คำว่า “สัตตศิลา” ได้ยินมาแบบแว่ว ๆ ตอนที่ท่านผู้อำนวยการวีรศักดิ์ วรรณรัตน์ นำคุยในที่ประชุมฝ่ายบริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านนำมาให้ผศ.ดร.ชนาธิป พรกุลและคณะที่มานิเทศการสอนของครูในเดือนกันยายน
ก่อนท่านมานำเสนอต่อที่ประชุมครูก่อนปิดภาคเรียนที่ 1 แล้วนำมาแจกครูทุกคนตอนทำแผนปฏิบัิตการปี 2553 อีกที แล้วชี้ชวนให้คุณครูได้อ่าน
พอเปิดภาคเรียนท่านก็เริ่มต่อ “สัตตศิลา” โดยเฉพาะหลักที่ 7 โดยเชิญชวนกึ่งชักชวนให้คุณครูทุกคนอ่านก่อนที่จะมาแลกเปลียนเรียนรู้กับคณะของผศ.ดร.ชนาธิป พรกุลและคณะที่จะมาเติมเต็มเรื่องหน่วยการเรียนรู้ และการทำแผนการเรียนรู้ในวันที่ 26 ตุลาคม
บอกตามตรงผมเองเพิ่งจะได้เริ่มศึกษา
เผื่อมีโอกาสได้ลปรร.ในครั้งนี้
จากการศึกษาทำให้รู้ว่า หลัก
“สัตตศิลา”เป็นโครงการวิจัยบูรณาการการเปลี่ยนผ่านการศึกษาเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้
ของ รศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์และคณะ ของคณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นโครงการวิจัยบูรณาการ ประจำปี 2548
และนำมาเผยแพร่ โดยหลัก สัตตศิลาจะประกอบไปด้วยหลัก 7 หลักการดังนี้
คือ
หลักที่ 1 คือ คุณลักษณะของผู้เรียนที่พึ่งประสงค์ หรือ
ลักษณะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน เรียกสั้นๆว่า 4ร.
ร1 คือ รู้ทัน รู้นำโลก
ร2 คือ เรียนรู้ ชำนาญ เชี่ยญชาญปฏิบัติ
ร3 คือ รวมพลังสร้างสรรค์สังคม
ร4 คือ รักษ์วัฒนธรรมไทย ใ่ฝ่สันติ
หลักที่ 2 คือ การจัดหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเป็นรายบุคคล
โดยยึดหลัก 4F คือ FUN Find Focus และ
Fullfillment
หลักที่ 3 CRP-Plus
การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ซึ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นระบบ โดยที่
C คือ
รูปแบบการเรียนการสอนแบบตกผลึก(Crystal - Based Instruction
Model)
R คือ รูปแบบการเรียนการสอนแบบใช้วิจัยเป็นฐาน( Research -
Based Instruction Model)
P คือ รูปแบบการเรียนการสอนเชิงคุณภาพ( Productivity - Based
Instruction Model)
หลักที่ 4 คือ 3M
บทบาทของผู้เกี่ยวข้อง คือ
บทบาทของผู้เกี่ยวข้องในการสร้างโอกาสการเรียนรู้ 3 บทบาท คือ
M1 : บทบาทของผู้ให้กำลังใจ (
Moral Supporter )
M2 : บทบาทผู้ใส่ใจกำกับ (Monitor)
M3 : บทบาทของผู้สนับสนุนส่งเสริม
(Mentor)
หลักที่ 5 คือ NET
การพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศ
ซึ่งเป็นทักษะการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โดยมีขั้นตอนการพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศคือการกำหนดภารกิจ
การตรงจุดเข้าถึงแหล่ง การประเมินสารสนเทศ
และการบูรณาการวิถีการใช้งาน โดยใช้หลัก NET คือ
N – Networking คือ
การสร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มบุคคลและองค์กร
E- Edutainment คือ การศึกษาเชิงบันเทิง
เป็นการเรียนรู้ที่สามารถได้ทั้งสาระและบันเทิง
สามารถจูงใจให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้ได้อย่างสนุกสนาน
T- Tailor-Made คือ การปรับเหมาะสมตัว
เป็นการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับความแตกต่างของบุคคล
ผู้เรียนมีอิสระในการควบคุมการเรียนรู้ของตนเอง
หลักที่ 6 คือ
การบริหารจัดการแบบบูรณาการ( iEMS)
เป็นชุดขององค์ประกอบสำคัญของการจัดการที่เชื่อมประสานปัจจัยรอบด้าน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมาย ประกอบด้วย 4
องค์ประกอบหลัก คือ
1.
การวาดภาพความสำเร็จ
2.
การกำหนดโครงสร้าง
3. การบริหารจัดการ
4. การติดตามกำกับ
หลักที่ 7 การพัฒนาโรงเรียนเข้าสู่มาตรฐาน
หรือความเป็นเลิศด้วยกระบวนกาเทียบเคียง (Bench marking)
โดยยึดองค์กรที่มีการปฎิบัติงานได้มาตรฐานหรือมีความเป็นเลิศ
เป็นตัวอย่างหรือจุดอ้างอิง การทำ เทียบเคียงสมรรถนะ (Bench
marking)มีประเด็นที่ต้องพิจารณา 5 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1
สิ่งที่จะเทียบเคียงคืออะไร
ส่วนที่ 2 องค์กร โรงเรียน หรือ หน่วยงานใดที่ดี
ส่วนที่ 3 เรามีทิศทาง ความต้องการในการดำเนินการอย่างไร
ส่วนที่ 4 เขามีทิศทาง
ในการดำเนินการเพื่อเกิดความเป็นเลิศได้อย่างไร
ส่วนที่ 5
เราควรจะดำเนินการอย่างไรเพื่อไปสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ก็นับว่าเป็นผลงานวิจัยที่มีประโยชน์ต่อวงการศึกษา โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษารอบสอง และที่สำคัญทราบว่ากลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา จันทบุรีและตราด จะเชิญ รศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ มาชวนครูมัธยมศึกษาฟังก็เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง
สวัสดีค่ะ
แวะมาเรียนรู้ด้วยคนนะคะ
สวัสดีครับพี่ณัฐรดา
สบายดีนะครับ
ดีใจมากครับพี่ ที่มาร่วมเรียนรู้ "สัตตศิลา"ดีมากเลยครับ
ขอบคุณมากครับ ที่มาให้กำลังใจ