การออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยวิธี
Backward Design
หลักการ แนวคิด Backward Design Backward Design หรือการออกแบบย้อนกลับ เป็นกระบวนการออกแบบจัดการเรียนรู้หลักฐานการแสดงออกของผู้เรียน / กิจกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจัดกิจกรรมการเรียนตามหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียน/กิจกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ของ
ผู้เรียนที่กำหนด วิธีนี้ได้เผยแพร่โดย Grant Wiggins และ Jay McTighe เมื่อ ค.ศ.1998ได้ให้แนวการออกแบบการจัดการเรียนรู้สำหรับ1 หน่วยการเรียนรู้ไว้ 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ ได้แก่
ขั้นที่ 1 กำหนดความรู้ความสามารถ ของผู้เรียนที่ต้องการให้เกิดขึ้น (Identify desired results) ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขั้นที่ 2 กำหนดหลักฐานที่แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจอย่างแท้จริง หลังจากได้เรียนรู้แล้ว ซึ่งเป็นหลักฐานการแสดงออกที่ยอมรับได้ว่า ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามที่กำหนดไว้ (Determine acceptable evidence of learning)
ขั้นที่ 3 ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (Plan learning experiences and instruction) เพื่อให้ผู้เรียนได้ แสดงออกตามหลักฐานการแสดงออกที่ระบุไว้ในขั้นที่ 2 เพื่อเป็นหลักฐานว่า ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามที่กำหนดไว้ในขั้นที่ 1
การออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยเทคนิค
Backward Design
Wiggins และ McTighe ดังกล่าว พอจะนำมาประยุกต์ใช้สำหรับครูผู้สอนในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สอดคล้องกับบริบทของ การใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 มีขั้นตอนการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Backward Design ดังนี้
1. กำหนดชื่อหน่วยการเรียนรู้/จัดทำหน่วยการเรียนรู้ที่มีคุณค่าต่อผู้เรียน และสังคมที่เหมาะสม
2. กำหนดความเข้าใจที่คงทน (Enduring understanding) ของหน่วยฯ ที่ต้องการให้เป็นความรู้ความเข้าใจติดตัวผู้เรียนไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นเวลานาน การเขียนความเข้าใจที่คงทน
3. กำหนดความคิดรวบยอดย่อย (Concepts) ที่สำคัญที่จะให้ผู้เรียนได้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามหน่วยการเรียนรู้
4. กำหนดความรู้ และทักษะเฉพาะวิชา (Subject-specific standard) ที่เป็นความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ(P) และ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม(A) เฉพาะวิชา ของแต่ละ Concept
5. ตราจสอบความสอดคล้องของความรู้ และทักษะเฉพาะวิชา (ความรู้(K) ทักษะกระบวนการ(P) และ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม(A) ของแต่ละ Concept กับมาตรฐานการเรียนรู้
6. กำหนดทักษะคร่อมวิชา(Trans-disciplinary skills standards)ที่ต้องใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน เช่น กระบวนการกลุ่ม การวิเคราะห์ การเขียนรายงาน
7. กำหนดจิตพิสัย (Disposition standards) ของหน่วยการเรียนรู้ที่กำหนด ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับ ผู้เรียนหน่วย
8. กำหนดคุณลักษณะพึงประสงค์ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ ที่กำหนด และบางครั้งอาจจะตรงกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตรสถานศึกษาก็ได้ หรือไม่สอดคล้องก็ได้
9 จัดลำดับการประเมิน จากผังการประเมิน เพื่อวางแผนการ ออกแบบการจัดการเรียนรู้
โดยนำ การประเมินจากผังการประเมินทุกรายการที่ไม่ซ้ำกัน มาจัดลำดับ ก่อนหลังตามความเหมาะสม หน่วย
10. ออกแบบการจัดการเรียนรู้ เป็นการกำหนดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ หรือจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ โดยนำการประเมินที่จัดลำดับไว้ มากำหนดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ หรือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้เรียน กำหนดสื่อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ และจำนวนชั่วโมง ของแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสม
11.จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยนำการจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่ออกแบบไว้ในข้อ10จัดทำเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเขียนผลการเรียนรู้ที่คาดหวังตามความรู้ และทักษะเฉพาะที่กำหนดสำหรับความคิดรวบยอดหลัก
12.ตรวจสอบความเหมาะสมของการออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญ(ครูสอนสาขาเดียวกัน) ตั้งแต่เริ่มกำหนดหน่วย จนถึงจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
13. ตรวจสอบความเหมาะสมของการออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดยให้เพื่อนครู ที่สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้เดียวกัน ช่วงชั้นเดียวกัน อย่างน้อย 3 คน (ที่ไม่ใช่ผู้ร่วมทำหน่วยการเรียนรู้ที่ให้ตรวจสอบ) ให้ช่วยกันตรวจความเหมาะสมของกระบวนการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ตั้งแต่การกำหนดหน่วย การเรียนรู้ กำหนด Concepts …จนถึงการออกแบบการจัดการเรียนรู้
14. นำแผนการจัดการเรียนรู้ ไปจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ซึ่งในการจัดการเรียนรู้นอกจากจะประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแล้ว ครูผู้สอนต้อประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของตนด้วยว่า การออกแบบการเรียนรู้หน่วยฯ นี้ ผู้เรียนมีความพึงพอใจเพียงใด ผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อคุณภาพของผู้เรียนเพียงใด
ผู้สืบค้นข้อมูล นายสุภาพ เจริญชาติ
นายสันติ เบ็ญจศิล
Tkank you!