เมื่อครั้งที่ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์ได้เดินทางไปที่องค์กรออมทรัพย์ชุมชนตำบลแม่พริกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา อ.ธวัช ซึ่งเป็นประธานกลุ่มฯ ได้มอบบันทึกฉบับหนึ่งให้กับผู้วิจัยเพื่อให้นำมาเขียนลง Blog ให้ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ผูุ้้วิจัย (เพิ่ง) พอจะมีเวลาบ้างก็เลยจะนำบันทึกนี้มาเผยแพร่ (หวังว่าคงไม่ช้าเกินไปนะคะ)
วันที่ 23 เมษายน 2549
นายธวัช ธนวิจิตรานันท์ ประธานกองทุนสวัสดิการตำบลแม่พริก
ข้อคิดประจำวัน "ในโลกนี้หรือจะมีความยุติธรรมที่แท้จริง"
การปฏิบัติงานประจำวัน
หลังจากอาบนำ้ แต่งตัว รับประทานอาหารแล้ว ข้าพเจ้ายืนนิ่งคิดได้ว่าเราต้องไปทำหน้าที่เข้าร่วมประชุมเครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปาง ทั้งที่ใจไม่อยากจะไปเลย เพราะ ไปแล้วผลจากการประชุมทุกอย่างคงเหมือนที่คิดเช่นแล้วๆมาว่ากลุ่มไม่ได้อะไรที่คุ้มค่า ทั้งที่เสียค่านำ้มันรถเอง รถของเราเอง ประชุมมา 2 ปีกว่าไม่เคยจะมีค่าพาหนะ ค่าตอบแทนอะไรให้ ทุกคน (กรรมการ) ไม่อยากไป เพราะ ทุกอย่างต้องควักกระเป๋าตัวเอง แม้จะมีอาหารกลางวันให้ทาน แต่ก็ไม่ดีกว่าอาหารกลางวันที่บ้านเรา และยังต้องเสียเวลาอีก กรรมการส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านไม่มีเงินบำเหน็จบำนาญ ทุกคนต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง จะดีหน่อยก็กรรมการที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลที่เค้าเป็นอยู่มีค่าตอบแทนรายเดือนให้บ้าง งานกองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นงานหนักพอสมควร ถ้าจะทุ่มเทให้มันมากไป งานในครอบครัวก็จะเสียหาย ดีหน่อยเราอยู่บ้านนอก (ชนบท) ค่าใช้จ่ายมีน้อย ผักหญ้าหาง่ายตามริมรั้วและในสวน แต่กองทุึนก็ให้ประโยชน์กับชาวบ้านมากมายนะ มีหลายอย่างที่ชาวบ้านได้ซึ่งแต่ก่อนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย เกิด ตาย แต่เดี๋ยวนี้ในหมู่บ้าน ตำบลเราได้รับสวัสดิการจากกองทุน เสียดายงานที่เราทำไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานราชการ ทั้งที่เราช่วยแบ่งเบาภาระให้ราชการได้เยอะ ทุกคนที่มาทำงานนี้เราคิดว่าทำเพื่อเอา "บุญ" ทำแล้วได้กุศล ผลก็พอใจ แต่บุญและกุศลก็ไม่มีผลต่อการดูแลปากท้องของตัวเองเท่าไหร่ ยกเว้นชาติหน้ามีจริงเท่านั้น
การประชุมเครือข่ายฯจังหวัดมีเดือนละครั้ง เราเดินทางไปและกลับเป็นระยะทาง 250 กิโลเมตร ไป-กลับใช้เวลา 3 ชั่วโมง เราอยู่ในมที่ประชุมอีก 7-8 ชัวโมง รวมวันนั้นเราใช้เวลาเพื่อกองทุนฯ 10-11 ชั่วโมง กลุ่มของเราไปประชุมครั้งละ 2-3 คน (ที่เป็นกรรมการกองทุนฯ) เราเครียดนั่งอยู่ในรถที่กำลังขับ เพราะ ต้องระวังกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เราเครียดเพราะต้องนั่งประชุมอยู่ 7-8 ชั่วโมง เพราะ บรรยากาศในที่ประชุมไม่ดีเป็นส่วนใหญ่ ผู้เข้าประชุม ผู้ควบคุมการประชุม หรือผู้เป็นประธานฯไม่ค่อยสรุปเรื่องในแต่ละวาระ ไม่สร้างบรรยากาศที่ดี มีการต่อว่าต่อขาน ตำหนิ กองทุนฯ ที่บางกองทุนฯมีปัญหามาก่อน ไม่ค่อยจะรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกผู้เข้าประชุม ไม่ให้เกียรติเท่ากันทุกคน ภาวะผู้นำมีน้อย และจะเอาประโยชน์จากกองทุนฯอย่างเดียว ไม่ยุติธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย กองทุนฯของเราได้ปฏิบัติเกี่ยวกับการเงินเป็นอย่างดี มีการส่งเงินไปเครือข่ายฯทุกเดือน มีการจ่ายสวัสดิการให้กับสมาชิกกลุ่มทุกเดือนเป็นปกติ กองทุนฯของเราไม่เคยกู้เงินเป็นแสนๆจากเครือข่ายฯ เราไปร่วมประชุม ไปร่วมกิจกรรมไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฯมา แต่เราไม่ได้รับการตอบแทนที่ดีจากเครือข่ายฯสักเท่าไหร่ เช่น ครั้งสุดท้ายเราขอเบิกเงินจากเครือข่ายฯมาจ่ายเป็นค่าช่วยทำศพสมาชิกเป็นจำนวน 3 ศพ (เดือนธันวาคม 2548) เราทยอยส่งค่าเฉลี่ยความเสี่ยงสมาชิกเครือข่าญฯที่ตายไป เราส่งตามกำลังเงินที่พอจะส่งได้ทุกครั้ง แต่เราได้รับการปฏิเสธ คณะกรรมการของเรามานั่งคิดกันแล้วว่าถ้าเป็นอย่างนี้เครือข่ายฯได้ช่วยอะไรแก่เรา เราต่างหากที่ช่วยเครือข่ายฯ ส่งเงินให้เครือข่ายฯทุกเดือน ถูกเครือข่ายฯหักเงินเป็นค่าเฉลี่ยความเสี่ยงช่วยศพในเครือข่ายฯทุกเดือน แต่พอถึงสมาชิกกลุ่มเราเสียชีวิตบ้าง เราขอเบิกเงินแต่ได้รับการบอกปัดว่าต้องส่งค่าเฉลบี่ยความเสี่ยงในเดือนนี้ (ธันวาคม 2548) ให้ครบก่อน คณะกรรมการทุกคนของกลุ่มเราเสียใจในเรื่องนี้มาก พวกเรามานั่งคิดว่าต้องมาช่วยตัวเองหาเงินจ่ายค่าช่วยศพสมาชิก 3 ศพ เป็นเงิน 30,000 บาท และกองทุนฯของเราต้องมานั่งคิดกันต่อว่าถ้าเราไม่ส่งเงินเข้าเครือข่ายฯเป็นรายเดือนเช่นที่แล้วมา เราสามารถบริหารจัดการและช่วยตัวเองได้ไม่ยากเลย คณะกรรมการของกลุ่มเราเลยขอนำเรื่องเข้าที่ประชุมเครือข่ายฯในเดือนมกราคม 2549 ว่าจะขอเอากองทุนฯเราออกมาทดลองบริหารจัดการเองใน 1 ปี จะดูผลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเครือข่ายฯก็อนุมัติให้ 2 กองทุน ใน 2 อำเภอ คือ อำเภอเถินและอำเภอแม่พริก ออกมาทดลองบริหารจัดการเอง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นมา ตลอดเวลาตั้งแต่เข้าเครือข่ายฯ เราส่งเงินทุกอย่างไป 2 แสนบาทเศษ เราเบิกเงินจากเครือข่ายฯมาช่วยสมาชิกแค่ 4-5 หมื่นบาท และยังถูกปฏิเสธความช่วยเหลือ ถูกเอาเปรียบอีก อย่างนี้เราจะเข้าเครือข่ายฯไปทำไม?
อ.ธวัชเล่าด้วยอารมณ์
ผมคิดว่าการรวมตัวเป็นเครือข่ายก็เพื่อทำให้กลุ่มเข้มแข็งขึ้น เหมือนนิทานไม้เล็กๆมารวมกันก็หักได้ยาก
1)เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน
2)เพื่อช่วยเหลือกันด้านการเงิน ซึ่งเครือข่ายลำปางมีการจัดการเรื่องการเงินร่วมกัน
3)เพื่อเชื่อมต่อความช่วยเหลือจากภายนอก
ผมยังไม่ชัดเจนจากข้อมูลคือ
เป็นเพราะวิธีการบริหารจัดการหรืออย่างไร? เรามีความรู้ตรงนี้อย่างไร?
กลุ่มอื่นๆมีปัญหาอย่างนี้บ้างมั้ย?