Nina
นางสาวอภิญญา อุดมพรเกิดผล

คริสต์มาสหรรษา(1)


คริสต์มาสเป็นเทศกาลที่สำคัญกับการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
  • Merry Christmas (1)
  • ช่วงเดือนธันวาคมนี้เป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส มีประวัติดีๆมาเล่าสู่กันฟัง รวมทั้งมีวิดีโอมาน่ารักๆให้ชมกันค่ะ ลองรับชมกันนะค่ะ

ขอบคุณไฟล์วิดีโอคลิปจากเวบไซท์www.youtube.comของJamba - Fred Frost (Christmas)มากค่ะ

  • ประวัติวันคริสต์มาส
  • วันนี้เป็นวันสำคัญของผู้นับถือศาสนาคริสต์ เพราะเป็นวันครบรอบวันประสูติของพระเยซู  หรืออีกความหมายคือ   คือการฉลองการกำเนิดของพระเยซู คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ ภาษาอังกฤษ Christmas ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ ว่า Christes Maesse ที่แปลว่า บูชามิสซาของ   พระคริสตเจ้าเพราะการร่วมพิธีมิสซา เป็นประเพณีสำคัญที่สุดที่ชาวคริสต์ถือปฏิบัติกันในวันคริสต์มาส คำว่า Christas Maesse พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี 1038 และคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ในภาษาไทย "คริสต์มาส" ก็มีความหมายเช่นกัน คำว่า มาส แปลว่า เดือน เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นเดือนที่เราระลึกถึง พระเยซูคริสต์เจ้าเป็นพิเศษ อีกความหมายหนึ่งของคำว่า มาส คือ ดวงจันทร์ ฉะนั้นจึงตีความหมายเป็นภาษาไทยได้อีกอย่างหนึ่งคือ พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก เหมือนดวงจันทร์เป็นแสงสว่างในตอนกลางคืน ชื่อคริสต์มาส มาจากภาษาอังกฤษ "มิสซาของพระคริสต์" คือพิธีนมัสการที่ชาวคาทอลิค ทำกันในเวลาเที่ยงคืนของคืนวันที่ 24 เดือนธันวาคม ชาวเยอรมันเรียกว่า "ไวน์หนากท์" ซึ่งแปลว่า "คืนศักดิ์สิทธิ์
  • ความเป็นมาของเทศกาลคริสต์มาส
     ชาวโรมันมีการระลึกถึงการสมภพของพระเจ้าจักรพรรดิ คนท้องถิ่นอื่นก็ระลึกถึงและเฉลิมฉลองวันเกิดของกษัตริย์ หรือผู้ปกครองบ้านเมืองของตนด้วยความยินดี แม้แต่ชาวยิวในสมัยของพระเยซูเอง ก็ฉลองการเกิดของ กษัตริย์เฮรอด เช่นเดียวกัน  เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่ชาวคริสต์สมัยโบราณถือเอาประเพณีของชนในท้องถิ่นนั้น มาประยุกต์เข้ากับศาสนา โดยจัดให้มีการฉลอง เพื่อระลึกถึงการบังเกิดของพระเยซู ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลกผู้ทรงเกียรติเลอเลิศ ประเพณีนี้ ได้เริ่มมาจากกรุงโรมในศตวรรษที่ 4 และค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป
  • สำหรับเทศกาลเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสนั้น ทางประเทศตะวันตกเริ่มฉลองการประสูติของพระเยซู ในวันที่ 25 ธันวาคมมาตั้งแต่ ค.ศ.354 เป็นอย่างช้า เหตุที่เลือกวันนี้ เพราะตรงกับงานฉลองเทพและฤดูกาลในสมัยนั้น เช่น วันเหมายัน ซึ่งดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในจุดใต้สุดในฤดูหนาว และเป็นวันที่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน สัปดาห์เฉลิมฉลองของชาวโรมัน งานฉลองเทพเจ้าแซตเทิร์น และการฉลองวันสิ้นปี เป็นต้น ค.ศ. 1645 ชาวอังกฤษผู้เคร่งศาสนากลับให้ถือศีลอดแทนการฉลอง แต่พระเจ้าชาลส์ ที่สองฟื้นฟูเทศกาลคริสต์มาสขึ้นมาอีกครั้ง ในค.ศ.1660 การฉลองในรัชสมัยของสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียกลายเป็นต้นแบบของงานคริสต์มาส และแพร่หลายไปทั่วโลก ในเวลา
    ต่อมา ตลอดเดือนธันวาคม ร้านรวงส่วนใหญ่จะตกแต่งซุ้มพระกุมารเยซู และที่ขาดไม่ได้คือ ซานตาคลอส ตัวจริงของซานตาครอสคือนักบุญนิโคลัสซึ่งเป็นบาทหลวงในตุรกีช่วงคริสต์ศตวรรษที่สี่ ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องความใจดีโดยเฉพาะกับเด็กๆ ต่อมาท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วฮอลแลนด์ในชื่อ "ซินเตอร์คลาส" ราวค.ศ.1870 ชาวอเมริกันเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็น"ซานตาคลอส" ตั้งแต่แรกจนถึงค.ศ. 1890 ภาพของซานตาคลอสเป็นชายร่างผอมสูงสวมชุดสีเขียว หรือน้ำตาลสลับแดง เจนนี ไนสตรอม ศิลปินชาวสวีเดน เป็นผู้คิดค้นรูปลักษณ์ของซานตาครอสอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน โดยวาดภาพ   ลงในบัตรอวยพรคริสต์มาส ภาพเหล่านี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เมื่อชาวสวีเดนอีกคนชื่อ แฮดดอน ซันด์บลอม นำภาพวาดของไนสตรอมสวมชุดขาวแดง อันเป็นสีเดียวกับเครื่องหมายการต้าของโคคา-โคล่า ซันด์บลอมยังเปลี่ยนโฉมซานตาคลอสให้ทรวดทรงอ้วนท้วน และมีกวางเรนเดียร์เป็นพาหนะประจำตัวความคิดที่ว่าซานตาคลอสเข้าบ้านทางปล่องไฟเริ่มขึ้นในค.ศ.1822 เมื่อ คลีเมนต์ มัวร์ นักคิดชาวอเมริกัน ประพันธ์บทกลอนชื่อ "เมื่อนักบุญนิโคลัสมาเยี่ยมเยือน"
  • ทำไมจึงฉลองคริสต์มาสในวันที่ 25 ธันวาคม
  • ตามหลักฐานในพระวรสาร มีว่า พระเยซูบังเกิดในสมัยที่จักรพรรดิ ซีซาร์ ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัว ทั่วทั้งแผ่นดิน โดยมีคีริริอัส เป็นเจ้าเมืองซีเรีย ซึ่งในพระวรสารไม่ได้บอกว่าเป็นวันหรือเดือนอะไร สมัยก่อนคริสตชนคิดเอาว่าที่มีการฉลองคริสต์มาส ในวันที่ 25 ธันวาคมนั้น ก็เพราะเป็นวันเกิดของพระเยซูตามทะเบียนเกิด ซึ่งเป็นเอกสารที่คีรินิอัสเก็บไว้ แต่ที่จริงแล้ว เอกสารนี้ได้สูญหายไปหมดแล้ว นักประวัติศาสตร์ไม่สามารถค้นพบได้นักประวัติศาสตร์หาสาเหตุต่างๆ ว่า ทำไมคริสตชนจึงเลือกเอาวันที่ 25 ธันวาคม   เป็นวันฉลองคริสต์มาสตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา    และก็ให้คำอธิบายหนึ่งที่ สมเหตุสมผล หรือมีน้ำหนักมากที่สุด     คือ ปี ค.ศ. 274 จักรพรรดิ AURELIAN ได้กำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม  เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ ผู้ทรงพลัง
  • กล่าวตามความรู้ทางวิชาดาราศาสตร์     สมัยนั้น เห็นว่าวันนั้นเป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ไกลที่สุดจากเส้นศูนย์สูตรของโลก   และเริ่มหมุนไปทางด้านเหนือของท้องฟ้า วันใหม่เริ่มยาวขึ้น ชาวโรมันฉลองวันนี้อย่างสง่า   และถือเสมือนว่าเป็นวันฉลองของพระเจ้าจักรพรรดิไปในตัวด้วย   เพราะพระเจ้าจักรพรรดิ  เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์
  •    ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมันรู้สึกอึดอัดใจ ที่จะฉลองการบังเกิดของดวงอาทิตย์ ตามประเพณีของชาวโรมัน จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซู แทน ในวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 330 เริ่มมีการฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและอย่างเปิดเผย เนื่องจากก่อนนั้น มีการเบียดเบียนคริสตชนอย่างรุนแรง (ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 64-313) ทำให้คริสตชนไม่มีโอกาสฉลองอะไรอย่างเปิดเผย อีกนัยหนึ่ง ชาวคริสต์ได้เห็นว่า ในพระคัมภีร์  เรียกพระเจ้าว่า เป็นดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรม จึงเห็นว่ามีหลักฐานในพระคัมภีร์สนับสนุนให้ ถือวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันเกิดของพระเยซู
  • วิวัฒนาการแห่งการฉลองวันคริสต์มาส
       การฉลองคริสต์มาสแพร่มาจากกรุงโรม ไปยังทุกประเทศพร้อมกับศาสนาคริสต์ที่ค่อยๆ แผ่ขยายไปในที่ต่างๆ จนในปี ค.ศ. 1100 ประชาชนก็เป็นคริสตชนทั้งหมด ทั่วยุโรป เพราะถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในศาสนา เราสามารถแบ่งวิวัฒนาการ ของการฉลองวันคริสต์มาสเป็น 4 ช่วง คือ
  •    (1) ค.ศ. 330-1100 ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ทีละเล็กทีละน้อย ก็มีการฉลองวันคริสต์มาส และก็มีการเริ่มเทศกาล เตรียมรับเสด็จพระเยซูเป็นเวลา 4 สัปดาห์ก่อนคริสต์มาส เป็นเวลาเตรียมตัวโดยการใช้โทษบาป อดอาหารและภาวนาเป็นพิเศษ
  •    (2) ค.ศ. 1100-ศตวรรษที่ 16 ช่วงนี้มีการพัฒนาประเพณีต่างๆ ที่เกี่ยวกับการฉลองคริสต์มาส เช่นการแต่งเพลงคริสต์มาส การทำถ้ำพระกุมาร ทำต้นคริสต์มาส
  •    (3) ศตวรรษที่ 16-19 ระยะนี้มีการแตกแยกในคริสต์ศาสนา เกิดมีนิกายบางนิกายขึ้นมา ซึ่งบางนิกายไม่สนับสนุนให้มีการฉลองวันคริสต์มาส ด้วยเหตุผลที่ว่า คริสต์มาสเป็นวันที่มนุษย์เลือกเอาเองโดยได้รับอิทธิพลจากชาวโรมัน ที่ฉลองดวงอาทิตย์คล้ายเป็นพระเจ้าของเขา และชาวบ้านก็ให้ความสำคัญแก่วันนี้ มากกว่าวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่พระเจ้ากำหนดให้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตามชาวคาทอลิกพร้อมกับคริสตศาสนาหลายๆ นิกาย เช่น Lutheran เป็นต้น ยังรักษาการฉลองนี้ไว้ด้วยความอบอุ่น และศรัทธาจนถึงปัจจุบัน
  •    (4) ศตวรรษที่ 19 - ปัจจุบัน เริ่มมีประเพณีอื่นทางโลกแทรกเข้ามา ซึ่งมีอิทธิพลต่อการฉลองนี้มาก เช่นเรื่องซันตาคลอส การให้ของขวัญ การส่งบัตรอวยพรคริสต์มาส ซึ่งร้านต่างๆ ยินดีสนับสนุน เพราะเป็นโอกาสดีที่จะขายสินค้า ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นไปในตัว ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านทั่วไปอาจจะลืมความสำคัญ หรือความหมายที่แท้จริงของคริสต์มาส โดยหันมาเพิ่มความสนใจในสิ่งภายนอกมากกว่า.
  • ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเวบไซท์www_snr_ac_th  โรงเรียนศึกษานารี.htm
  • มีความสุขกับความบันเทิงนะค่ะ Bye...Bye....
คำสำคัญ (Tags): #คริสต์มาส(1)
หมายเลขบันทึก: 318516เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2009 19:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีครับ คุณครู หนุ่ย

ทำงานมากมายพักผ่อนบ้างนะครับ

เจอกันวันอังคาร พรุ่งนี้น้องโย่ ไปซ้อมฟุตซอลที่โรงเรียนบ่ายสองครับ

  • P ขอบใจจ๊ะเด็กชายโย่ พักผ่อนแล้วมีแรงในการทำงานต่อ ขอบคุณกำลังใจ ตั้งใจซ้อมกีฬานะได้ข่าวว่าเป็นตัวแทนอำเภอสองพี่น้องไปแข่งระดับอำเภอกับดอนเจดีย์ ซ้อมให้เต็มที่นะสู้ๆ

น่ารักจังคลิปนี้

ขอบคุณสำหรับความรู้ประวัติวันคริสต์มาสค่ะ

สวัสดีจ้าน้องหนุ่ย..

     พี่จำได้ว่าช่วงเวลาแห่งคริสต์มาสที่สนุกและมีความสุขที่สุด คงจะเป็นช่วงที่เรียนอยู่ที่แม่พระฯ สนุก คึกคัก และครื้นเครงดี

     อ่านบันทึกนี้แล้วคิดถึงบรรยากาศเก่าๆจัง

     ส่งกำลังใจให้น้องสาวหอบใหญ่ๆจ้า ..^__^..

 

  • P ขอบคุณคุณครูอี๊ดค่ะที่มาอ่านบันทึก ดีใจค่ะ แบ่งปันความสุขค่ะ รักษาสุขภาพด้วย
  • P ขอบคุณพี่ตุ๊กแกค่ะ ความเป็นศิษย์เก่ารร.แม่พระประจักษ์ของพวกเรานั้นเป็นสายใยแห่งความผูกพันและความสนุกสนานในเทศกาลวันคริสต์มาสค่ะ ดีใจที่มาทักทาย กำลังใจมากมายค่ะ รักมากมายเช่นกัน รักษาสุขภาพด้วย

ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท