Learning Object
สื่อการเรียนรู้ Learning Object (LO) ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้แบบดิจิทัลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และได้ออกแบบให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานหลักสูตร โดยแต่ละเรื่องจะนำเสนอแนวคิดหลักย่อยๆ ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกใช้ Learning Object ผสมผสานกับการจัดการเรียนการสอนแบบอื่นๆได้อย่างหลากหลาย มีความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้ง On – line และ Off – Line และในรูปแบบ e - Learning
Learning Object แตกต่างจากสื่อดิจิตทัลอื่น คือเน้นกระบวนการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานของหลักสูตรวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ซึ่งครูสามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม หรือใช้สำหรับการเรียนรู้แบบออนไลน์ตามศักยภาพและความสนใจที่แตกต่างของผู้เรียนแต่ละคน สามารถจัดเก็บและค้นหาในระบบฐานข้อมูลได้ ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกวิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลอย่างรวดเร็ว
Learning Object คือสื่อการเรียนรู้ดิจิตอล ที่ออกแบบเพื่อ ให้ผู้เรียนบรรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ โดยแต่ละเรื่อง จะนำเสนอแนวคิดหลักย่อยๆ ผู้สอนสามารถเลือกใช้ Learning Object ผสมผสานกับการจัดการเรียนการสอนแบบอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย สสวท.
มีเป้าหมายในการผลิต Learning Object คุณภาพสูง ซึ่งมีคุณลักษณะต่อไปนี้
ในการสร้าง Learning Object มีขั้นตอนดังนี้
1. เลือกเรื่องและกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
ขั้นตอนแรกในการสร้าง Learning Object คือารเลือกเรื่องหรือหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้สร้างควรตอบตัวเองได้ว่า ทำไมจึงควรใช้งบประมาณ และเวลาที่มีจำกัด ในการพัฒนาสื่ออิเล็กทอนิกส์เรื่องนี้ หัวข้อที่เลือกสำคัญกว่าหัวข้ออื่นๆ ในหลักสูตรหรือไม่ อย่างไร
ผู้สร้างควรตรวจสอบว่า ลักษณะกิจกรรมการเรียนรู้ในหัวข้อนี้ เหมาะสมสำหรับการจัดการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ อย่างไร โดยทั่วไปเรื่องที่เหมาะกับการถ่ายทอดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การศึกษาปรากฎการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
ข้อผิดพลาดที่พบเห็นได้บ่อย คือการพัฒนา Learning Object บนพื้นฐานของความสะดวกในการออกแบบและสร้างแต่เป็นการจำลองกิจกรรมที่สาธิตหรือทดลองได้ง่ายในชั้นเรียน การผลิต Learning Object ในลักษณะดังกล่าวจึงเป็นการใช้ประโยชน์ อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ
เมื่อเลือกหัวข้อเรื่องได้แล้ว การกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังจะช่วยให้ผ้สร้างสามารถออกแบบและสร้าง Learning Object ในขั้นตอนต่อๆไปได้ง่าย ผู้สร้างควรกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าเมื่อเรียนรู้จาก Learning Object นี้แล้ว นักเรียนจะมีพฤติกรรมอย่างไร เช่น สามารถอธิบายแนวคิดได้ สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ สามารถสร้างแบบจำลองได้ เป็นต้น
2. ออกแบบ
คำถามหลักในขั้นตอนการออกแบบ คือ Learning Object จะมีบทบาทอย่างไรบ้าง การทำให้นักเรียนบรรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง คำตอบของคำถามนี้จะช่วยให้สามารถกำหนดรูปแบบการนำเสนอใน Learning Object ได้อย่างเหมาะสม
เมื่อกำหนดบทบาทของ Learning Object ได้แล้ว ลำดับต่อไป คือการออกแบบ ในขั้นตอนนี้ ผู้สร้างสือ่ต้องตัดสินใจในหลายๆประเด็น เช่น จะกระตุ้นความสนใจของนักเรียนด้วยวิธีการใด จะกำหนดให้ผู้เรียนทำกิจกรรมอะไรบ้าง การนำเสนอข้อมูลจะใช้รูปแบบใด เมื่อพิจารณาและตัดสินใจในประเด็นต่างๆข้างต้นแล้ว ผู้สร้างสื่อสามารถเรียบเรียงแนวคิดเกี่ยวกับ Learning Object ออกมาเป็นเอกสารเพื่อนำเสนอและสื่อสารแนวคิดในการออกแบบให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมพัฒนางานชิ้นนี้ร่วมกัน
การนำเสนอแนวความคิดที่ออกแบบขึ้นทำได้หลายรูปแบบ รูปแบบหนึ่งคือ storyboard ซึ่งเป็นการเขียนบรรยายลักษณะภาพ เสียง การเคลื่อนไหวที่ต้องการในแต่ละลำดับการนำเสนอ เหมาะสำหรับ Learning Object ที่นำเสนอข้อมูลด้วยลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน ส่วน Learning Object ที่มีลำดับการนำเสนอไม่แน่นอน มีการเขียนโปรแกรมให้ตอบสนองต่อการตัดสินใจ หรือความสามารถของผู้เรียน ผู้ออกแบบอาจนำเสนอแนวคิดที่ออกแบบไว้ในรูปของ flowchart หรือแผนผังโครงสร้างในลักษณะที่เหมาะสม
3. สร้าง
การสร้าง Learning Object ในบางรูปแบบใช้ทักษะทางคอมพิวเตอร์หลายด้าน เช่น การเขียนโปรแกรม การจัดการภาพและเสียง หากผู้สร้างสือ่ไม่มีทักษะเหล่านี้อาจขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิกจากสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น ส่วนในกรณีที่ต้องการดำเนินการสร้าง Learning Object ด้วยตนเองก็สามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสร้างเอกสาร Word เอกสาร Powerpoint หรือ เว็บเพจ ที่ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และไฮเปอร์ลิงค์ โดยมีข้อควรคำนึงเกี่ยวกับรูปแบบการนำเสนอบนหน้าจอ ดังนี้
- ใช้เครื่องหมายและรูปแบบคำสั่งที่เข้าใจกันทั่วไป เช่น ลูกศรชี้ไปทางขวา สำหรับการไปหน้าถัดไป ลูกศรชี้ไปทางซ้าย สำหรับการย้อนกลับไปหน้าเดิม แสดงภาพมือชี้เมื่อลากเมาส์ไปเหนือไฮเปอร์ลิงค์
- ใช้รูปแบบกานำเสนอที่เป็นระบบระเบียบ เช่น หัวข้อในระดับเดียวกัน ควรใช้อักษรที่มีเดียวกันและขนาดเท่ากัน ตัวอย่างเช่น ใช้สีพื้นสีขาวเมื่อให้ข้อมูล สีฟ้าอ่อนในส่วนของกิจกรรมที่นักเรียนทำ
- เมือ่นำเสนอด้วยข้อความ ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่พอสมควร ไม่จัดย่อหน้าให้บรรทัดยาวเกินไป บทเรียนสำหรับเด็กเล็กอาจพิจารณาเปลี่ยนข้อความยาวๆเป็นเสียงบรรยาย
4. ทดสอบ
เมื่อดำเนินการสร้าง Learning Object สำเร็จแล้วผู้สร้างสือ่ควรตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนนำไปใช้ริงในห้องเรียนการทดสอบทำได้ใน 2 ระดับ ได้แก่ การทดลองใช้งานและการทดลองในการเรียนการสอน
การทดลองใช้งาน เป็นการตรวจสอบว่า Learning Object ที่สร้างขึ้นมีข้อผิพลาดใดๆหรือไม่ ควรตรวจสอบความถูกต้องของการพิมพ์ข้อความ ตรวจสอบการทำงานของส่วนประกอบต่างๆ ใน object เช่น ไฮเปอร์ลิงค์ ภาพเคลือ่ไหว นอกจากนั้นควรทดสอบว่า Learning Object นั้นทำงานในคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นทุกแบบหรือไม่ เมือ่นำเสนอบนจอขนาดต่างๆภาะและข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอผิดเพี้ยนหรือเปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างไร
การทดลองใช้ในการเรียนการสอน เป็นการตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจวิธีการสื่อสารที่ใช้ใน Learning Object หรือไม่ และ Learning Object นั้น สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้เพียงใด ในการทดสอบอาจให้นักเรียนทำแบบทดสอบหรือกิจกรรมสั้นๆ เพื่อประเมินว่า หลังจากใช้ Learning Object แล้วนักเรียนส่วนใหญ่บรรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวังหรือไม่
เป็นเนื้อหาที่น่าสนใจนะ แต่น่าจะมีตัวอย่างที่ชัดเจนมากว่านี้
เนื้อหายังไม่ค่อยสมบูรณ์นะครับ อยากให้หาเนื้อหามาเพิ่มเติมหน่อยนะครับ