จากการปรับปรุงระเบียบข้าราชการพลเรือนใหม่และประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา มีผลทำให้ข้าราชการไทยต้องมีการพัฒนาตนเองให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลง โยเฉพาะในเรื่องของการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน จากเดินที่พิจารณาจากผลการปฏิบัติงานเปรียบเทียบเป้าหมายมาใช้การพิจารณาที่แบ่งออกเป้น 2 ส่วนคือ ส่วนของผลการปฏิบัติงาน (PA) คิดค่าน้ำหนักร้อยละ 70 นำมารวมกับส่วนของพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่เรียกว่าสมรรถนะ ร้อยละ 30 ทั้งสองส่วนจะถูกนำมารวมกันเพื่อนำไปสู่การเทียบเกณฑ์พิจารณาที่ กพ. กำหนดไว้ ในส่วนของผลการปฏิบัติงาน (PA) ไม่ค่อยเป็นที่น่าหนักใจเท่าไหร่เพราะเป็นงานที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ในส่วนของพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่เรียกว่าสมรรถนะนั้นนับว่าเป็นสิ่งใหม่ที่แต่ละองค์กรต้องจัดหาเพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในแต่ละสายงานในองค์กรของตนเอง เนื่องจากในแต่ละองค์กรมีแนวนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และบริบทของวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน ไม่สามารถนำเอาโมเดลสมรรถนะที่เป็นรูปแบบกลางมาใช้ได้ทั้งหมด เนื่องจากในส่วนของโมเดลสมรรถนะจะประกอบด้วย สมรรถนะหลัก และสมรรถนะสายงาน ดังนี้คือ สมรรถนะหลักตาม กพ. กำหนด (ทุกคนต้องมีรวม 5 สมรรถนะ) สมรรถนะองค์กร สมรรถนะกลุ่ม/สายงาน สมรรถนะเฉพาะสายงาน (Specific Competency) ความรู้ 2 ด้าน และทักษะ 4 ด้าน ในแต่ละสมรรถนะ ความรู้และทักษะต้องมีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำจำแนกตามประเภทสายงานในแต่ละระดับ เช่น สายงานนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สายงานนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สายงานนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ เป็นต้น จากที่กล่าวมาจะพบว่าโมเดลสมรรถนะของแต่ละองค์กรจะมีทั้งส่วนที่เหมือนกันและส่วนที่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถนำโมเดลสมรรถนะกลางมาใช้ได้กับทุกองค์กร ในรายละเอียดขั้นตอนการจัดทำสมรรถนะจะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
ผมทำงานเป็นทันตาภิบาลทำงานอยู่ต่างจังหวัดพอดีมีโอกาสได้เห็นการกำหนดมาตรฐานสมรรถนะจำแนกตามสายงานเห็นว่าสายงานเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขชำนาญงานที่ผมดำรงอยู่ทุกวันนี้มีการกำหนดมาตรฐานสูงกว่าสายอื่นๆหน่วยงานข้างเคียงกำหนดสูงพอๆกับระดับนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ ซึ่งในความเป็นจริงพวกเราก็ไม่ได้เก่งอะไรกันขนาดนั้นและผลการประเมินมันจะไม่ผ่านกัน ขนาดตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุขอาวุโสซึ่งเป็นแท่งที่สูงกว่ายังมีการประเมินสมรถนะตำกว่า ควรจะมีการทบทวนกันใหม่และแก้ไขให้เหมือนตำแหน่งอื่นๆในระดับเดียวกัน เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขหรือทันตาภิบาลระดับชำนาญงานก็ ซี 6 เดิมการประเมินบางตัวสูงกว่าทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ( แท่งวิชาการ ซี 8 เดิม ) ขอความเป็นธรรมครับ เราแท่งปฏิบัติการระดับชำนาญงานแท่งอาวุโสยังไม่เปิดกรอบให้ใรเลย จะเอาอะไรกันนักหนา เงินพิเศษต่างๆก็ไม่ได้ได้รับเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวครับ
การประเมินมาตรฐานสูงแบบนี้เพืออะไร ควรไปกำหนดในแท่งนักวิชาการเพราะเขาเป็นคนเก่ง
ขอบคุณครับ ก็คงจะเคลื่อนไหวกันต่อไปครับ
ที่เขากำหนดสมรรถนะไว้สูงตามที่บอก คิดว่าน่าจะเป็นการกำหนดเกณฑ์เพื่อการพัฒนาตนเอง ไม่ใช่การนำมาเป็นเกณฑ์การประเมินงินเดือนนะ
ไม่ใช่การนำมาเป็นเกณฑ์การประเมินงินเดือนที่ว่าหนะ แล้ว 30% นั่นคืออะไรล่ะ