หัวใจของทุกงานคือการใหเกียรติ
ครั้งหนึ่ง มีโยมคนหนึ่งจากนครสวรรค์ไปหา "ท่านพุทธทาส" จ.สุราษฎร์ธานี ถือชะลอมไปด้วย พอไปถึงท่านพุทธทาสจำวัด ลูกสิษย์หน้าห้องไม่ให้พบ เพราะพระอาจารย์กำลังจำวัด แต่โยมก็บอกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว ขอพบสักหน่อยไม่ได้หรือ ไม่คุยก็ได้ ขอไปโผล่ดูหน้าต่างได้ไหม โยมก็เลยชะโงกกระโดดเต้นหย่อง ๆ แหย่ง ๆ อยู่ริมหน้าต่าง ของท่านพุทธทาส แล้วกฏิท่านอยู่กับพื้น พอโยมชะโงกไปดู ชะลอมมันไปถูกับผนังห้องของท่าน ท่านพุทธทาสตื่นห่มจีวรออกมานั่งรับแขก คุยสักพัก โยมก็ลากลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่หน้าห้องของท่านยังโกรธเป็นยักษ์อยู่เลย ท่านพุทธทาสก็ถามว่า
"โยมก็กลับแล้ว คุณโกรธใครกัน"
ลูกศิษย์ท่านบอกว่า "ผมโกรธโยมครับหลวงพ่อ ผมบอกว่าอย่าไปกวนหลวงพ่อ โยมก็ยังไปกวนจนได้ แหมคนอย่างนี้มันน่าสั่งสอนนัก"
ท่านพุทธทาสบอกว่า "โยมมาหาใคร"
"มาหาหลวงพ่อครับ"
"แล้วผมโกรธไหม"
"หลวงพ่อไม่โกรธครับ"
"แล้วคุณโกรธแทนผมทำไม"
ตั้งแต่นั้นมาลูกศิษย์ท่านนั้น เวลามีใครมาหาหลวงพ่อก็ไม่เคยแสดงอาการตั้งแต่ก่อนอีกเลย นี่ก็เรียกว่า ท่านพุทธทาสให้เกียรติคน แม้ท่านจะพักผ่อน พอรู้ว่ามีโยมมาแม้จะจำวัดท่านก็ลุกขึ้นมาจากเตียงออกมาต้อนรับ นี้ภาษาพระเรียก "เคารพในปฎิสันถาร" คือ "การต้อนรับ"
จากหนังสือ งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์ ของท่าน ว.วชิรเมธี
ข้อคิดที่ดีมาก ขอบคุณ
ขอบคุณหลาย ๆ สำหรับข้อคิด
สวัสดีครับ แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่ได้รับด้วยนะครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำว่า "หัวใจของทุกงานคือการใหเกียรติ"