แผนงบ อบต.ต้องผ่านเวทีประชาคมอยู่แล้ว


ตอบข้อคิดเห็นอาจารย์ภีมเรื่องงบที่ขอ อบต.ภีม ภคเมธาวี เมื่อ จ. 15 พ.ค. 09:10:16 2006 เขียนว่า: เข้าใจว่าแผนงบประมาณของอบต.ต้องผ่านเวทีประชาคมแต่ละหมู่บ้าน เพื่อหาโครงการที่ชาวบ้านต้องการ กองทุนหมู่บ้านและกลุ่มต่างๆน่าจะมีส่วนร่วมในการของบสนับสนุนจากอบต.ทางช่องนี้

ปัจจุบันการที่แต่ละหมู่บ้านอยากได้อะไร ก้ต้องอาศัยกระบวนการมีสส่วนร่วมโดยจัดทำเวทีประชาคมหมู่บ้านก่อน แต่เวทีประชาคมแต่ละหมู่บ้านมีความเข้มแข็งไม่เท่ากัน

เมื่อมีเวทีก็จะมีคนเสนอความคิดเห็น แต่ก็ต้องเข้าใจรูปแบบการเข้าร่วมประชุมของชาวบ้านคือ คนไหนที่ออกเสียงก็จะเป็นคนเดิมตลอด คนที่มาเพื่อรับฟังมีมากกว่า อันนี้ต้องทำใหเกิดคิดอย่างมีส่วนร่วม

เรื่องต่อมาหลังากได้ปัญหาของหมู่บ้านต้องมา ให้นำหนักของปัญหาอีกว่าอัไหนคิดว่าสำคัญสุด

จากนั้นก็เอาเสนอแผนชุมชนเข้าไปสภา องค์การบริหารส่วนตำบล ก็ต้องมีการนำเสนอ ผู้ที่นำเสนอคือสมาชิกอบต.ของแต่ละหมู่บ้าน แต่การเสนอจะเป็นไปตามแผนชุมชนหรือไม่ไม่มีใครรู้ก่อนได้ ปัญหาคือ ไม่ได้เสนอตามแผนซักเท่าไร เลยทำให้คนทำแผนมีความรู้สึกว่าไม่อยากทำแผนอีกต่อไป

อันนี้เป็นส่วนของแผนชุมชน

ต่อมาในเรื่องของงบประมาณ ที่จัดสรรสำหรับกลุ่มต่างๆมีการจัดสรรงบประมาณให้ตามกำลังที่ อบต.ทำได้

ส่วนเรื่องเครือข่ายกองทุนระดับตำบล มีการดำเนินการของบประมาณเพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทุนขอไป 10,000 บาทต่อปี ก็อนุมัติ แต่ติดตรงที่ ในความคิดของ อบต. เห็นว่า 1)ความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมของเครือข่ายยังไม่มี 2)กองทุนก็มีเงิน ทำไมไมจัดทำกันเอง โดยเอาเงินนี้มาบริหาร

มาถึงตรงนี้เลยคิดเองว่า หากเครือข่ายของตำบลมีความเป็นกลุ่มก้อนเหนียวแน่นคงจะเกิดกิจกรรมมากมาย เงินทองคงจะไหลมาเทมาเปนแน่แท้ แต่จะทอย่างไร ให้ทุกคนลดอัตตา เข้ามามีส่วนร่วม ไม่แข่งขันแบบเหยียบยำเพื่อชิงดี แต่แข่งกันช่วยเหลือคนไหนล้มก็ถูลากถูกังกันไป

แล้วะทำอย่างไร ????????????????????????????????????????????????????????

หมายเลขบันทึก: 29496เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2006 08:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เห็นด้วยว่าเวทีประชาคมเป็นเพียงโครงสร้างการมีส่วนร่วมซึ่งต้องเข้าไปสร้างกระบวนการให้เกิดการมีส่วนร่วมที่แท้จริง บทบาทหลักควรเป็นของอบต.กลุ่มองค์กรในชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านก็น่าจะเป็นกลไกหนึ่ง ถ้าเข้มแข็งคือกลุ่มมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องก็จะพัฒนากรรมการและสมาชิกให้เข้ามามีส่วนร่วม เริ่มจากกลุ่มและเข้าสู่เวทีประชาคมหมู่บ้าน,ตำบล
การจัดการความรู้มุ่งหวังจะเข้าไปสร้างการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับกรรมการเครือข่าย กรรมการกลุ่ม และสมาชิก

อ.เบียร์และทีมวิชาการเป็นผู้ช่วยสำคัญครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท