทำให้เธอเป็นคนรอบรู้อย่างกว้างขวาง และมีแนวคิดที่ดูจะผิดแผกแหวกแนวจากเพื่อนวัยเดียวกัน...หนังสือที่เป็นแบบเรียนในสมัยนั้นไม่สามารถดึงดูดให้เธออยากรู้อยากเห็นได้เท่าใดนัก เธอจึงชอบเข้าห้องสมุดของโรงเรียนแทบทุกครั้งที่มีเวลาว่าง...อ่านหนังสือทุกเล่มที่เธอสนใจจนหมดห้องสมุด...มิหนำซ้ำยังยืมออกมาแล้วอ่านในชั่วโมงเรียนอีกต่างหาก หนังสือแบบเรียนอยู่ด้านนอกแต่ไส้ในกลับเป็นหนังสืออื่นที่เธอสนใจอยากจะอ่าน จำพวกปรัชญา ดาราศาสตร์ ศาสนา เป็นต้น...

“คนแก่มักจะชอบพูดถึงความหลัง...”พี่ผีหยอกเย้าเราสองคน...เปลวไฟเริ่มริบหรี่ลงคงเหลือเป็นถ่านไม้ที่ครุแดง....เธอได้จังหวะลุกขึ้นเดินอย่างกระฉับกระเฉงด้วยไฟฉายติดมือหายไปในความมืด กลับมาอีกที่ก็เห็นลากฟืนท่อนใหญ่จากป่าผืนน้อยหน้าบ้านที่เธอคุ้นเคย (จะว่าไปแล้วอย่าว่าแต่ป่าผืนน้อยเลย ป่าผืนใหญ่หลายแห่งเธอก็คุ้นเคยเช่นกัน) มาเติมเชื้อไฟ ไม่ยอมให้มอด...ตลอดคืน...ได้ทีพี่ผี กับคุณพ่อลูกสามก็สลับกันลุกหายไปในความมืดตามธรรมชาติเรียกร้อง...สักครู่ก็กลับมา คงจะเดาได้นะว่าลุกไปทำอะไรในป่า!...

คืนนี้เด็กๆทั้งสี่เข้านอนกันดึกดื่นไม่แพ้คุณพ่อคุณแม่เลยทีเดียว นับเป็นคืนปล่อยผีผู้ใหญ่และผีเด็กๆด้วยก็แล้วกัน...จนเกือบรุ่งสาง...คุณพ่อผู้มีสาระและความรับผิดชอบสูงของลูกๆสาว สาว สาว...นอนผิงไฟ อาศัยไออุ่นอยู่ที่เปลนอกบ้านโดยไม่เกรงกลัวยุงกัดจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยพี่ผีบอกว่ารอบๆบ้านปลูกต้นตะไคร้หอมไว้หลายกอ...ทำให้มียุงน้อย...ซึ่งฉันเคยรู้มาว่ามีการสกัดน้ำมันตะไคร้หอมไว้ทากันยุง แต่ไม่คาดคิดว่าการปลูกต้นตะไคร้หอมไว้จำนวนมากจะไล่ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงเพียงนี้ อรุณรุ่ง...ได้ยินเสียงไก่แจ้ขันราวกับจะประชันขันแข่งกันว่าตัวไหนจะคอยาวสามารถขันได้ดังและไพเราะเสนาะหูกว่ากัน...พี่ผีตื่นแต่เช้าราวหกโมงเพื่อให้ทันขึ้นรถไปสอนนักศึกษาที่มุกดาหาร...และน้องชีวาผู้น่ารักตื่นมาก็ติดแม่ราวกับตังเม!...สำหรับฉันและลูกๆ สาว สาว สาว ตื่นนอนซะสายโด่ง...

ก่อนเดินทางกลับเธอทำข้าวต้มสูตรเพื่อสุขภาพบนเตาถ่านและเราทำอาหารให้เด็กๆ รับประทาน อีกทั้งขุดมันมือเสือหัวใหญ่ให้ติดไม้ติดมือมาและที่ลืมไม่ได้คือขุดกอตะไคร้หอมให้มาปลูกที่บ้าน เนื่องจากที่บ้านฉันยุงเยอะเหลือเกิน...พร้อมกับหนังสือ “จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ” ที่เขียนโดยฟริตจอฟ คาปรา มาอีกเล่มด้วย...

ขอบคุณนะ...สหายรัก...

 

๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๒


คำสำคัญ (Tags): #ผาแต้ม#สหายรัก
หมายเลขบันทึก: 322651เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2009 15:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท