เมื่อวานนี้เล่าเรื่องการประชุมเครือข่ายฯสัญจร ครั้งที่ 5/2549 ซึ่งกลุ่มบ้านเป้าเป็นเจ้าภาพค้างเอาไว้ที่วาระที่ 1 เรื่องที่ 2 คือ โครงสร้างการทำงานของสภาเครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดลำปางกับสภาเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปาง วันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเล่าต่อเลยนะคะ
สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนจังหวัดลำปาง (พอสช.) มีบทบาทในเรื่องการบริหารจัดการ การจัดโครงสร้าง ต่อไปต้องทำในเรื่องระบบข้อมูล ระบบบัญชี แผนงานต่างๆ นี่คือ บทบาทของคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 27 คน คณะกรรมการทั้ง 27 คนนี้จะมาประชุมร่วมกับตัวแทนของกลุ่ม/องค์กรออมทรัพย์แต่ละตำบล นี่เองที่เรียกว่า "สภาเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปาง" เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจบทบาท การประชุมสภาเครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดลำปางจะต้องนำเรื่องการบริหารจัดการเข้าสู่สภาด้วย เพื่อทำให้คณะกรรมการประสานงานทุกคนได้รับทราบ การที่คัดเลือกคณะกรรมการออกมาทั้งสิ้น 27 คนนั้น เพราะ เราไม่สามารถที่จะเอาตัวแทนกลุ่มละ 5 คนมาร่วมประชุมหรือตัดสินใจทั้งหมดได้ เนื่องจากในอนาคตกลุ่ม/องค์กรที่เข้ามาเป็นสมาชิกจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย
ในส่วนของสถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนจังหวัดลำปางจะต้องคัดเลือกตัวแทน 2 คน ไปเป็นตัวแทนของเครือข่ายองค์กรชุมชน นี่คือโครงสร้างทั้งหมดในภาพรวม ประธานกล่าวต่อไปว่า การที่ประธานเป็นทั้งประธานของสภาเครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดลำปางและเป็นประธานของเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปางทำให้สามารถทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น บางครั้งที่เครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปางไม่มีงบประมาณมาหนุนเสริม เราก็พยายามที่จะใช้ยุทธศาสตร์ของสภามาช่วยหนุนเสริม ลงไปขับเคลื่อน นี่เป็นความโชคดีของเครือข่ายฯของเรา เพราะฉะนั้นก็จะมีสภาเครือข่ายองค์กรชุมชนเกิดขึ้นหลายประเด็น ทุก 3 เดือนก็จะมาพบกันครั้งหนึ่ง เครือข่ายต่างๆก็จะนำปัญหาในเครือข่ายของตนเองไปพูดคุยกันในที่ประชุม นี่คือ โครงสร้างของทั้ง 2 ระดับ คือ ระดับบน ได้แก่ โครงสร้างระดับจังหวัด กับ ระดับล่าง ได้แก่ โครงสร้างของพวกเรา (เครือข่ายฯ) มันเป็นคนละส่วนกัน แต่มีความเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น
เรื่องนี้ยังไม่จบค่ะ แต่ก่อนที่จะเล่าต่อไป ผู้วิจัยขออนุญาตแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ (นิดหน่อย) ก็แล้วกันนะคะ
ความจริงเรื่องโครงสร้างนี้ประธานได้พูดมาหลายครั้งแล้ว จากการประเมินของผู้วิจัย ผู้วิจัยเห็นว่าถ้าจะให้ชาวบ้านเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ส่วน (หรือส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ค่ะ) คงจะต้องใช้เวลาอีก (นาน) สาเหตุที่ผู้วิจัยคิดเช่นนี้ เพราะ โครงสร้างนี้เกิดขึ้นมา (คิดขึ้นมา) โดยคนแค่คนเดียวหรือกลุ่มคนแค่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการเรียนรู้ของชาวบ้าน รวมทั้งโครงสร้างยังมีความสลับซับซ้อน การที่จะทำงานกับชุมชนให้ประสบความสำเร็จ จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผู้วิจัยเห็นว่า โครงสร้างหรือความคิดต่างๆควรที่จะเริ่มหรือออกมาจากชุมชน ไม่ใช่มาจากภายนอกหรือเบื้องบน เพราะ ชุมชนคือคนทำงาน ชุมชนจะมีความรู้อยู่ชุดหนึ่งที่จะ (สามารถ) บอกๆได้ว่าอะไรควรจะเป็นอะไรหรือควรจะดำเนินการไปอย่างไร คนภายนอกหรือผู้บริหารควรที่จะทำหน้าที่ชี้แนะหรือเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ทำหน้าที่ชี้นำและครอบงำ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การทำงานกับชาวบ้านหรือชุมชน ไม่ควรที่จะคิดโครงสร้างอะไรที่สลับซับซ้อน ผู้วิจัยเห็นว่าโครงสร้างที่ง่ายๆ สบายๆน่าจะใช้ได้ผลมากกว่า โดยเฉพาะกับชาวบ้านหรือชุมชนที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้ใหม่
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นภาพผู้เข้าร่วมประชุม (บางคน) นั่งวาดการ์ตูน (บางคน) ส่งสัญญาณมือว่าปวดหัว (มาที่ผู้วิจัย) (บางคน) ก็นั่งส่ายหน้า ในขณะที่ (บางคน) มากระซิบผู้วิจัยว่า "ไม่ต้องรีบตั้งใจฟังหรือทำความเข้าใจหรอก เดี๋ยวก็เปลี่ยนอีก"