วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องนอกเรื่องจากงานเบาหวานที่พวกเราทำอยู่กันซักหน่อยนะคะ เพราะตอนนี้พวกเราเกาะติดสถานการณ์ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด AH1N1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 20009กันอยู่ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009อยู่ในช่วงของการระบาด และขยายตัวไปทั่วประเทศ และยังคงแพร่ระบาดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตอนนี้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มของนักเรียน กลุ่มคนวัยทำงาน จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและได้รับ เชื้อสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ เนื่องจากมีกิจกรรมทางสังคม พบปะ สังสรรค์ มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ก็มีมาตรการสำคัญที่ยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องนั่นก็คือการป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็นการ รณรงค์เรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งประชาชนก็มีความตื่นตัวและใช้หน้ากากอนามัยกันมากขึ้น การล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และให้ประชาชนทุกคนล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ การรับประทานอาหารร้อน สุกใหม่ๆ ลดการปนเปื้อน และความร้อนทำลายเชื้อโรคแล้ว ยังรณรงค์เรื่องการใช้ช้อนกลาง การดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง มีภูมิต้านทานอยู่เสมอ หรือเมื่อเจ็บป่วยมีอาการให้ผู้ที่ป่วยพักฟื้นอยู่กับบ้าน เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้
สำหรับในส่วนของโรงพยาบาลพุทธชินราชของเรา ได้จัดโครงการพบผู้นำท้องถิ่นและเครือข่ายบริการสุขภาพแลกเปลี่ยนแนวทางการป้องกันควบคุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (เมื่อ วันที่ 24 มิ.ย.52ที่ผ่านมา) กิจกรรมก็มีการอภิปรายกลุ่มถึงสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยท่านนายแพทย์ประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ในเรื่องท้องถิ่นกับการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แนวทางการดูแลรักษาในโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพชุมชน แนวปฏิบัติเพื่อเชื่อมต่อการดูแลรักษาระหว่างโรงพยาบาล เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการป้องกันควบคุมโรค นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 การสาธิตเย็บหน้าหน้ากากอนามัยแฟนซี และแจกหน้ากากอนามัยกับผู้รับบริการที่โรงพยาบาลพุทธชินราชทุกคนด้วย คุณลัดดาวัลย์(พี่โต้ง)ได้เขียนเล่าเรื่องราวไว้ ที่นี่ค่ะ
หลังจากนั้นทางกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัวของเราได้รับนโยบายจากท่านผู้อำนวยการมาดำเนินการ โดยการนำของนพ.นิพัธ ได้ดำเนินงานตามนโยบายเชิงรุกต่อเนื่องโดยลง เข้าสู่พื้นที่ในชุมชน ในการที่จะให้ข้อมูลข่าวสารทันต่อเหตุการณ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อเกิดความตระหนัก เกิดการปฏิบัติจริง ให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของความสำเร็จในการเฝ้าระวังและป้องกันและลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนของชุมชน ในการดูแลป้องกันตนเอง ชุมชนของตนเอง จากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งได้ เริ่มดำเนินการมาแล้ว ติดตามอ่านได้ ที่นี (น้องปิลันธนาได้เล่าไว้)
ส่วนในวันนี้(17 กค. 52) นับเป็นวันที่ 3 ที่ทีมเราเชิงรุกเข้าไปในพื้นที่อีก 2 แห่ง คือ ตำบลจอมทอง และตำบลหัวรอ ก็จะขอเล่าเรื่องราวและบรรยากาศของการลงพื้นที่ที่ตำบลจอมทองในช่วงเช้าให้รับทราบก่อนค่ะ ทีมของเราในวันนี้ก็ประกอบไปด้วย พญ.สาวิตรี นพ.ภูมินทร์ พญ.สุวรรณรัตน์ คุณลัดดาวัลย์ คุณเปรมสุรีณ์ คุณสุนันทา คุณยุคลธร และตัวดิฉัน นู๋ทิม(ทับทิม) ทางทีมเราได้นัดหมายกับทีมของท่านสสอ. เจ้าหน้าที่ ศสช. จอมทองและบ้านจอมทองในการติดต่อประสานกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น สถานศึกษา อสม. และประชาชนตำบลจอมทองเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เมื่อไปถึงก็พบว่าทางพื้นที่ได้รออยู่แล้ว รวมแล้วประมาณ 200 คน และครั้งนี้ ท่านนายอำเภอเมืองพิษณุโลก ท่านให้เกียรติมาเปิดการประชุมให้ความรู้ครั้งนี้ด้วย ท่านได้ให้แนวทางในการดูแลป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 20009 ไว้คือ การกินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ การสวมหน้ากากอนามัย และยึดหลัก 4 อ.คือ อาหารต้องเพียงพอและมีประโยชน์ ออกกำลังกายวันละ10-15 นาทีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อารมณ์ ซึ่งเป็นตัวทำให้ร่างกายผลิตสารเคมีต่างๆตามอารมณ์ ที่ส่งผลต่อสุขภาพถ้าอารมณ์สุขภาพดีด้วย และ อโรคยา คือต้องรู้จักดูแลตนเอง ป้องกัน รักษา ไม่ให้เกิดโรค และท่านกล่าวว่าในสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009นี้ ต้องมีการดูแลตนเองเพื่อป้องการการแพร่กระจายเชื้อโดย วิธีการดังกล่าว จะป้องกันการแพร่ระบาดได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายๆฝ่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน และที่สำคัญคือตัวประชาชนนั่นเอง
ท่านนายอำเภอมาเปิดงานและให้แนวทางในการดูแลป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วยแกนนำ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น สถานศึกษา อสม. และประชาชนตำบลจอมทอง
หลังจากนั้นพญ.สาวิตรีเป็นวิทยากรนำในการให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก และให้เกิดการตระหนักเกิดเป็นการปฏิบัติในการดูแลป้องกันตนเองและชุมชนของตัวเอง ได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ โดยประเด็นการให้ความรู้ความเข้าใจ ได้แก่ การเกิดโรค การระบาด แนวโน้ม อาการ ระยะการแพร่กระจายเชื้อ การดูแลป้องกันตนเองทั้งในภาวะสุขภาวะดี และเมื่อเกิดการเจ็บป่วย กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังและการดูแลในกลุ่มเหล่านี้ต่อไป สาธิตวิธีการใช้หน้ากากอนามัย การล้างมือ การใช้วัคซีน การรักษา ต่างๆเหล่านี้เป็นต้น
ทีมแพทย์ พยาบาลจากเวชศาสตร์ครอบครัว และท่านสสอ. ร่วมลงพื้นที่เชิงรุก
ท่านนายอำเภอเป็นพรีเซนเตอร์ ล้างมือ 7 ขั้นตอน
ท่านสสอ เป็นพรีเซนเตอร์เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย
พี่ๆอาสาสมัครมาเย็บหน้ากากอนามัยให้ โดยไม่คิดเงิน น่ารักจริงๆ
หลังจากนั้นก็เป็นช่วงของการซักถาม การทำความเข้าใจร่วมกัน และบอกเล่าการดูแลตนเองทั้งของในกลุ่มของ อสม. ประชาชน และสถานศึกษาของครูอาจารย์จากโรงเรียนในตำบลจอมทอง บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนใจ ที่จะซักถาม พูดคุย และบอกกล่าวถึงแผนการการดูแลป้องกันตนเองต่อไปหลังจากนี้ พอสรุปประเด็นได้ดังนี้
เริ่มที่ท่านนายอำเภอถามถึงเรื่องสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถต้านไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 20009 นั้นได้ผลหรือไม่อย่างไรแค่ไหน พญ.สาวิตรีกล่าวว่า สมุนไพรเหล่านี้ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทาน ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่ายๆ เมื่อเจ็บป่วยจึงทำให้อาการดีขึ้นด้วย
ในส่วนของโรงเรียนได้แก่โรงเรียนวัดจอมทอง โรงเรียนวัดท่าตะเคียน นั้นบอกว่าได้เชิญหมออนามัยไปให้ความรู้กับครูและนักเรียน และยังได้รับนโยบายมาจากท่านผู้ว่าราชการ นำมาดำเนินการ เริ่มที่การคัดกรองเด็กนักเรียนหาผู้เจ็บป่วย ตรวจนักเรียนทุกห้องเรียนค้นหา สังเกตุนักเรียนที่มีอาการ ทำประวัติไว้ ส่งหาหมออนามัย เมื่อมีอาการให้หยุดเรียน ติดตามเยี่ยมนักเรียนตามบ้าน งดกิจกรรมต่างๆที่ทำเป็นหมู่คณะ เช่นทัศนศีกษา การเข้าค่าย เป็นต้น และมีแนวทางการป้องกันตนเองตามแนวนโยบายและความรู้ที่ได้รับมาเหมือนทั่วๆไปเช่นกัน
คุณครู ซักถาม และเล่าบทบาทที่จะดำเนินการต่อไปในโรงเรียนของตนเอง
ทางเจ้าหน้าที่ ศสช.บ้านจอมทอง พี่ประเสริฐเล่าถึงการให้นักเรียนหยุดเรียนอยู่กับบ้านเมื่อมีอาการแต่นักเรียนไม่ยอมอยู่บ้านออกตามห้างสรรพสินค้า โรงหนัง จะมีมาตรการอย่างไรบ้าง พญ.สาวิตรีแนะนำว่าถ้าให้เด็กหยุดเรียน คุณครูต้องติดตามเยี่ยมนักเรียนที่บ้าน ซึ่งทำอยู่แล้ว และต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ด้วยถ้าให้เด็กหยุดเรียน
ในส่วนอบต.นำโดยนายก อบต.สมชาย และปลัดอบต.ก็มีความห่วงใยในชุมชนของตนเอง สอบถามเพื่อความกระจ่างในหลายเรื่อง และวางแผนที่จะให้ความรู้ดูแลในกล่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ต่อไปในไม่ช้านี้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนงบประมาณทั้งในเรื่องเอกสารความรู้ การตัดเย็บหน้ากากอนามัยแจกชาวบ้านและครูนักเรียนอีกด้วย นอกจากนี้ยังจะกระจายข่าวสารไปทางหอกระจายข่าว การเข้ากระจายเข้าในชุมชน และยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพื่อให้ชุมชนของตนดีขึ้น
และยังมีพี่ๆอาสาสมัครมาตัดเย็บหน้ากากอนามัยให้ฟรีๆโดยไม่คิดค่าแรงอีกด้วย
กลุ่มของอสม. เล่าถึงบทบาทของตน ว่าจะนำความรู้ไปบอกต่อ ให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ แนะนำว่าถ้าเจ็บป่วยก็ไม่ต้องมาประชุม แนะนำเรื่องการดูแลตนเองทำร่างกายให้แข็งแรง โดย การออกกำลังกาย และการรับประทานอาหาร มีประโยชน์ และที่สำคัญคือดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีอยู่เสมอ และยังเน้น เรื่องการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมืออีกด้วย
ในบทบาทของผู้ใหญ่บ้าน ก็กล่าวว่าจะนำความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านในหมู่ของตน และได้ถามเกี่ยวกับเรื่องข่าวสารที่ได้รับจากทีวี หนังสือพิมพ์ ที่สร้างความกลัวความตื่นตระหนกให้กับประชาชนนั้นดูน่ากลัวมาก พญ.สาวิตรี ก็อธิบายว่าการนำเสนอข่าวก็เป็นกลยุทธ์ในการขายข่าว การทำเรทติ้งอย่างหนึ่งของสื่อ ให้ลองเปรียบเทียบอัตราการตายจากอุบัติเหตุในแต่ละวันกับอัตราการตายของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้นให้ลองวิเคราะห์เปรียบเทียบดูถึงความน่ากลัวทั้งสองอย่าง ท่านผู้ใหญ่ก็เลยถึงบ้างอ้อ...อ้อ...อ้อ..อย่างนี้นี้เอง
เจ้าหน้าที่ศสช. กลุ่มของอสม. อบต. ปลัดอบต.ซักถามและบอกกล่าวถึงสิ่งที่ตนเองกระทำอยู่ และแผนการดำเนินการต่อไป เพื่อป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในชุมชนของตน
ส่วนเจ้าหน้าที่ ศสช.ทั้งของจอมทอง และบ้านจอมทอง บอกว่ามันเป็นเรื่องของความจำเป็น ไม่อยากเห็นไม่อยากให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ หลังจากได้รับนโยบาย ก็นำมาปฏิบัติสร้างความรู้ความเข้าใจ กับประชาชน ดำเนินการขอความสนับสนุนวิชาการจากโรงพยาบาลพุทธชินราช ติดต่อประสานงานกับอบต. หาแนวร่วม โดยกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้นำชุมชน อสม.สถานศึกษา ประชาชนให้ได้รับความรู้ สร้างความเข้มแข็งของชุมชน แต่หลังจากได้ความรู้แล้ว ก็ห่วงเรื่องการปฏิบัติในส่วนของประชาชน ก็พยายามชี้แจงเน้นวิธีปฏิบัติการดูแลตนเองที่ถูกต้องอยู่ตลอดเวลา เน้นเรื่องการคัดกรอง การใช้หน้ากากอนามัย การล้างมือ การวัดไข้ทุกรายที่มารับการตรวจรักษา สร้างสุขนิสัยให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนเพื่อ เป็นตัวอย่างให้คนในชุมชน
นี่คือพลังชุมชนที่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะทำการขับเคลื่อนในการที่จะดูแลตนเอง และชุมชนของเขาให้ปลอดภัจจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังคุกคามเราอยู่ในขณะนี้...สู้ สู้
บทสรุป พ.สาวิตรี กล่าวว่า ไข้ ไอ หอบ พบแพทย์ได้เลย ไข้ธรรมดา หาหมออนามัย ....สำคัญ ขอผู้นำชุมชน อสม. ชมรมต่างๆ โรงเรียน ทำหน้าที่กระจายความรู้สู่ชุมชน ดูแลชุมชนของตนเอง
ช่วงบ่ายหลังจากรับประทานผัดไท(กองทัพเดินด้วยท้อง...ขอบอกอร่อยมากๆ) จากตำบลจอมทองแล้ว กองกำลังของเราก็เคลื่อนที่เร็วไปปฏิบัติการที่ตำบลหัวรอต่อ ทางศสช.โดยพี่ติ๋วหัวหน้าศสช.ได้ประสาน และเตรียมสถานที่ไว้ที่ศาลาวัดตาปะขาวหาย ไปถึงกลุ่มก็รออยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้จะมีเฉพาะ อสม. และเจ้าหน้าที่ ศสช.เท่านั้น เพราะทางเจ้าหน้าที่บอกว่าในส่วนของโรงเรียนได้ลงไปในโรงเรียนไปให้ความรู้มาแล้วถึง 3ครั้งจึงไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ บรรยากาศในช่วงบ่าย แม้อากาศจะค่อนข้างร้อนแต่กลุ่ม อสม.ก็มากันประมาณ 100 กว่าคน ในช่วงบ่ายนี้วิทยากรนำของเราคือ นพ.ภูมินทร์ และพญ.สุวรรณรัตน์ ส่งลูกรับลูกกันโดยมีคุณเปรมสุรีณ์ เป็นตัวสร้างสีสัน มุขต่างๆไม่ให้เครียด และง่วงนอน ประเด็นการพูดเป็นประเด็นเดียวกับที่ตำบลจอมทอง หลังจากนั้น ก็เปิดโอกาส ให้กลุ่มได้พูด ซักถาม แสดงความคิดเห็นต่างๆ ก็มีผู้สนใจถามกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารที่มีสีต่างๆสามารถต้านหวัดได้หรือไม่ สอบถามเรื่องการใช้หน้ากากอนามัยระหว่างผู้ป่วย กับคนปกติ ต้องใส่กันคนละด้านหรือไม่ การดูแลตนเองอย่างไรเมื่อไปห้างสรรพสินค้า โรงหนัง การใช้โทรศัพท์สาธารณะ ท่านวิทยากรก็ให้ความกระจ่างกันไป
บรรยากาศภาคบ่ายที่ตำบลหัวรอ
ทีมวิทยากรเต็มที่ เต็มใจ ห่วงใยประชาชน
อสม.ประชาชน เต็มที่ เต็มใจ ที่จะดูแลตนเองแลชุมชนของตนเองให้ดีที่สุดเช้นกัน "ไข้หวัดนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดอยู่ที่การดูแลตนเอง เป็นเรื่องของตัวเองที่ต้องดูแลตัวเองกันทุกคน"
สัญญากันด้วยเกียรติของ อสม."แจ้งข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ประชาชน ทำงานเป็นตัวอย่างที่ดี"
สุดท้ายคุณอุดมชัยซึ่งเป็นประธาน อสม.ของตำบลหัวรอก็ได้พูดถึงบทบาทของตนเองและอสม.ในสิ่งที่จะต้องทำต่อไป โดยกล่าวว่าจากสถานการณ์ในขณะนี้ ตนเองได้รับทราบข่าวสารต่างๆมามากมายเกี่ยวกับเรื่องการดูแลป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009นั้น วิธีการที่ดีที่สุดคือการดูแลตนเอง ช่วยเหลือตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไว้ก่อน การกินอาหารที่มีประโยชน์ และยังใช้หลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมในชุมชนที่เป็นกลุ่ม เมื่อป่วยจะต้องดูแลตัวเองไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ให้เห็นกับส่วนรวม อสม.ได้เปรียบกว่าคนอื่นคือได้รับความรู้ ก็จะใช้บทบาทหน้าที่ของตนเองตาม สโลแกนที่ว่าคือ "แจ้งข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ประชาชน ทำงานเป็นตัวอย่างที่ดี" เป้าหมายก็เพื่อให้ตำบลของตัวเองสามารถสู้รบกับไข้หวัดสายพันธ์ใหม่นี้ให้ได้ แลทิ้งท้ายไว้ว่า ไข้หวัดนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดอยู่ที่การดูแลตนเอง เป็นเรื่องของตัวเองที่ต้องดูแลตัวเองกันทุกคน
นู๋ทิมบันทึก
ทำงานกันแบบมุ่งมั่นตั้งใจ ทุกเรื่อง ทุกงาน แบบนี้ต้องให้โบว์ทอง เยี่ยม ๆ
ชื่นชมค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ
เยียมคัรบ น่าจะมา มอนอบ้างน้า
เขาเอาคนมาตรวจที่มอ กัน
หรือเอามาแพร่ให้นิสิต ติดบานเลย
ผมก็ตกเป็น 1 ในนั้น กำลังรุ่นจะหายเองหรือต้องหาหมอ - -*
ความร่วมมือของประชาชนคือหัวใจสำคัญของ primary care ตอนนี้ ไข้หวัด 2009 กำลังทดสอบพลังความร่วมมือของชุมชน ช่วยกันคนละไม้คนละมือแบบนี้คงเห็นผลดีแน่ เราคงพ้นจากวิกฤตหวัดร้ายในเร็ววันนะ