หน้าแรก
สมาชิก
Behappyworkingmom
สมุด
สุขใจเป็นอาจารย์
พอเข้าใจ......แบบ...
Behappyworkingmom
ฺBehappy Workingmom
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
พอเข้าใจ......แบบพอเพียง
รู้เรื่องเศษฐกิจพอเพียงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยหลังจากฟัง ศ. นพ. เกษม วัฒนชัย เล่าในการประชุม 30 ปี RDI
ในโอกาสครบรอบ
30
ปี สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดการประชุมในหัวข้อเรื่อง ทศวรรษใหม่....วิจัยเพื่อสังคม ขึ้นระหว่างวันที่
24-26
สิงหาคม
2552
ที่โรงแรมพูลแมน จังหวัดขอนแก่น
(
ชื่อเดิม โซฟิเทล ราชาออคิด)
ช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นการเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาเรื่อง
“
สร้างดุลยภาพแห่งสังคมไทย.....ด้วยการวิจัยเศรษฐกิจพอเพียง
”
โดย ศ.นพ. เกษม วัฒนชัย องคมนตรี น่าเสียดายที่ตังเองไปช้า เพราะเมมื่อไปถึงอาจารย์ได้เริ่มกล่าวเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจไปเยอะแล้ว แต่ที่โชคดีคือเข้าไปทันฟังเรื่อง ผลจากการเกิดโลกร้อนร้อน เราจะได้อะไร อาจารย์บอกว่าเมื่อโลกร้อนขึ้น ความเสียหายจากภัยธรรมชาติจะมากขึ้นอย่างที่เราทราบๆ กัน แต่เดชะบุญประเทศไทยเราได้รับผลดี เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากขึ้น ฝนตกทั้งปี ซึ่งปีที่ผ่านมามีจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานได้ทำนาปีนั้นสองครั้ง
–
ที่จริงอาจารย์บอกชื่อจังหวัดด้วย แต่จำไม่ได้เอง อันนี้เป็นความรู้ใหม่ ที่ได้ทราบในวันนี้เอง
อาจารย์พูดหลายเรื่อง หลายหัวข้อ แต่ละหัวข้อที่พูดอาจารย์จะยกตัวอย่างประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างที่อาจารย์จากสื่อหนังสือพิมพ์ จากการพูดคุยกับผู้รู้ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ฟังๆ อาจารย์คุยไปถึงได้รู้ว่า การได้ฟังคนเก่งและรู้จริงพูดนั้นเป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก แม้ว่าสื่อการพูดจะมีเพียงกระดาษขาวและเครื่องฉายแผ่นทึบ แต่เนื้อหาที่พูดมีความน่าสนใจกว่าสื่อที่ใช้มากนัก การใช้สื่อเป็นแค่เครื่องมือประกอบการพูดเท่านั้นเอง
ก่อนจะเข้าเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อาจารย์ได้พูดเรื่องแนวคิดของการขายที่ดินให้ประเทศอื่นๆ มีที่มาจากประเทศร่ำรวยมองเห็นว่าเรื่องอาหารนี้ต่อไปจะเป็นปัญหาในประเทศของเขาแน่ๆ จึงมีแนวคิดไปซื้อที่ดินประเทศอื่นๆ แล้วผลิตข้าวส่งกลับไปประเทศตัวเอง โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบที่แหล่งปลูกข้าวในโลกที่ได้ผลดี มีที่ลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในไทย และลุ่มน้ำโขง ที่ดินแถวนี้จึงเป็นที่หมายปองของชาวต่างชาติ อาจารย์ฝากเรื่องนี้ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมไปเผยแพร่ต่อด้วยว่าเราควรรักษาแผ่นดินไว้
–
อาจารย์บอกว่าที่มาวันนี้ ตั้งใจจะมาคุยเรื่องนี้ ดังนั้นวันนี้คุ้มแล้ว
อาจารย์ให้แนวคิดเรื่องการทำเกษตรกรรมไว้อย่างน่าสนใจว่า การทำเกษตรกรรมในอนาคตจะมี
3
วัตถุประสงค์คือ
1.
เพื่อเป็นอาหารคน
(Food)
2.
เพื่อเป็นอาหารสัตว์
(Feed)
3.
เพื่อเป็นพลังงาน
(Fuel)
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา แต่บางท่านที่อยู่ในแวดวงวิจัยและพัฒนาคงเคยได้ยินมาแล้ว แต่ถ้าถามว่าแล้ไม่เคยได้ยินเหรอว่า ทำเกษตรมีประโยชน์สามอย่าง
-
ต้องตอบว่าได้ยินตลอด แต่เมื่อขึ้นต้นด้วยประโยชน์ของการทำเกษตรสามอย่างนี้ และต้องชั่งน้ำหนักว่าจะไปด้านใดนั้นเป็นเรื่องใหม่
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอาจารย์กล่าวว่าประกอบด้วยสามอย่างคือ
1.
ทำอะไรให้พอเพียงตามอัตภาพ ยกตัวอย่างเช่น ปีที่แล้วมีหนี้สามแสน แต่ปีนี้หมดหนี้ ดังนั้นการซื้อกระเป๋าถือตามอัตภาพของปีที่ที่แล้วและของปีนี้ย่อมแตกต่างกัน
-
เข้าใจง่ายดี
2.
มีเหตุมีผลอธิบายได้ตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย
3.
มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงจากภายนอก ภูมิคุ้มสี่ด้านที่ต้องคำนึงถึงได้แก่ เรื่องวัตถุ เรื่องสังคม เรื่องของสิ่งแวดล้อม และเรื่องของวัฒนธรรม
การใช้เศรษฐกิจพอเพียงมีสามเงื่อนไข คือ
1.
มีความรู้
2.
มีคุณธรรม
3.
มีการใช้ชีวิตที่ดี
เมื่อใช้เศรษฐกิจพอเพียงแล้วได้อะไร
–
ได้สามอย่างคือ
1.
ชีวิตสมดุล
2.
ชุมชนสมดุล
3.
รับการเปลี่ยนแปลงจากโลกภายนอกได้
มีนักวิชาการต่างประเทศได้นำเอาทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงไปกล่าวให้ประเทศอื่นๆ ฟังว่าทฤษฏีนี้มีความสามารถ
5
อย่างคือ
1.
หลักการเศรษฐกิจพอเพียงขจัดความยากจนและลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
2.
หลักการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นพื้นฐานการสร้างพลังอำนาจของประชาชน
3.
หลักการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการยกระดับความรับผิดชอบของบริษัทเอกชน
4.
หลักการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการปรับปรุงมาตรฐานธรรมภิบาลขององค์กร
5.
หลักการเศรษฐกิจพอเพียงใช้เพื่อปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน
ทั้งหมดเป็นเรื่องหลักการเศรษฐกิจพอเพียงที่คิดว่าตัวเองเข้าใจมากขึ้น ก่อนหน้านี้พอได้ยินมักจะมาสะดุดและหยุดอยู่ที่ พอเพียง และพอเพียง และคิดว่ามีแค่นั้น แต่เมื่อได้ฟังปาฐกถาจบลง ก็รู้แล้วว่าที่ผ่านมาที่เราได้ยินคำว่า พอเพียงนั้น เราไม่ได้เข้าใจอะไรเลย แต่คิดว่ารู้แล้ว คิดเห็นแต่พอเพียงเป็นคนใส่เสื้อผ้าฝ้าย สะพายย่าม พูดเรื่องเพื่อชีวิต อันนั้นเป็นภาพที่เกิดในใจเสมอมา
แต่อีกด้านหนึ่งของความคิด เมื่อเข้าใจมากขึ้น ยิ่งเห็นว่าการใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียงให้สัมฤทธิ์ผลนั้นเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะทำให้ครบวงจร แต่ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ วันหน้าก็สายไป เราจะเจ็บหนักกว่านี้
สุดท้ายขอบคุณสถาบันวิจัยและพัฒนาที่จัดการประชุมที่ดีมีประโยชน์นี้ขึ้น กำลังคิดว่าจะนำความรู้ที่ได้วันนี้ไปขยายผลต่อได้อย่างไรต่อไป
เขียนใน
GotoKnow
โดย
Behappyworkingmom
ใน
สุขใจเป็นอาจารย์
คำสำคัญ (Tags):
#30 ปี สถาบันวิจัยและพัฒนา
#มหาวิทยาลัยขอนแก่น
#ศ นพ. เกษม วัฒนชัย
#เศรษฐกิจพอเพียง
หมายเลขบันทึก: 290590
เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2009 15:21 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 17:13 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
Behappyworkingmom
สมุด
สุขใจเป็นอาจารย์
พอเข้าใจ......แบบ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท