สองคนยลตามช่อง...คนหนึ่งเห็นโคลนตม แต่อีกคนกลับมองเห็นดวงดาว...เป็นการเปิดประเด็นของการอบรมเรื่อง ชนะด้วยการคิดเชิงบวก ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์หลายอย่างผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น
การสำรวจความรู้และเติมเต็มด้วยการเรียนรู้ร่วมกัน
เริ่มแรกเป็นการประเมินโดยใช้คำถามเร็ว-ตอบเร็ว ในคำถาม 3 ข้อที่ว่า ความคิดเชิงบวกหมายถึงอะไร? ปัจจัยที่ส่งเสริมความคิดเชิงบวกคืออะไร? และอุปสรรค์ที่ทำให้ไม่สามารถคิดเชิงบวกคืออะไร? เป็นการดึงความคิดแบบ Tacit Knowledge ของแต่ละคนออกมา แล้วนำมารวมกันและแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ทำให้เห็นว่าแต่ละคนก็มีประสบการณ์และความรู้ที่เหมือนกันบ้างแตกต่างกันบ้าง เป็นการดึงความรู้ที่มีอยู่ออกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและได้ผลสรุปที่เป็นความรู้และวิธีการที่นำไปใช้ในชีวิตและการทำงานได้
ความคิดเชิงบวก หมายถึง
- ความคิด/คิดที่จะทำเชิงสร้างสรรค์
- คิดในทางที่ดี มีประโยชน์และหวังผลสำเร็จ
- การคิดแต่สิ่งดีๆมองโลกในแง่ดีและปฏิบัติดี
- การมองปัญหาที่เกิดขึ้นในทางสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความรู้สึกด้านดี
- มุมมองหรือการมองแบบมีเหตุมีผลทราบถึงเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้น
ปัจจัยที่ส่งเสริมความคิดเชิงบวก สรุปเป็น 3 กลุ่มคือ
1. ทัศนคติ(Attitude) รู้สึกดีกับงานที่ทำ เพื่อนร่วมงาน องค์กร ลูกค้า คู่แข่ง(การร่วมมือภายใต้การแข่งขัน)
2. ความรู้ (Cognition) การคิดโดยใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน ทำให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่า
3. ปัจจัยส่งเสริม(Motivation Factor) เป้าหมาย ความสำเร็จ สะท้อนกลับสิ่งที่ดี สิ่งแวดล้อม
อุปสรรค์ที่ทำให้ไม่สามารถคิดเชิงบวก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
1. ตนเอง - ยึดติดกับความคิดเดิมๆ / จิตใจไม่ดี คิดไม่ดี
- ความอคติ /อารมณ์ที่เกิดขึ้น
- ทัศนคติเชิงลบ / มีประสบการณ์ที่เลวร้าย / ความรู้สึกน้อยใจ / ความ
กลัว สงสัย
- ไม่รับฟังผู้อื่น / การปิดกั้นตนเอง
2. กลุ่ม - การทำโทษ
- ไม่คิดจะมีส่วนร่วม
- ความคิดเห็นขัดแย้ง / ข้อเสียของแต่ละบุคคล
3. สังคม - สภาวะทางสังคม / สังคมในแต่ละสังคมนั้นๆ
- สถานะภาพความมั่นคงทางการเมือง
- สภาพเศรฐกิจที่ไม่ดี
เทคนิค KM เพื่อการพัฒนางาน
ดร.ธำรงค์ อุดมไพจิตรกุล ได้ยิงคำถามให้ผู้อบรมดึงความคิดเห็นของแต่ละคนออกมาว่า ภาพ ? นี้คุณคิดว่ามีความหมายว่าอย่างไร? บางคนก็บอกว่าเป็นคำถาม บางคนก็บอกว่าคือปัญหา บางคนก็บอกว่าสงสัย แต่วิทยากรบอกว่า ภาพ ? มีคนบอกว่านี่คือตัวปัญญา เพราะปัญหาก่อให้เกิดปัญญา...ที่ไหนไม่มีปัญหาที่นั่นไม่ก้าวหน้าหรือพัฒนาจากเดิม เมื่อเกิดปัญหาขึ้นความรู้เดิมที่มีอยู่ตอบไม่ได้ จำเป็นต้องหาความรู้ใหม่มาแก้ไขปัญหา จึงเกิดปัญญาขึ้น คนที่แก้ปัญหาได้เก่งกว่าคือคนที่เข้าไปนั่งในใจลูกค้า(รู้ว่าต้องการอะไร)
การจัดการความรู้(KM) ซึ่งดร.ธำรงค์ได้ให้ความหมายว่า ความรู้ใหม่ / นวัตกรรมที่ใช้พัฒนางาน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของคนทำงาน ณ.จุดทำงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่องค์กรที่มีผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ
1. เริ่มที่ใจ (Attitude for Change) โดยอยากมีส่วนร่วมในความสำเร็จขององค์กร ,เตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จ, การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์
2. คิดได้ ทำได้ (Think for Better) คิดจากสิ่งที่เห็นโดยไม่ใช้ดุลพินิจ(ความรู้สึก) ,คิดจากสิ่งที่เห็นโดยใช้ดุลพินิจ((ความรู้ เหตุผล ปัญญา) ,คิดจากสิ่งที่เห็นโดยใช้ดุลพินิจและปฏิบัติได้ (KM)
3. KM : เนียนเข้าไปในงาน ไม่ใช่งานใหม่
What คืออะไร? ความรู้ใหม่ที่ใช้พัฒนางาน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของคนทำงาน
ณ.จุดทำงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่องค์กรที่มีผลการปฏิบัติงานที่เป็น
เลิศ
Why ทำไมต้องทำ เพื่อให้ทุกคนร่วมสร้างความสำเร็จด้วยปัญญาของแต่ละคน
Whom เป็นเรื่องของใคร? ทุกคนในองค์กร
When mเมื่อไหร่? ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความพึงพอใจของผู้มารับบริการ ตาม
วัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กร
How ทำอย่างร? - กระตุ้นตนเองให้อยากรู้อยากประสบความสำเร็จ
- กำหนดเป้าหมายหรือประเด็นที่จะพัฒนา
- ค้นคว้าด้านความรู้แล้วนำมาประมวลด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- จัดทำคู่มือการทำงานใหม่ นำมาใช้งานและพัฒนาบุคลากร
วิทยากรถามว่าเราทำงานเพื่อใคร? ถ้าไม่รู้ว่าเราทำงานเพื่อใคร? ลองตอบคำถาม 3 ข้อนี้ดูโดยให้เราลองตอบคำถามในใจ
1. ทำงานเพื่อตัวเองหรือคนอื่น (...............)
2. ความสุขที่เกิดขึ้นจากงานปัจจุบัน มาจากที่ทำงานให้ตัวเองหรือผู้อื่น(............)
3. บริษัทหรือองค์กร จ้างคุณมาทำงานเพื่อตนเองหรือคนอื่น(..........)
4. เพื่อนที่รู้ใจ (Community of Interest = CoI) หรือที่วิทยากรบอกว่า เพื่อนรู้ใจหรือ พ-ว-ก (ทำให้อุ่นใจ) พ= พึ่งพาได้ ว = ไว้วางใจ ก = เกรงอกเกรงใจ
- อยู่กับคนที่รู้ใจแล้วขยายให้เต็มองค์กร
- คิดคนเดียวผลบวกทวีบวก ร่วมคิดหลายคนผลทวีคูณ
- ทุกคนในองค์กรร่วมกันเก่งกว่าคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียวในองค์กร
- จากคู่หูสู่ครอบครัวงาน
- ร่วมใจดึง TK สร้างองค์ความรู้ใหม่ ขับเคลื่อนองค์กรจาก CoI สู่ CoP ที่มีจริตร่วม
5. ชำแหละ KM : SWOT KM
จุดแข็ง (Strength) : พนักงานเป็นจุดศูนย์กลางของกระบวนการ , คิดจากสิ่งที่มี , ทำจากสิ่งที่คิด , การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทวีคูณ , เป็นการลงทุนไม่ใช่ค่าใช้จ่าย , สร้างวินัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต , ต่อยอดความรู้ / ภูมิปัญญาเดิม
จุดอ่อน (Weakness) : ขาดเจตสิกเชิงรุก , กลัวการสูญเสียสถานภาพ , หวงความรู้ , ทำ KM เพื่อ KM , คิดว่าเป็นภาระ
โอกาส (Oppoutunity) : การประหวัดทรัพยากร , การสร้างความแตกต่าง , การใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ทางปัญญา , การมีส่วนร่วมในการทำงาน , มาตรฐานที่ต้องใจ , นวัตกรรมในการขับเคลื่อนองค์กร , การบริหารความเสี่ยง
อุปสรรค์ (Threat ) : ความรู้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว , วัฒนธรรม”เลียนรู้” สูงกว่า”เรียนรู้” , การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แบบบูรณาการทำให้สูญเสียความชำนาญเฉพาะด้าน , องค์กรมีขนาดเล็กลงแต่มีความซับซ้อนมากขึ้น
6. “ SECIL” ปัญญาปฏิบัติ : องค์กรอัจฉริยะ
- บอกเล่าให้เข้าใจ TK (Socialization) สู่ TK
- จดไว้เป็นหลักฐาน EK (Externalization) สู่ TK
- ตรวจทานจัดทำใหม่ EK (Combination) สู่ EK
- นำไปใช้และพัฒนาตน : Utilization / TK สู่ EK
- ทุกคนเรียนรู้พัฒนา (Learning Organization)
7. องค์ประกอบ KM : KM = L(CMP)3T
KM = Knowledge Management , L= Leader , C= Cognition , C= Communication , C= Culture , P= People , P= Process , P= Platform , M= Mind , M= Motivation , M= Measurement , T= Technology
การใช้เครื่องมือการจัดการความรู้ ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนและกระบวนการตามกรอบ “ SPEAKING”
S = Space : พื้นที่ / สถานที่ / เวที
P = Process : กระบวนการที่ดึงเอาTK ออกมาใช้ด้วยความสมัครใจ
E = Ends : เป้าหมายที่ต้องการให้เกิด
A = Attitude : ทัศนคติเชิงบวกต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
K = Key Supporter : ผู้ให้การสนับสนุน เช่น หัวหน้างาน เป็นต้น
I = Instrument : เครื่องมือ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ
N = Norm : บรรทัดฐานในการปฏิสัมพันธ์ ที่อยู่บนความไว้วางใจกัน เครารพใน
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
G = Generalization : ได้คำตอบหรือผลสรุปที่นำไปใช้ได้
8. การจัดการความรู้ด้วย “5ร”
รวมใจ ร่วมร่างเป้าหมาย รวมประสบการณ์ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รังสรรค์และใช้ประโยชน์
9. คิดถึงความสำเร็จต้อง KM (Think Success Think KM )
กิจกรรมสร้างองค์ความรู้ด้วยการจัดการความรู้
ภาคบ่ายได้มีกิจกรรม ซึ่งแบ่งกัน 3 กลุ่ม โดยมุ่งหวังให้เกิดกิจกรรมการคิดเชิงบวก ช่วงแรก โดยให้แต่ละกลุ่มร่วมกันดึงความคิด ซึ่งเป็นลักษณะของคนคิดเชิงลบ มานำเสนอพร้อมด้วยกิจกรรมโดยให้ตัวแทนที่ออกไปนำเสนอนั้น จับอุปกรณ์ไปคนละชิ้น แล้วทำให้แตก เสร็จแล้วนำกลับมากลุ่มของตัวเอง ให้สร้างสรรค์ให้เป็นความคิดเชิงบวกให้ได้ภายใต้อุปกรณ์เสริมที่มีให้ ในเวลาที่กำหนด ซึ่งมีอ.อรและอ.ยุทธ เป็นคนดูแลการทำกิจกรรมนี้
จากกิจกรรมนี้แต่ละคนช่วยกันออกไอเดีย คนละไม้ละมือ ไม่น่าเสชื่อว่าแต่ละกลุ่มสามารถทำชิ้นงานที่แตกนั้นมาทำให้เป็นงานชิ้นใหม่ ที่ได้ประโยชน์ได้ และมีความหมายดีเชิงสร้างสรรค์ (ซึ่งถ้าเชื่อว่า เพื่อนทำได้ก็จะบวกทันที) ซึ่งชนะด้วยการคิดเชิงบวก คิดได้ต้องทำได้
ทุกกลุ่มออกมาบอกความหมายชิ้นงานที่ได้สร้างขึ้น
กลุ่มฮีโร่(
กลุ่ม Innovation ก็ทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียและให้ Concept ว่า รวมใจเป็นหนึ่ง สามัคคีคือพลัง
กลุ่ม New Wave เลือกที่จะนำเอาชิ้นส่วนของแจกันที่แตกมาประกอบใหม่แล้วประสานด้วยเทปที่ตัดเป็นรูปหัวใจติดไว้โดยรอบ และตกแต่งส่วนอื่นด้วยริบบิ้นและมาตั้งประกอบกับฉากหลังที่มีรูปและมุมกำลังใจที่ว่า “ท้อเป็นเพียงถ่าน ผ่านจึงเป็นเพชร” โดยมองว่าภาชนะที่แตกนั้นเปรียบเหมือนความคิดเชิงลบของคนในองค์กร กลุ่ม New Wave เลือกที่จะใช้ความคิดเชิงบวกโดยใช้ใจในการประสานใจ นำภาชนะมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่ ช่วยกันประคับประคององค์กรให้เกิดความสามัคคี ภายใต้ทีมที่แข็งแกร่งประดุจเพชร
จากกิจกรรม จากของแตกๆ(ความคิดเชิงลบ) นำมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ให้เกิดความคิดเชิงบวก แล้วทำต่อเป็น Action plan (คิดได้ ทำได้) แล้วทุกกลุ่มก็มานำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ความหมายของความคิดเชิงบวกนั้น ประกอบด้วย 4 อย่างคือ
1. ความรู้ 2. ต้องสร้างสรรค์ 3. ต้องประสบความสำเร็จ 4. ต้องเป็นประโยชน์
2.2 (ใช้ความรู้เป็นฐาน เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ต้องประสบความสำเร็จ และเป็นประโยชน์)
จนมาถึงช่วง AAR มีการเปิดใจกับสิ่งที่คาดหวังและสิ่งที่ได้รับ ประทับใจคุณจรรยาที่บอกว่า เธอคิดว่าทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตนั้น ให้คิดเป็นบวกหมดแล้วจะพบแต่ความสุข และสิ่งที่ได้จากการมาอบรมเรื่องชนะด้วยการคิดเชิงบวก ได้มากกว่าบวก เกินความคาดหมายจริงๆ ขอบคุณทุกคนในทีมงานและเพื่อนรวมอบรมทุกท่านที่ได้ทำให้เกิดมุมมองและสิ่งที่ดีๆมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่กันและเป็นที่น่าประทับใจมากค่ะ.
เข้ามาเติมอาหารสมอง ก่อนนอนครับ
สวัสดีค่ะคุณ Small man ~ natadee
· อาหารสมองยามดึกจานนี้ คงจะมีประโยชน์บ้างนะคะ
· นอนดึก รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
· ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.