yatata
ธัญพิชชา หญิง ฤทธิ์อุยานนท์

เกมภาษาอังกฤษที่สามารถนำเอาใช้สอนในห้องเรียน1


เกมภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับครูไทยสามารถนำเอาใช้สอนในห้องเรียน 1

เกมภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับครูไทยสามารถนำเอาใช้สอนในห้องเรียน 1

Airplane competition: เริ่มด้วยการให้นักเรียนทำเครื่องบินกระดาษขึ้นมา ให้นักเรียนยืนเรียงกันเป็นแถวและลองร่อนเครื่องบินนั้น จากนั้น กำหนดคะแนนให้กับของแต่ละอย่างในห้อง เช่น โต๊ะมี 5 คะแนน ประตูมี 10 คะแนน ถังขยะมี 20 คะแนน ถามคำถามนักเรียน หากนักเรียนตอบถูกจะได้ร่อนเครื่องบินหนึ่งครั้ง โดยพยายามร่อนให้เครื่องบินกระดาษไปลงตรงเป้าหมายเพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด เกมนี้เหมาะจะเล่นเป็นทีม

Art Gallery: เกมนี้เหมาะสำหรับการทบทวนคำศัพท์ เริ่มด้วยการลากเส้นสี่เหลี่ยมบนกระดานให้ใหญ่พอที่นักเรียนแต่ละคนจะสามารถวาดรูปลงไปได้ ให้นักเรียนเขียนชื่อของตัวเองเหนือกรอบสี่เหลี่ยมนั้น จากนั้นครูพูดคำออกมาและให้นักเรียนวาดรูปตามคำนั้น (ควรเป็นคำนามง่ายๆ เช่น "dog, bookcase, train" หรือพูดออกมาในรูปโครงสร้างของกริยาก็ได้ เช่น "draw a man running, eating cake, sleeping" หรือคำคุณศัพท์เช่น "draw a big elephant, an angry lion, an expensive diamond ring") พอนักเรียนวาดเสร็จ ครูก็ให้คะแนนกับนักเรียนแต่ละคน จากนั้นเริ่มรูปใหม่ต่อไป นักเรียนคนที่ได้คะแนนสูงสุดเมื่อเกมสิ้นสุดลงคือผู้ชนะ

Backs to the Board Game: เกมนี้เหมาะกับนักเรียนที่เรียนชั้นสูง แบ่งนักเรียนออกเป็นสองทีม ให้แต่ละทีมส่งตัวแทนมาหน้าชั้นหนึ่งคน ยืนหันหลังให้กระดานดำ ครูเขียนคำหรือวาดรูปบนกระดานดำ เช่น "hamburger" สมาชิกในทีมต้องพยายามอธิบายคำให้เพื่อนทายให้ได้ เช่น You can buy it in McDonalds, it's got cheese and ketchup in it. นักเรียนทีมไหนตอบได้ก่อนทีมนั้นได้คะแนน

Basketball: เป็นเกมให้นักเรียนโยนบอลลงตะกร้า จะเป็นถังขยะ กล่อง หรืออะไรก็ได้ เริ่มต้นด้วยการถามคำถามนักเรียนคนที่ 1 นักเรียนที่ตอบถูกจะได้โยนบอลลงตะกร้า หากโยนลงนักเรียนได้ 2 คะแนน แต่หากบอลโดนตะกร้าแต่ไม่ลงนักเรียนได้ 1 คะแนน คนที่ได้คะแนนสูงที่สุดคือผู้ชนะ เกมนี้จะเล่นเดี่ยวหรือเล่นเป็นทีมก็ได้

Bingo: จะใช้เลขประจำตัวนักเรียน ชื่อนักเรียน รูปภาพ หรือคำก็ได้ ผู้ชนะคือคนที่บิงโกเส้นตรงได้ก่อน หรือลากเส้นบิงโกได้เต็มแผ่นก่อน

Blindfold Course: สร้างเครื่องกีดขวางขึ้นในห้องเรียน ใช้โต๊ะนักเรียนหรือเก้าอี้นักเรียนก็ได้ ให้นักเรียนคาดผ้าปิดตาและช่วยบอกทางให้นักเรียนเดินเลี่ยงเครื่องกีดขวาง เช่น walk forward 2 steps, turn left, take on small step เป็นต้น เกมนี้เหมาะที่จะเล่นเป็นคู่

Blindfold Guess: ให้นักเรียนคาดผ้าปิดตาแล้วให้นักเรียนจับสิ่งของที่ครูเตรียมมา และทายว่าของชิ้นนั้นคืออะไร สิ่งของให้ทายที่ดีคือตุ๊กตาสัตว์เพราะน่าตื่นเต้นดี (ผมใช้ไดโนเสาร์มาเพิ่มบรรยากาศสนุกสนานในการเล่นเกมนี้เสมอ)  

Blindfold Questions: ให้นักเรียนยืนเป็นรูปวงกลม มีหนึ่งคนคาดผ้าปิดตายืนตรงกลางวงกลมนั้น ให้นักเรียนคนที่ปิดตาหมุนรอบตัวสองสามรอบ จากนั้นให้ชี้ไปที่นักเรียนคนที่อยู่ข้างหน้าและถามคำถาม เช่น "How old are you?",  "What's your favorite food? เมื่อได้รับคำตอบแล้ว นักเรียนคนที่คาดผ้าปิดตาต้องทายชื่อของเพื่อนนักเรียนที่พูดด้วย

Board Scramble: ครูเขียนพยัญชนะภาษาอังกฤษทั้งหมดคละกันลงบนกระดานดำ แต่ให้อยู่ในระดับต่ำพอที่นักเรียนจะเอื้อมถึง แบ่งนักเรียนออกเป็นสองทีมแล้วครูพูดพยัญชนะออกมาดังๆ หนึ่งตัว ใครหาพยัญชนะตัวนั้นเจอและวงกลมก่อนจะได้คะแนน ครูสามารถทำให้เกมยากขึ้นด้วยการเขียนตัวอักษรพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กคละกัน และจะยิ่งยากขึ้นไปอีกหากแบ่งนักเรียนออกเป็นสี่ทีม เด็กๆ จะชอบเกมนี้มาก และสามารถเล่นได้ทั้งกับตัวอักษรและตัวเลข (ซูซี่แนะนำเกมนี้มา)

Buzz: เป็นเกมนับเลข ให้นักเรียนนั่งเป็นวงกลม ส่งบอลผ่านไปยังเพื่อนคนที่นั่งถัดไปพร้อมกับนับ 1, 2, 3... เมื่อนับถึง 7 นักเรียนทั้งหมดต้องพูดขึ้นมาว่า buzz (บั หมายถึง เสียงผึ้งร้องหึ่งหรือเสียงเครื่องบิน แล้วนับต่อ ทุกตัวเลขที่มี 7 อยู่ต้องทำเสียงนี้ขึ้นมา (7, 17, 27, 37, ...) และทุกตัวเลขที่เป็นผลคูณของ 7 ต้องทำเสียง buzz ด้วยเช่นกัน (14, 21, 28, 35,...)

Can You Actions: เกมนี้ใช้สอนการใช้"Can you...?" "Yes, I can." "No, I can't." กริยาหรือท่าทางต่อไปนี้จะทำให้เกมสนุก wiggle, dance, run quickly, hop, skip, do a star jump, do a handstand, touch your toes, cross your eyes, snap your fingers, whistle, sing  เช่น ถามนักเรียนว่า "Can you cross your eyes?" (ทำตาเขได้ไหม) หากนักเรียนตอบว่า "Yes, I can." ครูก็บอกว่า "Ok, go!" (งั้นทำให้ดูหน่อย/ปฏิบัติ) และนักเรียนก็แสดงกิริยาหรือท่าทางนั้นให้ดู หากนักเรียนตอบว่า "No, I can't" ให้ครูพูดว่า "Too bad.  Ok, can you wiggle?" (แย่จัง ถ้าอย่างนั้นหนูบิดตัวไปมาได้ไหม)   

Category Tag: เลือกหัวข้อที่จะเล่นก่อน เช่น อาหาร อากาศ การคมนาคม ฯลฯ ให้นักเรียนวิ่งไปรอบๆ ห้องและครูวิ่งไล่ตาม หากนักเรียนคนไหนถูกจับได้ต้องพูดชื่อในหัวข้อนั้นมาหนึ่งชื่อ เช่น หัวข้อ food: cheese, fish, bread, etc กำหนดเวลาให้นักเรียนว่าต้องพูดภายใน 5 วินาที 10 วินาที ฯลฯ หากนักเรียนไม่สามารถพูดชื่อออกมาได้ทันเวลาหรือพูดชื่อซ้ำกับที่คนอื่นพูดไปแล้ว นักเรียนคนนั้นต้องนั่งลงรอเล่นรอบต่อไป

Charades: ให้นักเรียนออกมายืนหน้าชั้นหนึ่งคน ครูกระซิบคำหรือยกป้ายภาพให้นักเรียนดู นักเรียนคนนั้นแสดงท่าทางตามคำที่ได้ยินหรือภาพที่เห็นให้เพื่อนๆ ดู นักเรียนคนไหนทายถูกว่าท่าทางนั้นคืออะไรจะเป็นคนต่อไปที่ได้ออกมาหน้าชั้น เกมนี้เหมาะกับกิริยาที่เป็นท่าทาง ครูอาจแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม นักเรียนกลุ่มไหนทายได้ก่อนกลุ่มนั้นก็ได้คะแนน

Colors in the Air: เกมนี้เหมาะกับนักเรียนประถมต้น ครูแจกกระดาษสีต่างๆ ให้นักเรียนคนละสองแผ่น ครูพูดสีออกมา เช่น "Blue" นักเรียนที่ถือกระดาษสีนั้นอยู่ก็ชูกระดาษขึ้นสูงๆ

Color Circles: เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ครูเอากระดาษขนาด A3 มาวาดรูปวงกลมหนึ่งวงในแต่ละแผ่น ติดวงกลมไว้กับผนังแต่ละด้านในห้องเรียน เล่นเกมให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนด้วยการที่ครูพูดว่า "Blue" แล้วหยิบดินสอสีฟ้าไประบายลงในมุมเล็กๆ ของวงกลม ทำอย่างนี้กับทุกสีที่ต้องการจะสอน จากนั้นให้นักเรียนเป็นคนเล่น โดยครูบอกว่า "Blue" นักเรียนก็ควรจะหยิบดินสอให้ถูกสีและเดินไประบายลงในวงกลม ให้ระบายนิดเดียวแล้วเรียกนักเรียนกลับ เปลี่ยนให้คนอื่นไประบายสีบ้าง

Days of the Week March: ดูในเดือนมีนาคม

Dog & Cat Chase: ให้นักเรียนนั่งเป็นรูปวงกลม ครูเดินรอบวงนอกของนักเรียน แตะศีรษะนักเรียนแต่ละคนไปเรื่อยๆ พร้อมกับพูดว่า "dog" จากนั้น แตะศีรษะนักเรียนคนหนึ่งแล้วพูดว่า "cat" นักเรียนคนนั้น วิ่งไล่ครูไปรอบวงกลม ครูต้องพยายามวิ่งไปนั่งในที่ว่างนั้นก่อนจะถูกนักเรียนจับได้ หากนักเรียนแตะตัวครูได้ ครูต้องเดินแตะศีรษะนักเรียนไปรอบๆ อีก หากรอบนี้นักเรียนจับไม่ได้ นักเรียนคนนั้นจะต้องเป็นฝ่ายเดินแตะศีรษะเพื่อนๆ แทน คำที่ใช้สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามที่ครูต้องการสอนนักเรียน

Exercises: เกมนี้เหมาะสำหรับเด็กนักเรียนที่ซนและกระตือรือร้นตลอดเวลา เหมาะกับการฝึกให้นักเรียนเข้าใจคำสั่งและตัวเลขด้วย ให้นักเรียนยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดานและออกคำสั่ง เช่น "Jump 10 times", "Turn around 4 times" เป็นต้น หรืออาจจะใช้กริยาที่ออกแรงมากขึ้น เช่น run (ไปยังจุดๆ หนึ่ง), hop, hands up & down, touch your (body part), stand up & sit down and star jump. 

Fish: ก่อนเริ่มเล่นเกมครูต้องให้นักเรียนจับคู่กันวาดรูปปลาคนละตัวและตัดออกมา ขณะที่นักเรียนวาดและตัดรูปอยู่นี้ครูเอาแถบกระดาษกาวมาติดยาวบนพื้นสองแถว ให้ห่างกันสองสามเมตร ให้นักเรียนแต่ละคู่ยืนในแนวเดียวกันหลังเส้นแถบกระดาษกาวฝั่งหนึ่ง ครูถามคำถามกับนักเรียนคนแรก หากตอบถูกนักเรียนจะได้เป่าปลา กระดาษหนึ่งครั้ง จากนั้นครูถามคำถามกับนักเรียนอีกคน หากตอบถูกนักเรียนจะได้เป่าปลา กระดาษหนึ่งครั้ง ใครที่เป่าปลาไปถึงเส้นอีกฝั่งหนึ่งก่อนคนนั้นชนะ

Follow the leader: ให้นักเรียนยืนเข้าแถวข้างหลังครูและเดินตามครูไปรอบห้อง ครูทำท่าทางและพูดคำของท่านั้นออกมาดังๆ นักเรียนทำท่าและพูดตาม ท่าทางที่เหมาะจะนำมาเล่นเกมคือ wave, hello, goodbye, it's cold/hot, stop, go, run, hop, skip, crawl, walk backwards, jump, sit down, stand up

Give Me Game: ครูสามารถใช้สิ่งของ หรือีแฟลชการ์ด (แผ่นรูปภาพหรือคำถามที่มีชื่อภาพหรือหมายเลขอยู่ด้านหลัง) เกมนี้เหมาะจะเล่นกับผลไม้พลาสติก เก็บผลไม้ไว้ในกล่องและหยิบออกมาทีละอย่าง จากนั้นโยนผลไม้ทั้งหมดไปทั่วห้อง (การโยนผลไม้พลาสติกไปทั่วห้องและปล่อยให้นักเรียนไล่ตะครุบผลไม้เหล่านั้นทั่วห้องเป็นการสร้างบรรยากาศสนุกสนานอย่างหนึ่ง) พอนักเรียนเก็บผลไม้ทั้งหมดได้แล้วให้ครูพูดว่า "Give me an apple" นักเรียนคนที่เก็บแอ็ปเปิ้ลได้เดินไปหาครู ยื่นผลไม้ให้ครูพร้อมกับพูดว่า "Here you are" อย่าให้นักเรียนโยนผลไม้กลับมาเพราะผลไม้อาจลอยไปทางอื่นได้ทำให้เสียเวลาไล่จับอีก

Hangman: เป็นเกมเก่าแก่ที่นิยมเล่นกันมานาน เป็นเกมที่เหมาะกับการทบทวนคำศัพท์ที่เรียนมาแล้ว

I spy: ครูพูดว่า "I spy with my little eye something that begins with B" (ฉันมองเห็นอะไรบางอย่างขึ้นต้นด้วยอักษร B) นักเรียนพยายามทายว่าสิ่งนั้นคืออะไร เช่น "book" คำศัพท์เกี่ยวกับสีเหมาะที่จะเล่นกับนักเรียนเล็กๆ เช่น "I spy with my little eye something that is red"

Juice: นำน้ำผลไม้ขวดเล็กๆ มาที่ห้องเรียน เมื่อสอนไปได้สักพักครูก็เอาน้ำผลไม้นั้นขึ้นมาจิบ ชั่วขณะนี้นักเรียนตัวเล็กๆ จะหันไปพูดคุยกันเพราะอยากดื่มน้ำผลไม้บ้าง ให้ครูใช้โอกาสนี้สอนเด็กรู้จักประโยค "Can I have some juice, please?" ครูพูดประโยคนี้กับนักเรียนก่อนและนักเรียนพูดตาม หากนักเรียนพูดถูกต้องก็ให้นักเรียนได้จิบน้ำผลไม้นิดหน่อย ครูต้องนำน้ำผลไม้ไปที่ชั้นเรียนด้วยทุกครั้ง หลังจากนั้นสักพักนักเรียนจะพูดประโยคขอดื่มน้ำผลไม้นี้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ (หากไม่อยากให้นักเรียนดื่มจากปากขวดเดียวกัน ครูก็ควรนำแก้วพลาสติกเล็กๆ ไปไว้แบ่งด้วย)

Knock-Knock: เกมนี้ควรเล่นก่อนเริ่มบทเรียน สอนให้นักเรียนรู้จักการเคาะประตูก่อนเข้ามาในห้องเรียน ขั้นตอนต่อไป ครูพูด  "Who's there?" หลังจากที่นักเรียนเคาะประตู นักเรียนจะตอบว่า "It's (Kai)" แล้วครูพูดว่า "Come in (Kai)" หรืออาจจะเลือกใช้อีกวิธีคือ พอนักเรียนเคาะประตูแล้วครูทายว่านักเรียนคนนั้นเป็นใครด้วยการพูดว่า "Is that (Kai)?" หากนักเรียนตอบว่า no ครูก็ต้องทายต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถูก ทำให้เกมสนุกยิ่งขึ้นด้วยการให้นักเรียนแต่ละคนประดิษฐ์เสียงหรือจังหวะเคาะประตูของตัวเอง

Label It: เกมนี้เหมาะกับนักเรียนใหม่ทุกระดับอายุที่ต้องได้รับการฝึกฝนหรือสอนคำศัพท์ง่ายๆ หากนักเรียนสามารถแยกแยะเสียงของพยัญชนะแต่ละตัวได้ นักเรียนก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แล้ว ใช้วิธีเขียนชื่อของสิ่งของทุกอย่างในห้องเรียนลงบนกระดาษและติดกระดาษไว้ที่ของสิ่งนั้น เพื่อทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับชื่อเหล่านั้น จากนั้น ให้นักเรียนพูดตามขณะเก็บสิ่งของเหล่านั้นขึ้นมาแต่ละชิ้น วันต่อมาดึงป้ายชื่อออก และให้นักเรียนพูดชื่อสิ่งของเหล่านั้นทีละอย่างและนำป้ายไปแปะไว้ให้ถูกด้วย วันที่สาม ให้นักเรียนเเอาป้ายชื่อไปแปะที่ของชิ้นไหนก็ได้ที่นักเรียนต้องการ ทำกิจกรรมนี้ซ้ำสองสามวัน พอนักเรียนสามารถแปะป้ายลงบนสิ่งของได้ถูกต้องหมดโดยที่ครูไม่ต้องคอยตรวจแล้ว   ครูสามารถใช้กิจกรรมนี้กับคำศัพท์เกี่ยวกับคำนามที่สามารถแปะรูปลงไปได้ เช่น types of food, body parts, parts of a room in a house, animals เป็นต้น

Last Letter, First Letter: (เป็นเกมยอดฮิตของญี่ปุ่นเรียกว่า ชิริ โทริ) ให้นักเรียนนั่งเป็นวงกลมร่วมกับครู จากนั้นครูเริ่มพูดคำออกมา และนักเรียนทางขวามือของครูต้องพูดคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวสุดท้ายของคำที่ครูพูด เช่น ครูพูดว่า bus นักเรียนพูด steak นักเรียนคนถัดไปพูด  key --- yellow --- etc. อย่างนี้ไปเรื่อยๆ เล่นไปจนกว่าจะมีคนต่อไม่ได้หรือพูดคำผิด

Line True or False: นำแถบกระดาษกาวมาติดไว้บนพื้นเป็นเส้นยาว ให้ฝั่งหนึ่งเป็น "True" อีกฝั่งหนึ่งเป็น "False" ชูสิ่งของหรือแฟลชการ์ด (แผ่นรูปภาพหรือคำถามที่มีชื่อภาพหรือหมายเลขอยู่ด้านหลัง) ขึ้นมาพร้อมกับพูดชื่อของสิ่งของหรือแฟลชการ์ดนั้น หากนักเรียนคิดว่าครูพูดถูกให้กระโดดไปอยู่หลังเส้นฝั่ง "True" หากผิดให้กระโดดไปที่เส้นฝั่ง "False" นักเรียนที่ตอบผิดให้นั่งรอจนกว่าจะเริ่มเกมรอบใหม่

Make Words Game: สุ่มเขียนพยัญชนะลงบนกระดานดำ ให้นักเรียนทำกิจกรรมเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กๆ ช่วยกันสร้างคำขึ้นมาจากพยัญชนะที่ครูเขียนไว้บนกระดานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น พยัญชนะ g, h, a, t, p, e, c สามารถสร้างคำ cat, peg, tea, hat, get,  etc. ทีมที่สร้างคำได้มากที่สุดคือผู้ชนะ

Months March: เกมนี้ต้องใช้ห้องเรียนที่มีพื้นที่กว้างขวางพอที่นักเรียนทุกคนจะเดินมาร์ชไปมาได้ ครูยืนที่ฝั่งขวาทางปลายสุดฝั่งหนึ่งของห้อง นักเรียนยืนเรียงแถวตอนลึกต่อจากครู พอครูพูดว่า "Go!" ทุกคนก็เริ่มออกเดิน พอเริ่มก้าวครูต้องพูดชื่อเดือนออกมาตามลำดับ คือ "January", " February", ... และนักเรียนพูดตามแต่ละเดือน เช่น ครูพูดว่า "January" นักเรียนพูดตาม "January" เดินมาร์ชตามกันไปช้าๆ หลังตรง แขนสะบัดแข็งขัน พอเดินไปได้สักพักครูจะตะโกนอกมาดังๆ ว่า "Stop!" นักเรียนทุกคนก็ต้องหยุดโดยที่แถวตรงเป็นระเบียบในแนวเดียวกับครู ใครที่ยืนไม่ตรงแถวให้ขยับไปอยู่ท้ายสุดของแถว และเริ่มออกเดินต่อ พอถึงอีกปลายหนึ่งของห้องให้หันหลังกลับและออกเดินต่อโดยเดินให้กระฉับกระเฉงและเร็วขึ้น ในรอบสุดท้ายอาจจะเร็วขนาดวิ่งอย่างเป็นระเบียบกันก็ได้ กิจกรรมนี้จะสนุกยิ่งขึ้นหากมีอุปสรรคในห้อง เช่น โต๊ะนักเรียน เก้าอี้นักเรียน เป็นต้น เพราะจะทำให้นักเรียนได้ปีนข้ามหรือลอดใต้โต๊ะสนุกสนาน แต่หลังจากทำไปได้สองสามรอบ ครูควรจะให้นักเรียนเปล่งเสียงพูดเดือนแต่ละเดือนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ต้องพูดตามครูแล้ว

Name Game: กิจกรรมนี้เหมาะกับชั้นเรียนที่เจอกันวันแรก ให้นักเรียนนั่งเป็นรูปวงกลม ชี้ที่ตัวเองและบอกชื่อ "I'm Jason" จากนั้นเพื่อนๆ ที่เหลือทั้งห้องต้องพูดชื่อเพื่อนคนนี้ซ้ำโดยพร้อมเพรียงกัน

Number Codes: ตัดกระดาษรูปสี่เหลี่ยมและ เขียนเลข 0-9 บนกระดาษเหล่านั้น เอาตัวเลขใส่ไว้ในกล่อง ประกาศตัวเลขเพื่อให้นักเรียนล้วงเอากระดาษที่มีตัวเลขมาเรียงกันให้ถูกต้องตามที่ครูประกาศ เป็นเกมที่เหมาะกับการเรียนรู้หมายเลขโทรศัพท์ด้วย

Number Group Game: เปิดเพลงแล้วให้นักเรียนเดินรอบห้อง ครูหยุดเพลงทันทีและพูดตัวเลขออกมาดังๆ นักเรียนต้องรีบจับกลุ่มกันให้ได้จำนวนตามตัวเลขที่ครูพูดออกมา นักเรียนคนไหนที่ไม่มีกลุ่มอยู่ต้องออกไปนั่งรอนอกวงจนกว่าจะถึงรอบใหม่

หมายเลขบันทึก: 254389เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2009 14:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 20:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เอาไปสอนด้วยนะ

จะได้ไปแอบดู

แล้วจะโขมยไปใช้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท