การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ


คุณภาพการศึกษา

               กระทรวงศึกษาธิการได้จัดสรรงบประมาณให้แก่สถานศึกษาสำหรับบริหารจัดการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้เองตามวัตถุประสงค์ใน 4 กิจกรรม โดยในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนดังกล่าว สถานศึกษาต้องจัดกิจกรรมให้ครบทั้ง 4 กิจกรรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.       กิจกรรมวิชาการ โดยจัดอย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อคนต่อปี

2.       กิจกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรม เช่น ค่ายลูกเสือ ยุวกาชาดเนตรนารี โดยจัดอย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อคนต่อปี

3.       ทัศนศึกษานอกสถานที่ โดยจัดอย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อคนต่อปี

4.       บริการเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคอมพิวเตอร์ โดยจัดอย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อคนต่อปี

ขณะนี้สถานศึกษาแบ่งแห่งยังไม่ได้จัดทำแผนงาน/โครงการ ให้ครบทั้ง 4 กิจกรรม ซึ่งในรายละเอียดการดำเนินการของสถานศึกษาแต่ละแห่งนั้น คณะกรรมการสถานศึกษาฯ และคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย ต้องพิจารณาร่วมกันโดยคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ด้านคุณภาพที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนเป็นหลัก

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมวิชาการ กิจกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรม และทัศนศึกษานอกสถานที่  สถานศึกษาต้องจัดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งแต่ละกิจกรรมนั้น สถานศึกษาอาจจัดกิจกรรมพร้อมกันได้ในแต่ละชั้นก็ถือว่าได้ตามเป้าหมาย ส่วนบริการเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกิจกรรม ICT ให้นับเป็นชั่วโมง คือ ปีการศึกษาละไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมง ซึ่งสามารถทยอยจัดได้ ทั้งนี้เป็นนโยบายกว้าง ๆ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการแบบบูรณาการของสถานศึกษา สำหรับระดับอนุบาล ซึ่งอาจไม่มีการสอนคอมพิวเตอร์ สามารถให้นักเรียนค้นคว้าโดยใช้ ICT ในห้องสมุด ให้หัดสืบค้น ให้หัดเปิดสื่อต่าง ๆ ดู เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับวัยและระดับชั้นของเด็ก หรือให้ลองเปิดเกมส์ เล่นเกมส์เพื่อพัฒนาสมอง พัฒนาการเรียนรู้ต่าง ๆ โดยใช้คอมพิวเตอร์ ก็ถือได้ว่าให้บริการ ICT แล้ว และควรถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย

คำสำคัญ (Tags): #คุณภาพการศึกษา
หมายเลขบันทึก: 275122เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2009 14:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 13:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

อะไรก็คุณภาพ คุณภาพ

เราคงต้องพัฒนากันต่อไป และต้องแลกมาด้วยทุกสิ่ง

ก็เพื่อคุณภาพของอะไรต่อมิอะไร

สวัสดีครับคุณสุปราณี

กระผมเห็นมาหลายโรงเรียนมักจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมทัศนศึกษา(ไปเที่ยวขี่รถชมถนน)มากว่ากิจกรรมอื่น ๆ เพราะอะไรไม่ทราบ.......... ตรงกันข้ามกับกิจกรรมอื่น ๆ เช่นกิจกรรมทางวิชาการ หรือแม้แต่กิจกรรมลูกเสือฯ ซึ่งผมมีความศรัทธาเป็นอย่างมาก ผมเชื่อว่าการจัดกิจกรรมลูกเสือเนตรนารีด้วยกระบวนการที่ถูกต้องและได้รับการเอาใจใส่จากครูทุก ๆ คน เด็กน่าจะได้อะไร ๆ มากกว่าการหยุดโรงเรียนเพื่อไปเที่ยวซะอีก................

สวัสดีค่ะ...คุณบัญชา

ก็คงเป็นการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียน...ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาฯ และคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่ายแล้ว...แต่ในความคิดเห็นของตัวเองนะคะ...คิดว่าแหล่งเรียนรู้บางแห่งที่ทางโรงเรียนนำเด็กไปทัศนศึกษา...ก็เป็นการดีสำหรับเด็กไปอีกอย่างเพราะ...ทำให้เด็กได้ไปดู...ได้ไปเห็น...เรียนรู้กับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกโรงเรียน...ซึ่งบางทีหากโรงเรียนไม่พาเด็กไป...โอกาสที่ครอบครัวของเด็กบางครอบครัว...ก็ไม่มีโอกาสหรือศักยภาพที่จะนำบุตรหลานของตนเองไปได้...เด็กก็จะได้อะไรมากเหมือนกัน...เพราะตัวเองก็มีโอกาสที่เคยได้ไปกับบางโรงเรียน...แล้วรู้สึกว่าก็ได้ความรู้กับแหล่งเรียนรู้นั้นไปด้วย...

 

 

คุณภาพเป็นสิ่งที่ดีแต่มีคุณภาพเปล่าน่ะ

ผมก้อว่างั้นแหละ ครับ นโยบายดี บางโรงเรียนยังไม่กล้าเอาเงินออกไปใช้เลย

นอกจากซื้อตำราและเสื่อผ้า

เรียนคุณสุปราณี

ขอปรึกษาเรื่องการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ด้าน ICTค่ะ

การนับชั่วโมงการใช้ ICT นับเป็นค่าใช้จ่ายอย่างไรคะ

รร.จะดำเนินการจัดซื้อคอมพิวเตอร์โดยใช้เงินส่วนนี้ได้หรือไม่ แล้วให้นักเรียนเข้าไปสืบค้น

หรือจัดซื้อคอมพิวเตอร์หนึ่งห้องเรียน แล้วจัดให้นักเรียนได้เรียนรู้ในคาบเรียน

ขอบคุณค่ะ

ทุกกิจกรรมมีความสำคัญหมด ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละสถานศึกษา ที่สำคัญเมื่อจัดแล้วประโยชน์สูงสุดต้องลงถึงตัวเด็กเป็นสำคัญ 

นรารัตน์. พจนวิชัย

ไม่ทราบว่างบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของปฐมวัยกับของประถมศึกษา ในการใช้จ่ายจะแยกกันหรือไม่.    และงบนี้สามารถใช้กับกิจกรรมอื่นๆ หรือเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับ 4 กิจกรรมนี้หรือไม่.    เพราะที่โรงเรียนเมื่อระดับปฐมวัยจะใช้เงินทำกิจกรรมทัศนศึกษา   เขาจะหวงเงินมาก.  ท้ังที่อนุบาลยังไม่ได้ใช้จ่ายในกิจกรรมอะไรเลย.   และเงินที่เหลืออยู่ในแต่ละปีจะต้องทำอย่างไรบ้างคะ.   ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ.    


นายอดุลย์ คำภาพักตร์ ผอ.ร.ร.บ้านป่าเลา

การใช้จ่ายเงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าใช้ได้ในกิจกรรมต่างๆ คือ กิจกรรมวิชาการ/กิจกรรมคุณธรรม-จริยธรรม ชุมนุมลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด กิจกรรมทัศนศึกษา และบริการ ICT/คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้เด็กได้ผลประโยชน์ ได้ความรู้จริง หมายถึง ผลให้ตกอยู่ที่ตัวเด็กนักเรียน

เรียนคุณสุปราณี อินต๊ะวงศ์ ขอคำแนะนำในการทำเรื่องเบิกใช้เงินในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนหน่อยค่ะ อย่างเช่น1. การพานร.ไปทัศนศึกษา เราทำเรีองจัดซื้อ จัดจ้างอย่างไร และส่วนที่เบิกได้คือส่วนไหนบ้างคะ ค่าเช่ารถ ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหารกลางวัน ค่าอาหารว่าง ทำเรื่องเบิกได้ทั้งหมดหรือไม่ 2. การพานร.เข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ทั้งระดับกลุ่ม ระดับเขต ใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้หรือไม่ (คือรร.จะให้เงินนร.ที่เป็นตัวแทนไปแข่งขัน ใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆต่อคนในวันแข่งขัน) ถ้าใช้ได้ ต้องดำเนินการทำเรื่องอย่างไรคะ 3. สนใจคำถามของคุณ Jam ด้าน ICT ด้วยค่ะอยากทราบคำตอบด้วยค่ะ
รบกวนช่วยตอบทุกข้อหน่อยนะคะเพื่อเป็นความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานต่อไปค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

โรงเรียนมัธยม ใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน1. ด้านวิชาการ มีการจัดทำโครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบของภาคี 4 ฝ่าย และคณะกรรมการสถานศึกษา โครงการจะมีกิจกรรม หลากหลาย เช่น- กิจกรรมเข้าค่ายวิชาการ- แสดงผลงานวิชาการของนักเรียน- นำนักเรียนไปแข่งขันศิลปหัตถกรรม*2. ด้าน ict จัดทำโครงการ ผ่านความเห็นชอบ ภาคี+ คณะกรรมการสถานศึกษา มีกิจกรรมดังนี้ - จัดการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ ให้กับนักเรียนทุกระดับชั้น ไม่ต่ำกว่า 40 ชม./ ปีการศึกษา- ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์**- ปรับปรุงซ่อมแซมห้องคอมพิวเตอร์**เรียนถามว่า ข้อที่มี* สามารถเบิกจ่ายได้หรือไม่

คุณสุปราณีครับเงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจัดซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อผลิตสื่อได้ไหมครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท