"สัจจนิยมสร้างสังคมให้สมดุล" เป็นสโลแกนหาเสียงของพรรคชาติไทยเมื่อหลายปีที่แล้วครับ ผมฟังแล้วรู้สึกว่าใช่และประทับใจมาตั้งแต่ครั้งนั้นครับ แม้ความหมายของสโลแกนนี้อาจจะแตกต่างจากความหมายที่ผมสื่อในบันทึกนี้ของผม เพราะสโลแกนนี้อาจจะมีนัยยะถึงปรัชญาสัจจนิยม (Realism) …
มาถึงวันนี้เมื่อมีเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ คำกล่าวนี้มักจะผุดขึ้นในความรู้สึกและความคิดของผมเสมอครับ...
"สัจจะ" ถ้าให้ความหมายตาม วิกิพิเดีย มีความหมายว่า ความสัตย์ ความซื่อ ถ้าขยายความตามศัพท์แยกได้ 3 ลักษณะคือ มีความจริง ความตรง และความแท้ จริง คือ ไม่เล่น ตรง คือ ความประพฤติทางกาย วาจา ตรงไม่บิดพลิ้ว ไม่บ่ายเบี่ยง แท้ คือ ไม่เหลวไหล
ซึ่งหากมองในแต่ละบุคคลแล้ว หากบุคคลใดมีความซื่อสัตย์ย่อมเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของบุคคลทั่วไปนะครับ แม้แต่ผู้คนใกล้ชิดที่อยู่รอบข้างก็ตาม หากเขาประพฤติตัวของเขาด้วยแนวทางแห่ง "สัจจะ" เขาย่อมได้รับการยอมรับจากทุก ๆ คนครับ...
ในส่วนของสังคมของเราที่ขาด ความไว้เนื่อเชื่อใจกัน (trust) ส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดมาจากแนวทางการดำเนินชีวิตของผู้คนที่ไม่ได้ยึดแนวทางแห่งสัจจะ ดำเนินชีวิตแบบขาดความจริงแท้ ขาดความซื่อตรง บิดพลิ้วไปมาไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจาหรือทางใจนะครับ...
ผมว่า...หากสังคมและผู้คนในสังคมของเราได้ หันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของ "สัจจะ" คือความจริงแท้แล้วด้วย สังคมของเราคงจะกลายเป็นสังคมที่ "สมดุล" และดำเนินไปภายใต้ความ "พอดี" ได้สักวันนะครับ...
ถ้าผู้บริหารประเทศเรามีสัจจะ กันบ้าง สังคมคงจะสมดุลกว่านี้ ถ้ามีกันทุกคน ประชาชนส่วนใหญ่คงจะมีความสุขมากเลยค่ะ คุณ direct
สวัสดีค่ะท่าน Direct
สังคมขาดสัจจะและโหยหามัน...เพราะปัจเจกบุคคลไม่ได้ให้ความสำคัญกับสัจจะ...ว่าเป็นพื้นฐานของชีวิตค่ะ ^-^
เห็นด้วยกับท่าน Direct ครับข้อบันทึกในวันนี้
ในส่วนของสังคมของเราที่ขาด ความไว้เนื่อเชื่อใจกัน (trust) ส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดมาจากแนวทางการดำเนินของผู้คนที่ไม่ได้ยึดแนวทางแห่งสัจจะ ดำเนินชีวิตแบบขาดความจริงแท้ ขาดความซื่อตรง บิดพลิ้วไปมาไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจาหรือทางใจนะครับ...
ข้อความที่ยกมาข้างต้น เห็นได้ชัดในนักการเมืองไทยครับ
ขอบคุณครับ
ค่ะ..."สัจจะ" ถือเป็นสมบัติพื้นฐานของสมาชิกในสังคมเลยค่ะ...ทำอย่างไรถึงเราจะได้มา..นี้คือโจทย์ใหญ่โดยเฉพาะคนเป็นครูแบบครูนกในห้องเรียนเราต้องมีการให้สัจจะกันในคาบแรกว่า กติกาและข้อตกลงร่วมกัน...จะตกลงกันอย่างไร แต่หลังจากนั้นทั้งครูและศิษย์ก็ต้องทำตามกติกาและข้อตกลงที่ให้กันไว้
ครับ... คุณ tukky
เห็นด้วยเลยครับ...
เป็น "คุณธรรม" ที่ผู้คนในสังคมควรมีกันนะครับ...
ขอบคุณครับผม...
ครับ... คุณ Miss Silvia Irfan Befani
เรื่องของ "สัจจะ" สำคัญที่ปัจเจกนะครับ...
หากบุคคลไม่ให้ความสำคัญกับสัจจะแล้ว สังคมก็ลำบากนะครับ...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ... คุณ ภราดร พัชรวรรณ
ผมว่าทั้ง "ความไว้เนื้อเชื่อใจ" และ "สัจจะ" หากคนในสังคมมีมากขึ้น น่าจะนำพาสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นนะครับ...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ... คุณ noktalay
"ครู" เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญในการเป็น "แบบอย่าง" และ "บ่มเพาะ" สิ่งเหล่านี้ให้กับเด็ก ๆ นะครับ...
เป็นกำลังใจให้คุณครูและเยาวชนของชาติด้วยครับ...
ขอบคุณครับผม...
เห็นด้วยค่ะว่าขาดทั้งระดับตัวบุคคลและสังคมนะค่ะ
สวัสดีค่ะ...
คำว่า "สัจจะ" ที่ก่อเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงนั้น...น่าจะเกิดจากมิติที่หลากหลาย เช่น ผู้พูดเป็นใคร เจตนาของผู้ให้สัจจะนั้นเป็นเช่นไร สัจจะที่เปล่งมาว่าอย่างไร เป็นไปในทางที่ทำให้เสื่อมหรือทางส่งเสริมเพิ่มพูนความดีงาม สัจจะมีที่มาอย่างไร หมายถึงถูกบังคับให้พูดหรือเต็มใจพูด...
แน่นอนที่สุดว่า...หากสัจจะนั้น เป็นสัจจะแห่งการก่อเกิด เมื่อได้ทำตามสัจจะนั้น ย่อมดีแท้ทั้งต่อตนและสังคม...แต่หากสัจจะเพื่อการกอบโกยประโยชน์ให้พวกพ้อง เพื่อตนเองล่ะ...สังคมจะเป็นเช่นไรหนอ...เมื่อคนเหล่านั้นตามตามสัจจะของตน...Vij ลองคิดในมุมกลับนะค่ะ...
ขอบพระคุณมากค่ะ...สำหรับบันทึกที่ทำให้ก่อเกิดความคิดที่หลากหลาย
ครับ... คุณ Vij
เรื่อง "เจตนา" แห่ง "สัจจะ" ก็สำคัญนะครับ...
เจตนาไม่ดีย่อมนำพาผลแห่งความไม่ดีให้เกิดขึ้นนะครับ...
ขอบคุณมากเช่นกันนะครับ...