เนื้องอกมดลูก( fibroids หรือ myoma uteri)


ที่คนรักสุขภาพควรคำนึง...

เนื้องอกมดลูก( fibroids หรือ myoma uteri)

ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากที่มีความผิดปกติของประจำเดือน การตรวจพบถุงน้ำ หรือเนื้องอกใน ระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงมีมากขึ้นทุกวัน การไปตรวจสุขภาพ และตรวจภายในจึงเป็นเรื่องหนึ่ง ที่คนรักสุขภาพควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่ออายุย่างเข้าเลข 3 ซึ่งก็ไม่ควรกังวลอะไรมากเพราะหากพบความ ผิดปกติเกิดขึ้น และได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ โอกาสหายก็มีมาก สำหรับบางคนก้อนเนื้อที่ตรวจพบก็อาจจะ ไม่ใช่เนื้อร้าย..แต่ถ้าไม่ทำการรักษา อาจเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็ง ได้ค่ะ..

เนื้องอกมดลูก

เป็น ปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และสามารถรักษาให้หายได้ เนื้องอกมดลูก เกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อของผนังมดลูก ที่เจริญมากกว่าปกติ จนกลายเป็นก้อนกลมอยู่ในผนังมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกชนิดนี้มักจะไม่เป็นเนื้อร้าย และไม่ทำให้เกิดอันตรายอะไร ตอนเริ่มแรกเนื้องอกมักมีขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่ว แล้วค่อยๆโตขึ้นช้าๆไปเรื่อยๆ ตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ บาง คนอาจไม่ต้อง รับการรักษาใดๆ เพียงแต่คอยตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลง ของเนื้องอกให้สม่ำเสมอก็เพียงพอ แต่บางคนก็จำเป็นต้องรับ การรักษาหากเนื้องอกโตมาก หรือทำให้เกิด อาการผิดปกติ เนื้องอกมดลูกมักพบได้บ่อยในสมาชิกครอบครัวเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมผู้หญิงบางคนเป็นเนื้องอกมดลูก ขณะที่บางคนไม่เป็น
อาการที่ชวนสงสัย:
คนที่มีเนื้องอกมดลูกบางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เลยก็ได้ แต่ เนื้องอกที่โตอยู่ในมดลูกของคุณ อาจทำให้เกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น

- ประจำเดือนที่มากหรือนานหรือบ่อยผิดปกติ

- ปัสสาวะลำบาก ท้องอืดหรือท้องผูก

- รู้สึกปวดหรือหน่วงในท้องน้อยเรื้อรัง

- ปวดปัสสาวะบ่อยๆ

- ปวดหลัง

- ภาวะมีบุตรยาก

 คนส่วนน้อยมากที่หากไม่ได้รับการตรวจพบว่ามีเนื้องอกมดลูกแล้วเนื้องอกเจริญมากขึ้นจนทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่นกลายเป็นเนื้อร้ายรักษาได้หลากหลายวิธี: เนื้องอกมดลูกในแต่ละคนไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีเดียวกันการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ จำนวน, ขนาด,ตำแหน่ง และความเร็วในการโตของเนื้องอก และยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาด้วย ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาหลายวิธี ซึ่งคุณหมอจะให้คำปรึกษาแนะนำวิธีที่เหมาะสม ที่สุดสำหรับคุณได้ หลังจากที่ได้ตรวจอย่างละเอียดแล้ว ตรวจอะไรกันบ้างในขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย คุณหมอจะถามประวัติอาการของคุณและตรวจภายในด้วย นอกจากนี้ คุณหมออาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีการอื่นๆ เพื่อให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้องอกมดลูกที่มีอยู่

การตรวจภายใน

จะบอกได้ถึงรูปร่างลักษณะ, ขนาดโดยรวม, ความเรียบของผิวนอก รวมทั้งอาการเจ็บปวดของมดลูกได้ หากคุณมีปัญหาเลือดออกผิดปกติด้วย คุณหมอก็จะตรวจดูผนังช่องคลอดและปากมดลูกว่ามีการอักเสบติดเชื้อ หรือรอยแผลหรือไม่ และคุณหมอจะทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกที่เรียกว่า Pap smear ไปในคราวเดียวกันด้วย และเนื่องจากก้อนเนื้องอกมดลูกอาจซ่อนอยู่ในผนังด้านหลังของมดลูกได้  ดังนั้นคุณหมออาจต้องตรวจทางทวารหนักด้วยก็ได้นอกจากนี้การตรวจอื่นๆ ที่ใช้กันบ่อยคือ การตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตร้าซาวนด์ (Ultrasound) สามารถทำได้เร็ว ง่าย และไม่เจ็บปวด ส่วนการส่องกล้องตรวจเข้าในโพรงมดลูก (Hysteroscopy) และการส่องกล้องตรวจทางหน้าท้อง (Laparoscopy) จะต้องใช้เครื่องมือผ่านเข้าไปในร่างกายเพื่อตรวจ หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น  ก็ไม่ต้องตกใจ คุณกับคุณหมอควรจะปรึกษาร่วมกันในการเลือกทางรักษา โดยทั่วไปถ้าหมอแน่ใจว่าไม่ใช่เนื้อร้ายจะแนะนำให้เฝ้าติดตามเนื้องอกไป เรื่อยๆ ก่อน, ในบางรายอาจพิจารณาให้ตัดก้อนเนื้องอกออก หรือตัดเอาตัวมดลูกออกไปเลย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการของคุณขนาด และผลกระทบของก้อนเนื้องอก รวมทั้งความเร็วที่เนื้องอกโตมากขึ้น ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตัดมดลูกออก คุณจะต้องคำนึงถึงโอกาส และความต้องการมีบุตรในอนาคตของคุณเองด้วย แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดรักษาต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียให้ดีถี่ถ้วนเสียก่อนติดตามความเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกไปก่อนโดยการตรวจภายในหรืออัลตร้าซาวนด์เป็นระยะๆ สม่ำเสมอ วิธีนี้จะเหมาะในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็ก หรืออายุคุณใกล้จะถึงวัยหมดประจำเดือน เพราะในช่วงวัยหมดประจำเดือนนั้น เนื้องอกมักจะเล็กลงได้เองเนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเจริญของเนื้องอกนั้นมีระดับลดลง หากคุณใช้ยาฮอร์โมนอยู่ ต้องเฝ้าติดตามเนื้องอกอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ หมออาจแนะนำให้คุณเปลี่ยนจากยาทานคุมกำเนิดไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นแทน ถ้าหากขนาดของเนื้องอกโตขึ้น หรือใช้ยาฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดประจำเดือนอยู่ คุณหมอก็อาจแนะนำให้ลดขนาดของฮอร์โมนลงถ้าหากคุณตั้งครรภ์ เนื้องอกจะโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่มักไม่ทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงใดๆ การผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกมักไม่ทำกันในขณะตั้งครรภ์.. อย่างไรก็ตาม

คุณอาจต้องคลอดโดยการผ่าตัด โดยเฉพาะหากก้อนเนื้องอกโตมาก หรือไปขวางในช่องทางคลอด หรือหากคุณเคยผ่าตัดที่มดลูกมาก่อนการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออกการตัดเอาเนื้องอกออกอาจพิจารณาทำได้โดยใช้กล้องส่องเข้าโพรงมดลูกผ่านทาง ช่องคลอด (Hysteroscopy)หรือโดยการผ่าตัดผ่านทางแผลเปิดที่หน้าท้อง (Abdominal myomectomy)

วิธีการเหล่านี้จะช่วยเก็บรักษามดลูกไว้ได้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต แต่ก็อาจกลับ มีเนื้องอกมดลูกอีกได้เช่นกันคุณหมออาจให้ยาต้านฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อให้เนื้องอกมีขนาดเล็กลง ก่อนการผ่าตัด..การผ่าตัดเอามดลูกออกการตัดเอาตัวมดลูกออกทั้งหมด แต่จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกวิธีนี้จะเหมาะสมในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนหลายก้อน หรือทำให้เกิดอาการผิดปกติอย่างมาก การตัดเอาตัวมดลูกรวมทั้งปากมดลูกออก อาจทำได้ผ่านทางแผลผ่าตัดทางหน้าท้องหรือผ่าตัดออกทางช่องคลอด ส่วนการจะตัดเอารังไข่ออกไปด้วยหรือไม่นั้น อาจพิจารณาตามความสามารถที่จะเก็บรังไข่ไว้เพื่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนต่อไป ได้นานเพียงใด

จี้ทำลายเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial ablation)เป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งอาจเหมาะสมในกรณีที่มีประจำเดือนออกมาก แต่มีเนื้องอกมดลูกขนาดเล็กไม่กี่ก้อน วิธีการนี้จะใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ จี้ทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกรวมทั้งเนื้องอกที่ยื่นเข้าในโพรงมดลูก หลังการจี้แล้วเลือดมักออกน้อยลง  หรืออาจไม่มีประจำเดือนอีกเลย การฟื้นตัวหลังรักษาด้วยการจี้ก็เร็วมาก อย่างไรก็ตาม หากเนื้องอกยังโตขึนอีก ก็อาจจำเป็นต้องผ่าตัดมดลูกออกในภายหลังก็ได้ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 299744เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2009 11:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 12:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นเรื่องที่น่ารู้ ดีมาก

เป็นประจำเดือนมานาน เกือบครึ่งเดือนแล้ว ถ้าจะไปตรวจหมอจะตรวจให้ไหมคะเป็นมาตั้งแต่สงกรานต์แล้วยังไม่หายเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท