สุขภาวะ การมีสภาวะสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ การมองสุขภาวะของคนจะต้องมองในลักษณะองค์รวมไม่มองเพียงด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว การมีสุขภาวะที่ดีเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน( WHO )รัฐจะต้องจัดบริการต่างๆให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี จากเดิมรัฐมักมองแต่บริการในด้านสาธารณสุข ปัจจุบันพบว่าการที่ประชาชนจะมีสุขภาวะที่ดีได้จะต้องอาศัยปัจจัยในด้านต่างๆเช่นเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ฯลฯ การพัฒนาจะต้องให้ความสำคัญในทุกด้านเพื่อทำให้สุขภาวะที่ดี
จากวงจรโง่จนเจ็บยังเป็นวงจรที่ยังใช้อธิบายการเดการเจ็บป่วยของประชาชนได้ตลอดเวลาพบว่าถ้าคนขาดความรู้ก็ขาดโอกาสในการหารายได้ที่มาก เมื่อไม่มีรายได้ก็ขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการที่ต้องมีการจ่ายบริการ หรือต้องทำงานหนักจนเกิดการเจ็บป่วยเมื่อป่วยก็ไม่สามารถหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวได้ก็จะเกิดเป็นวงจรปัญหาหมุนเวียนกันไม่จบสิ้นส่งผลกระทบต่อรัฐที่มีประชาชนที่ขาดคุณภาพ ดังนั้นในการจัดการกับปัญหาสุขภาพโดยบทบาทรัฐคงไม่สามารถมองแค่เรื่องการจัดบริการสาธารณสุขอย่างเดียว ต้องมองถึงการปรับระบบการศึกษา ระบบเศรษฐกิจ ตลอดถึงสังคมจึงจะส่งผลต่อสุขภาวะของประชาชนในประเทศ
การพัฒนาการสาธารณสุขที่ผ่านมาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับต้นๆมักจะมุ่งเน้นการจัดสร้างสถานบริการ เน้นการจัดบริการให้กับประชาชนในเรื่องการรักษาพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ทำให้เกิดการแออัดของสถานพยาบาล ซึ่งการสาธารณสุขจะเป็นงานที่ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ ปัจจุบันรัฐเริ่มมองเห็นทิศทางขึ้นแต่ก็ยังคงต้องพัฒนากันต่อไปเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในเรื่องสุขภาวะตามที่ WHO ได้กำหนดไว้ อย่างแท้จริง
ไม่มีความเห็น