เวทีคุณเอื้อ เมื่อวันที่ 8-9 พค.49 ทำให้ผมรู้ว่า "ผมทำหน้าที่คุณเอื้อ ท่ามกลางทรัพยากรที่มีพร้อมต่างจากคุณเอื้อท่านอื่นๆ" ก่อนอื่นผมขอขอบคุณเจ้าภาพ (สคส.)ที่จัดให้มีการพบปะระหว่างคุณเอื้อ ขององค์กรต่างๆ ที่แตกต่างทำให้ผมได้เรียนรู้ในมุมที่ต่างจากตัวเอง สคส.ดูแลผู้เข้าร่วมเวที เป็นอย่างดี ผมปรับตัวกับการละลายพฤติกรรมได้อย่างไม่ลำบากใจ ผ่อนคลายลงกับความแปลกหน้า ได้มาก
การเข้าร่วมเวทีครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่า ในองค์กรอื่น ๆ มีการพยายามทำหน้าที่คุณเอื้อ เอื้อให้เกิดการดำเนินการที่เรียกว่า "การจัดการความรู้" โดยเฉพาะและภาคประชาสังคม ผมเห็นความพยายามในการจัดการความรู้ ผ่านการเล่าเรื่องจากคุณเอื้อของที่ต่างๆ ผมพบว่าท่านเหล่านั้นต้องเสียสละส่วนตน ลงทุนด้วยใจ ในการหาแนวร่วม เผยแพร่แนวคิด หาทรัพยากรในขณะที่ไม่มีทรัพยากรใดเลยเขาเหนื่อยกว่าคนที่อยู่ในองค์กรของรัฐอย่างผมเยอะ ผมชื่นชมในความทุ่มเทใจ ทั้งๆที่ "คุณเอื้อด้วยใจ"เหล่านั้นไม่ทำก็ได้ ฟังดูแล้วการเป็นคุณเอื้อของเขากับบริบทของผมต่างกัน ผมมีทรัพยากรทุกอย่าง มีเวทีขอให้ขยันทำและทำให้จริง ให้ครบกระบวนการ ตั้งแต่ต้นจนจบ หมายถึดูแลให้เลยไปจนครบกระบวนการ "ไปจนถึงประเมินผลจากการใช้การจัดการความรู้ในหน่วยงาน"
อีกสิ่งที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือเทคนิคต่างๆ ที่จะใช้กระตุ้นเตือนในองค์กร ที่ทาง มอ.ไม่ได้ทำ เช่น การกระตุ้นโดยสติกเกอร์เสื้อสัญลักษณ์ หรืออะไรก็ตามที่กระจายให้เห็นได้ทั่วๆ กันเพื่อเป็นกระตุ้นเตือนให้เป็นบรรยากาศร่วม อีกทางหนึ่งที่เป็นประโยชน์มาก
สำหรับ สิ่งที่ผมจะกลับมาทำต่อคือ ทำหน้าที่คุณเอื้อตามที่ได้รับการมอบหมาย "บวกเพิ่มการทำด้วยใจ" เอื้อสิ่งที่เอื้อได้ อีกอย่างคือการดูแลการประเมินผลหลังจากการใช้การจัดการความรู้ไปสักระยะหนึ่ง
ได้อ่านวารสารถักทอสายใยแห่งความรู้ ของสคส. ด้วยอภินันทนาการจากอ.ปารมี พบบทความที่อาจารย์เขียน รวมทั้งของท่าน CKO จากอีก 3 มหาวิทยาลัย พบว่าแม้จะเป็นระดับมหาวิทยาลัยเหมือนกัน แต่ละสถาบันก็มีแนวทางในการทำ KM ที่แตกต่างกันมากค่ะ กลยุทธ์ เทคนิคในการขับเคลื่อน KM ในองค์กรไม่มีใครเหมือนกันเลย แต่ก็จะพบว่าแนวปฏิบัติบางอย่าง เราสามารถนำมาดัดแปลงในบริบทของเราได้
คิดว่าในมอ.ของเรา ความตื่นตัวในระดับภาพรวมยังน้อยจริงๆค่ะ ดูเหมือนว่าระดับคนหน้างานนั้น active แต่ไม่ค่อยทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นๆที่จะช่วยให้เกิดพลังกระตุ้น ถ้าเราสามารถสร้างเครือข่ายของเราเอง(ในระดับคณะ) ให้เป็นระบบ แม้งานต่างกัน แต่วิธีการจัดการความรู้นั้นน่าจะสามารถลปรร.กันได้ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมกำลังใจและสร้างจิตสำนึกในระดับสถาบันให้พวกเราด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ และได้พยายามอุทิศแรงกายและสติปัญญาเท่าที่มี ช่วยผลักดันทุกวิถีทางค่ะ แต่พลังที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการมีแนวทางที่ชัดเจน ส่งเสริมผลักดันให้ถูกจังหวะจากผู้นำนั่นเองค่ะ