ต่อจากตอนที่แล้ว ผมทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ว่า “ศิลปินต้องการให้โลกจดจำเขาตลอดกาลในผลงานของเขา หรือแค่แสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวในช่วงที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น? วันนี้ผมไม่ได้กลับมาตอบคำถามนั้นหรอก แต่แค่มีเรื่องเล่าให้ฟัง
เพลงอมตะที่ไม่มีใครได้ฟัง ฟังดูแปลก ๆ จะเป็นอมตะอย่างไรถ้าไม่มีใครได้ฟัง หรืออาจจะเพราะไม่มีใครฟังนั้นแหละถึงเป็นอมตะ แล้วถ้าไม่มีใครได้ฟังจะมีค่าอะไรกัน
ลิขสิทธิ์ เป็นสิ่งหนึ่งที่ปิดกั้นการส่งต่อคุณค่าของผลงาน จากรุ่น สู่ รุ่น ความรู้สึกผมมันเหมือนการส่งต่อรายได้จากรู่นสู่เพียงไม่กี่รุ่น แล้วสูญสลายไปเหลือเพียงจารึกในกระดาษ ซึ่งนั่นไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย หลายเพลงที่เราได้ยินได้ฟังมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ยังฟังแผ่นเสียง เทปคลาสเซ็ต ปัจจุบันเป็นอีเล็กทรอนิกส์ไฟล์ไปซะแล้ว
การเคลื่อนไปของยุคสมัยทำให้บางสิ่งบางอย่างหายไป สิ่งนั้นได้แก่ เพลง หลายเพลงเคลื่อนย้ายจากคนสู่คน จากรุ่นสู่รุ่น หลายเพลงเปลี่ยนแปลงแต่เนื้อหาเดิมยังคงอยู่ หลายเพลงสูญหายไปตามคน แต่เพลงนั้นจะหายไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่ามีใครได้ฟัง และความไพเราะยังคงอยู่หรือเปล่า
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังเพลงที่ไม่ได้อยู่ในยุคในสมัยเดียวกัน หลายบทเพลงมีความไพเราะแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม(ไม่เชื่อถามคนยุคเดียวกับเพลงดูสิ อิอิ)
ลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์ – ศิลปินที่บันทึกเสียงในช่วง ปี 2521 ชุดที่โด่งดังน่าจะเป็นชุด “กุหลาบเวียงพิงค์” ในชุดนี้หลายเพลงอาจจะไม่ได้เป็นเพลงบันทึกเสียงใหม่ แต่เป็นการหยิบหลายเพลงที่ “วงจันทร์ ไพโรจน์” เคยบันทึกเสียงไว้ เมื่อราว ปี 2500 อย่างเช่น เพลง กุหลาบเวียงพิงค์ สายน้ำไม่ไหลกลับ คนรักจาก สาวบ้านแพน อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็น วงจันทร์ ไพโรจน์ หรือแม้แต่ ลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์ ไม่เป็นที่กล่าวถึงเท่าไหร่นักเมื่อกล่าวถึงเพลงในยุคแรก อาจจะเป็นเพราะมีศิลปินที่มีชื่อเสียงมากกว่า อย่างเช่น ไพบูลย์ บุตรขัน ชะลอ ไตรตรองสอน พยงค์ มุกดา มงคล อมาตยกุล เบ็ญจมินทร์ (ตุ้มทอง โชคชนะ) สุรพล สมบัติเจริญ และอีกหลาย ๆ ท่าน นักร้องหญิงก็เป็น ผ่องศรี วรนุช ศรีสอางค์ ตรีเนตร
รูปจาก http://www.maemaiplengthai.com
สำหรับผมเองได้ฟังเพลงของลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์ ราว ๆ ปี 2542 ด้วยเทปคลาสเซ็ตที่ปัจจุบันนี้เสียหายจนไม่สามารถเยียวยาได้ และผมคงไม่ได้ฟังอีก ถ้าไม่ใช่เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้รู้ว่า ยังคงมีเหลืออยู่ให้คนรุ่นหลัง ๆ ได้ฟังกัน
ไม่ได้โชคร้ายเท่าไหร่นัก ปัจจุบันเรายังคงมีร้าน “แม่ไม้เพลงไทย” ที่ยังอนุรักษ์เพลงเก่าไว้ให้เราฟัง ถึง 4 ชุดด้วยกัน (เว็บไซต์) จะสังเกตสักหน่อยจะพบว่า ก็เป็นคนรุ่นเก่า ๆ ที่แวะเวียนเข้าร้าน
ถ้าเราเผยแพร่โดยไม่สนใจธุรกิจ คงทำให้ธุรกิจอยู่ไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้สนใจล่ะ??
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.maemaiplengthai.com/webboard/viewthread.php?tid=773&extra=page%3D1
สวัสดีครับ