ดาวมรกต
1.ขุมเหมืองเก่า
ราตรีซึ่งดาราพร่างพรายกระจ่างฟ้า สายลมโชย เย็นสะท้าน นกเค้าแมวตัวลายกางปีกโผบิน ถลาโฉบตะปบสันหลัง จับหนูตัวอ้วนแน่นกระพือปีกพุ่งสู่ท้องนภา หายลับเข้าซุ้มไม้ ร่างปะทะมะม่วงหิมพานต์สุกงอม ผลอวบน้ำร่วงผล็อยกระแทกกรวดทรายเบื้องล่าง แตกแฟะ ส่งกลิ่นอ่อน ๆ สายลมกระโชกใบไม้เหลืองใกล้ร่วงปลิดปลิวปกเนื้อมะม่วงหิมพานต์
หนูตัวเล็กโผล่หน้าจากรัง ย่นจมูก ดอมดม ละล้าละลังย่างน้อยเหลียวซ้ายแลขวา วิ่งเต็มเหยียดงับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ลากไปตามรอยล้อ ครูดไปบนผืนทราย มะม่วงหิมพานต์อีกผลหล่นเฉี่ยวสีข้าง มันปล่อยปากวิ่งตัวเปล่าเข้ารังหัวซุกหัวซน ผลสุดท้ายหลุดจากขั้วกลิ้งหลุน ๆ ตกลำน้ำเล็ก ๆ ลอยตุ๊บป่อง ๆ เศษไม้ลอยมาสกัดหน้า มันลอยเคว้งคว้าง
สายน้ำไหลเอื่อยสุดขอบเนินดิน ผ่านหญ้าคาสูง หนาทึบ ค่อย ๆ ซึมผ่านชั้นหิน กรวด ทราย โผล่เป็นหยดติ๋ง ๆ ใสแจ๋วลงในบ่อน้ำเก่าทรุดโทรม รอบ ๆ ขอบบ่อต้นเฟิน ตะไคร่ขึ้นเขียวชอุ่ม เลยพ้นบ่อพรรณไม้นานาชนิดแผ่กิ่งก้านปกคลุมบริเวณกว้างร่มครึ้ม เย็นวังเวง
ลมรำเพยโชยกลิ่นมะม่วงหิมพานต์หอมกรุ่นอวลทั่วบริเวณบ้านหลังน้อยริมขุมเหมืองร้างกลีบดอกเฟื้องฟ้าสีบานเย็นข้างบ้านปลิวสู่เหมืองร้าง ลอยปริ่มโค้งขึ้นทางทิศเหนือ กระเพื่อมเลาะริมขอบเหมือง วกกลับทางทิศใต้ครึ่งทาง เว้าเป็นครึ่งวงกลม สะบัดกลีบเลี้ยวหักโค้งลอยกลับมายังบ้านหลังเดิม
พ้นขุมเหมืองร้างออกไป ดงมะม่วงหิมพานต์เบียดเสียดแน่นพรืด ถัดจากดงไม้ ปรากฏ แสงตะเกียงวอมแวมลอดผ่านช่องหน้าต่างเป็นระยะ ๆ จนถึงท้ายหมู่บ้าน เลยไปเป็นท้องทะเลนอนสงบนิ่ง ไร้คลื่นลม
ฟองทะเลร่างผอมบาง ทรงผมซอยสั้น ใช้นิ้วแม่มือและนิ้วชี้จับหัวท้ายเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ส่องไปทางขุมเหมืองรูปคล้ายไต
“ลูกฟองหยุดดูได้แล้ว เดี๋ยวสายตาเสีย” นางแก้วตาหญิงวัยกลางคนเตือน
“ฟองไม่ใช่เด็กนะคะ ฟองเป็นนางสาวแล้ว เมื่อสามวันก่อน…” เธอพูดเจื้อยแจ้วเสียงใส หันหน้าส่งยิ้มให้นาง
“จ๋า แม่คนเก่ง” นางย่างเยื้องเข้ามา สัพยอก ลูบศีรษะเธอ
“เม็ดนี้คล้ายขุมเหมืองของเรามากที่สุด ทั้งส่วนโค้งส่วนเว้า” เธอหยิบเมล็ดคล้ายรูปจันทร์เสี้ยวกลม ๆ ป้อม ๆ สีน้ำตาลแก่วางบนฝ่ามือนาง ใช้นิ้วจับส่องไปทางขุมเหมืองอีกครั้ง ก่อนหย่อนใส่กระป๋องคละกับเมล็ดอื่น
“ไปนอนได้แล้ว” นางแก้วตาลากเสียง ตีแขนลูกเบา ๆ
ฟองทะเลเดินอ้อยอิ่ง ทอดสายตามองระลอกคลื่นในขุมเหมืองลูกแล้วลูกเล่า ชำเลืองมองแม่ กระทั่งนางเดินวับลับตา เธอนั่งทอดหุ่ย เหม่อมองฝูงหิ่งห้อยลอยละล่องส่องแสงสีเขียวใสวับแวมเป็นสายยาวกลางเวหา
เหนือท้องนภาเวิ้งว้าง หมู่ดาราส่องประกายวิบวับ ดาวหางทอดแสงลำยาว บางดวงวิ่งตรงเส้นสุดขอบฟ้า ก่อนดวงอื่นจะทอดหางวิ่งไล่อวดลำแสงเพริศพริ้ง บางดวงพุ่งต่ำเทียมหลังคาบ้าน ก่อนหายวับชั่วพริบตาเดียว อีกดวงเปล่งรัศมีเขียวมรกตพวยพุ่งเข้าบริเวณส่วนเว้าของขุมเหมือง แสงมรกตทะลุผ่านแมกไม้จมลงในบ่อน้ำใสคร่ำคร่า สว่างเรืองรองเห็นน้ำก้นบ่อ พลันแสงริบหรี่ลง ริบหรี่ลง จนมืดมิด
ฟองทะเลหยุดนับดาวหางแต่ละดวง ตาลุกวาว อ้าปากค้างจับสายตาปรากฏการณ์เบื้องหน้า ตะโกนลั่น “แม่ ! นางฟ้า !”
นางแก้วตาลุกพรวดจากเตียง วิ่งอ้าวยังระเบียงบ้าน ละล่ำละลัก “ลูกเป็นอะไร ?”
“นางฟ้า !” ฟองทะเลร้องตื่นเต้น จับแขนแม่เขย่า ชี้ไปที่ขุมเหมือง
“ฝันอีกแล้ว”
“เปล่าคะ คราวนี้ของจริง ฟองขอไปที่บ่อน้ำ...”
“ไม่ได้ ค่ำแล้วอันตราย”
“ไม่หรอกแม่ ฟองไปที่นั้นบ่อยไป”
“ตอนนี้ใกล้เที่ยงคืนแล้ว งูเงี้ยวเยอะ แม่ห้ามไม่ให้ไปที่บ่อน้ำเข้าใจมั้ย มืดค่ำน่ากลัวจะตาย”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่ ไปนอนได้”
เธอสาวเท้าตามแม่ต้อย ๆ เข้าห้องนอน
“พรุ่งนี้ ฟองไปก็ได้ แม่ปลุกฟองเช้ามืดนะคะ” เธอเอนกายนอนข้างนาง เบิกตา ยกนิ้วชี้ขึ้นฟ้าหมุนนิ้วมือเป็นรูปวงรี อธิษฐานเบา ๆ “ขอให้พู่กลิ่น ฟ้าคราม วาหว่า ไหลน้ำ ดอกหมาก รับหนูเป็นเพื่อนด้วยเช่นเดิมเถิด” เธอบีบมือนางแน่น ปิดเปลือกตาพริ้มหลับผ็อย
* * *
เขียนนิยายหรือคะ
ครับผม นิยายครับ