ระเบียบการจ่ายยาที่เปลี่ยนไป


วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้ากว่ารีบไปโรงพยาบาลจุฬาฯ เพราะกลัวไม่มีที่จอดรถ ง่วงมาก ตอนกลางคืนไม่ได้รีบเข้านอน ก่อนถึงโรงพยาบาลแวะตลาดหน้าวัดแขกเอาของที่เตรียมไปใส่บาตรพระสามรูปและซื้อข้าวเหนียวหมูทอดใส่อีก 2 ชุด และขนมจีนน้ำยาอีก 2 ชุด ใส่เสร็จก็รีบวิ่งไปที่รถ กลัวถูกล็อกล้อ

       วันนี้ไปฟังผลการตรวจสุขภาพประจำปี ลุ้นมากคือกลัวน้ำตาลจะสูง ปรากฏว่าไขมันสูงแทน เวรกรรม คุณหมอเลยจ่ายยาไขมันให้กินส่ะเลย แต่ยอมรับว่าจ่ายยาอะไรมาก็ไม่ค่อยกิน ส่วนมากจะรักษาตัวเองด้วยวิธีปลูกต้นไม้ในบ้านให้เหงื่อออกเยอะ ๆ ไขมันดีจะได้เพิ่มแทน

       ส่วนเรื่องที่ลุ้นอีกเรื่องคือการจ่ายค่ายาเพราะเวลาคุณหมอจ่ายยาทีหลายพันบาท เนื่องจากหกเดือนทีไปหาจึงจ่ายยาอย่างเต็มอัตรา และวันนี้ก็มีนัดคุณหมอเรื่องมือชาต่อช่วงสาย ความที่ไม่ค่อยหาหมอพอพบหมอชั้น 13 เสร็จและต่อด้วยหมอชั้น 5 เดินตัวปลิวมานั่งรอโดยไม่เอาประวัติมาจึงโดนแซงคิวไปเลย

       การพบหมอกระดูก เบื่อการรอคอยมากเพราะบรรดาผู้สูงอายุใช้เวลาในการเข้าพบนานมาก ที่จริงผู้เขียนก็ยังไม่เป็นอะไรมากนะ แค่มือชาเพราะถือของหนัก คือ ซื้อของกินกลับมาบ้านเยอะแทบทุกวัน มือเลยชา

       ต้องขอบอกว่าการพบหมอกระดูก ค่ายาจะแพงมาก พบทีจ่ายสามพันกว่าบาท บางทีพกไปแทบไม่พอ จึงลุ้นค่ายาหมอกระดูกทุกครั้ง วันนี้พกไปเยอะเลย กลัวขายหน้าเวลาเขาเรียกแล้วไม่มีเงินจ่าย บัตรเครดิตก็ไม่ชอบใช้กลัวมือเติบ แต่วันนี้สะใจมากจ่ายค่ายาและค่าพบแพทย์ไปแค่ 700 กว่าบาท

       ไม่แน่ใจถามเจ้าหน้าที่ซ้ำเลย สาเหตุเป็นเพราะกระทรวงการคลังออกระเบียบควบคุมการจ่ายยาของหมอ ทำให้หมอจ่ายยาในวงจำกัด เรื่องนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดี ดีที่ไม่เปลืองงบประมาณหลวง แต่ที่ไม่ดีคือยาตัวนั้นได้ผลดีมาก แต่หมอจ่ายไม่ได้ ถ้าอยากทานก็ต้องไปหาซื้อเอง

       งานนี้จึงมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐในการให้สวัสดิการแก่ประชาชน คุณหมอฝากบอกว่า ถ้าใครเดือดร้อนให้ร้องเรียนไปที่กระทรวงการคลังเพราะกรมบัญชีกลางตีความยาบางตัวเป็นวิตามิน ทำให้คุณหมอจ่ายยาไม่ได้

       ผู้เขียนถามคุณหมอว่า กรมบัญชีกลางมีแต่เจ้าหน้าที่ ไม่มีหมอแล้วจะแยกประเภทยาให้ถูกได้อย่างไร คุณหมอบอกว่าไม่ทราบ แต่ตอนนี้ผู้ป่วยที่มารับการรักษากับคุณหมอเบิกยาไม่ได้ ทั้งที่ยาบางตัวรักษาผู้ป่วยดีมาก

       ผู้เขียนบอกกับคุณหมอว่า อย่างนี้คุณหมอนั่นล่ะ ที่ต้องทำเรื่องชี้แจงไปที่กรมบัญชีกลาง เพราะจะมีความชำนาญในเรื่องตัวยามากกว่าเจ้าหน้าที่ ไม่อย่างนั้นเรื่องการจ่ายยาก็จะมีปัญหาไม่จบ

 

หมายเลขบันทึก: 299070เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2009 21:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 08:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เห็นด้วยคะที่คุณหมอจะต้องทำหน้าที่นี้ ดิฉันก็ไปหาหมอมาต้นเดือนนี้เองคะ หมอจ่ายวิตามินบี 1-6-12 แก้เหน็บชามาให้ ปรากฏว่าเบิกไม่ได้ต้องจ่ายเงินเอง สงสัยจะเพี้ยนไปแล้ว เพราะยานี้ดิฉันกินมา 6 เดือนแล้วคะ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท