ความหมายและความสำคัญ
การทำบุญกฐิน เป็นการถวายผ้าแต่สงฆ์ซึ่งจำพรรษาแล้ว
ชาวอีสานทำบุญกฐินตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 11
ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองเช่นเดียวกับทางภาคกลางการทอดกฐินมีมาแต่โบราณกาล
เพราะมีพุทธบัญญัติให้พระภิกษุแสวงหาผ้า
และรับกฐินได้ตามกำหนดเวลาดังกล่าวบุญกฐินทางภาคอีสานมีวิธีการกับการทอด
กฐินในภาคกลางแทบทุกประการ คือ มีกฐินราษฏร์ ได้แก่
กฐินที่ประชาชนร่วมกันจัดให้มีขึ้น และกฐินหลวง ได้แก่
กฐินที่ทางราชการจัดขึ้น
แม้จะเป็นกฐินที่ข้าราชการในระดับจังหวัดหรือระดับอำเภอร่วมกันจัดขึ้น
ชาวบ้านมักเรียกว่า กฐินหลวงเช่น กัน นอกนี้
จุลกฐินซึ่งสาวอีสานเรียกว่า กฐินแล่น
มูลเหตุที่มีการทำบุญกฐิน
มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยพุทธกาลมีพระภิกษุชาวเมืองปาฐาจำนวน 30 รูป
พากันเดินทางจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จประทับอยู่ที่
พระเชตวันมหาวิหาร
แต่เนื่องจากการเดินทางเป็นวันที่จวนใกล้กำหนดเข้าพรรษาทั้งหนทางระยะไกลและ
ลำบาก พระภิกษุเหล่านั้นจึงไม่สามารถไปให้ถึงพระเชตวันมหาวิหารได้
ก็พอดีกำหนดเข้าพรรษาเสียก่อน พระภิกษุทั้ง 30 รูป
จึงต้องหยุดจำพรรษาอยู่ที่เมืองสาเกตออกพรรษาแล้วจึงพากันรีบไปเฝ้าพระ
พุทธเจ้าแต่โดยเหตุที่หนทางไกลดังกล่าว
และพอดีฝนตกจึงทำให้ผ้าจีวรของพระภิกษุเหล่านั้นเปียกน้ำและเปื้อนโคลนตมมาก
พอไปถึงพระเชตวันมหาวิหาร ก็พากันตรงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทันที
พระพุทธเจ้าทรงเห็นพระภิกษุที่มาเฝ้านุ่งห่มจีวรเปื้อนเปรอะ
และจีวรที่จะใช้ผลัดเปลี่ยนก็ไม่มี
เมื่อพระองค์ทรงเห็นความลำบากของพระภิกษุเช่นนั้น
จึงมีพุทธบัญญัติให้พระภิกษุแสวงหาผ้าและรับผ้ากฐินได้มีกำหนด 1 เดือน
นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด ถึงวันเพ็ญ
เดือนสิบสองดังกล่าวข้างต้น จึงมีประเพณีทอดกฐินกันต่อ ๆ มา
วิธีดำเนินการ ก่อนถึงวันทอดกฐิน
ชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาจะทอดกฐิน
จะไปเลือกหาวัดที่จะทอดเมื่อหาได้แล้วก็ไปจองไว้ล่วงหน้า
เพื่อให้ทางวัดรู้ตัว และมีเวลาเตรียมรับรองในวันทอด
ทั้งจะไม่เป็นการทอดกฐินซ้ำกันในวัดนั้นด้วย
วัดที่จองส่วนมากเป็นวัดที่อยู่ในหมู่บ้านอื่นแต่บางทีก็เป็นวัดที่ตั้งอยู่
ในหมู่บ้านที่ชาวบ้านจะทำบุญก็มีเมื่อถึงวันทอดกฐินชาวบ้านหรือผู้จะทำบุญ
กฐิน ตระเตรียมองค์กฐิน
ที่จำเป็นต้องมีก็ได้แก่ผ้าไตรจีวรหรือผ้าสามผืน คือ สบง จีวร
และสังฆาฏิ หรืออัฏฐบริขาร ซึ่งได้แก่ ผ้าจีวร ผ้าสังฆาฏิผ้าสบง
สายรัดประคด มีดโกนหรือมีดตัดเล็บ บาตร เข็มเย็บผ้า และธมกรก
(เครื่องใช้กรองน้ำให้สะอาด) นอกนี้อาจมีบริขารอื่น
ๆและเครื่องไทยทานสำหรับถวายพระ
ส่วนมากมีการบอกบุญให้ญาติมิตรและผู้รู้จักคุ้นเคยให้มาร่วมทำบุญด้วยก่อนจะ
นำองค์กฐินไปทอดมักมีการคบงันด้วยมหรสพต่าง ๆ แล้วแต่เจ้าภาพจะจัด
พอวันรุ่งขึ้นก็เคลื่อนกระบวนออกเดินทางไปสู่วัดที่จะทอด
กะเวลาให้ถึงวัดทันเลี้ยงเพลพระ
ก่อนเลี้ยงเพลพระหรือเสร็จเลี้ยงเพลพระแล้วจะได้ทอดกฐิน
ถ้าเป็นวัดอยู่ระยะทางไกล
ก็ต้องเคลื่อนกระบวนเดินทางไปแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันเวลา
บางแห่งต้องเดินทางไปล่วงหน้าโดยนอนค้างคืนที่หมู่บ้าน
หรือวัดที่จะทอดกฐินหนึ่งคืนขณะที่จะทำการทอดมักมีการแห่แหนกันคึกคืนสนุก
สนานถ้าเป็นทางบกก็ไปโดยเดินเท้า รถยนต์ และล้อเกวียน เป็นต้น
กระบวนแห่จะมีกลอง ฆ้อง และเครื่องดนตรีอื่น ๆ เช่น แคน แตรวง ฯลฯ
และมีการร้องรำทำเพลงไปด้วย ขณะองค์กฐินผ่านไป
ชาวบ้านจะมาคอยต้อนรับและนำปัจจัยมาร่วมบริจาคทาน
บางทีก็ร่วมกระบวนแห่ไปด้วย
เมื่อถึงวัดหากมีเวลาอาจทอดกฐินทันทีหรือไม่ก็จะเลี้ยงเพลพรเณรและเลี้ยง
บรรดาผู้มาแห่ แล้วจึงอดกฐิน โดยชาวบ้านเจ้าของวัดเป็นเจ้าภาพ
ได้เวลาทอดกฐินพระสงฆ์ลงโบสถ์ ผู้ไปร่วมงานบุญชุมนุมกันแล้วจัดขบวนแห่
มีคนเดินตามกันเป็นแถวยาวยืดเสียงแห่ครื้นไปทั่วบริเวณวัดทำประทักษิณเวียน
รอบโบสถ์สามรอบ
แล้วจึงเข้าโบสถ์ทำพิธีถวายผ้ากฐินและบริขารเป็นเสร็จพิธี
สำหรับการทอดกฐินที่เจ้าภาพอยู่ห่างไกล
ซึ่งจำเป็นต้องมาพัก ณ หมู่บ้านหรือวัดที่จะทอดกฐิน
หรือเจ้าภาพที่จะทอดกฐินอยู่ในหมู่บ้านนั้นเอง
กำหนดการทอดกฐินดังกล่าวบางทีร่นมาตอนเช้า คือ
เมื่อถวายอาหารบิณฑบาตตอนเช้าเสร็จ
ก็จะทำพิธีแห่และนำกฐินไปถวายเลยก็ได้ที่กล่าวมานี้
เป็นการทอดกฐินโดยทั่วไป ส่วนจุลกฐินหรือกฐินแล่นนั้น
นอกจากมีการจัดบริขารต่าง ๆ และทำพิธีทอดดังกล่าวแล้ว
การทำผ้าไตรจีวรเพื่อเป็นกฐิน
จะต้องเริ่มแต่การนำปุยฝ้ายมาหีบ มาปั่น มากรอเป็นเส้นด้าย
แล้วทอเป็นผืนผ้าและตัดเย็บตลอดการย้อมสีเป็นไตรจีวรให้เสร็จภายใน 24
ชั่วโมง คือ
ให้ทันใช้เป็นผ้ากฐินได้ในวันรุ่งขึ้นกฐินแล่นนี้ไม่ค่อยนิยมทำกันนักเนื่อง
จากเป็นการลำบากมากเจ้าภาพจะต้องมีฐานะดีพอสมควร
มีญาติพี่น้องคอยให้ความร่วมมือและมีอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อม
เพราะต้องใช้จ่ายเงินเป็นค่าเลี้ยงดูต้องหาเครื่องมือหลายอย่าง
ต้องมีญาติพี่น้องคอยให้ความร่วมมือ และมีอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อม
เพราะจะต้องใช้จ่ายเงินเป็นค่าเลี้ยงดูต้องหาเครื่องมือหลายอย่าง
และต้องมีญาติพี่น้องมาช่วยกันหลายคน จึงจะทำได้จุลกฐินหรือกฐินแล่น
มักทำกันเมื่อจวนหมดเขตบุญกฐิน
และถือว่าการทอดกฐินอย่างนี้ได้อานิสงส์แรงกว่าทอดกฐินธรรมดาเป็นสิบเท่า
การทอดกฐินของชาวภาคอีสาน
สิ่งที่เห็นแปลกไปกว่าภาคกลาง คือ การแปลงทางกฐิน
ได้แก่การปรับตกแต่งถนนหนทางที่ขบวนกฐินจะผ่านไปให้สะอาดเรียบร้อยสวยงาม
เพื่อให้ขบวนแห่กฐินเดินทางไปด้วยความสะดวก
ชาวบ้านเมื่อรู้ว่าจะมีกฐินมาทอดหมู่บ้านของตนก็จะพากันไปช่วยกันถากถางหน
ทางที่องค์กฐินจะผ่านแม้ทางระหว่าง
หมู่บ้านหนึ่งกับอีกหมู่บ้านหนึ่งก็พากันไปถางตามหนทาง
และพยายามซ่อมแซมถนนหนทางให้เรียบร้อยเพราะถือว่าการทำทางกฐินผ่านนี้ได้
กุศลแรงมาก ชาวบ้านจึงนิยมสละแรงงาน และทรัพย์ช่วยกันจัดทำ
โดยเหตุนี้เมื่อหมู่บ้านใดทางไปมายังไม่ค่อยสะดวก
ผู้มีจิตศรัทธาบางท่าน จึงมักนำกฐินไปทอดเพื่อให้ได้กุศลสองอย่าง คือ
ได้ทั้งบุญในการทอดกฐินและได้กุศลในการทำให้ทางไปมาสะดวกด้วย
เมื่อเตรียมทางเสร็จในวันขบวนกฐินผ่าน ชาวบ้านจะปลูกต้นกล้วย
ต้นอ้อยและไม้ดอกไม้ประดับต่าง ๆ
ตามสองข้างทางในละแวกหมู่บ้านติดต่อกันไปจนถึงเขตทางเข้าวัด
และชาวบ้านบางแห่งจะเอาผ้าปูบนเส้นทางที่ขบวนกฐินจะผ่านไปด้วยที่กล่าวมานี้
จะเห็นได้ว่า บุญกฐินเป็นงานบุญสำคัญอย่างหนึ่ง
เพราะนอกจากเป็นการถวายจีวรและบริขารต่าง ๆแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว
ยังจะได้ปัจจัยบูรณะบำรุงวัดและได้ประโยชน์อย่างอื่น
รวมทั้งเป็นการก่อให้เกิดความสามัคคีธรรมในหมู่ประชาชนให้เกิดขึ้นด้วย
จึงควรสนับสนุนให้คงมีอยู่ตลอดไป
คำถวายผ้ากฐิน
(แบบธรรมยุต)
อิมัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง สังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโน
ภันเต สังโฆ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสังปะฏิคคัณหาตุ ปะฏิคคะเหตวา
จะ อิมนา ทุสเสนะ กฐินะ อัตถะระตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ
สุขายะ
คำแปล
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ขอน้อมถวายผ้าจีวรเพื่อกฐินกับทั้งบริวารเหล่านี้อันประกอบด้วยธรรม
อันได้มาโดยชอบธรรม แก่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงให้โอกาสรับ
ผ้าจีวรเพื่อกฐินกับทั้งบริวารนี้ครั้นรับแล้ว ขอจงปราบกฐิน
ด้วยผ้าจีวรนี้
เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนานเทอญ
ิBy http://www.geocities.com/thatmahachai/heet/00.htm
ไม่มีความเห็น