อ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคร้า
แต่ก็ชอบอ่านข้อความธรรมค่ะอ่านแล้วได้อะรัยหลายอย่าง
(หนังสือเรียนไม่ค่อยได้อ่าน)
ดีใจที่ได้พบกับผู้ที่ศรัทธาในพุทธศาสนาและศรัทธาในปฏิปทาของหลวงปู่ดูลย์อีกท่านหนึ่งครับ
ขอบคุณเช่นกันครับที่มีกัลยาณมิตรอย่างคุณ Sila คุณ Fighting nam คุณอังกุศ
ผมเริ่มเรียนธรรมะกับหลวงพ่อปราโมทย์ มาสัก 2 เดือนแล้วครับ หลวงพ่อปราโมทย์เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ ผมก็เลยได้รู้จักหลวงปู่ด้วยครับ
ช่วงนี้ผมรอเริ่มทำงานก็เลยมีเวลาไปเรียนธรรมมะกับหลวงพ่อทุกอาทิตย์ครับ ที่สวนสันติธรรมศรีราชา ถ้ามีเวลาก็ลองไปเยี่ยมที่ www.fungdham.com หรือ www.wimutti.net นะครับ
สำหรับคุณ Fighting nam ขอขยายความตามความเข้าใจของผมที่มีอันน้อยนิดนะครับ
คิดเท่าไรๆก็ไม่รู้
>> ปกติเราเคยชินกับการใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา หรือมีโมหะ (หลงอยู่เกือบตลอดเวลา) ซึ่งเป็นธรรมชาติของจิตที่ต้องคิด แต่ปัญญาทางธรรมจะไม่เกิดจากการคิด หรือ บังคับจิต
ต่อเมื่อหยุดคิดได้จึงรู้
>> แต่การที่จะรู้จักสภาวะธรรมเราต้องรู้ทันความคิด เช่น เมื่อเราโกรธ เราก็คอยตามรู้ตามดูด้วงใจที่เป็นกลาง ช่วงนั้นสติตัวจริงจะเกิด แล้วก็จะค่อยๆเห็นความโกรธดับไป เราก็จะค่อยๆเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ความโกรธไม่เที่ยง ความโกรธเป็นทุกข์ ความโกรธบังคับไม่ได้ ถ้ามีเหตุก็จะเกิด
แต่ต้องอาศัยความคิดนั่นแหละจึงรู้
>> ก่อนที่เราจะตามรู้ตามดูอาการของจิตที่หนีไปคิด โลภ โกรธ หลง สุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ มีราคะ..ก็ต้องอาศัยธรรมชาติของจิตที่ชอบคิด แล้วถึงคอยตามรู้ ตามดู ไม่ต้องบังคับ กดข่ม พอจิตจำสภาวะธรรมได้บ่อยๆสติก็จะเกิดเองโดยอัตโนมัติ แล้วไตรลักษณ์จะแสดงให้ดู ปัญญาทางธรรมก็จะเกิดตามมา
สวัสดีค่ะแถบอีสานมีวัดที่ให้โอกาสเราไปศึกษาธรรมมะ ภูคำเป้ ภูย่าอู่ ภูฝาง ผาสามยอด ถ้ามีเวลาว่าง ลองมาศึกษายินดีนะคะ
ขอบคุณนะค่ะสำหรับข้อความเพิ่มเติม
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆที่นำมาเล่าสู่กันฟังคร้า
มาทักทายและฟังธรรมดี ๆ ครับ :)
แวะมาน้อมรับธรรมะดีดีค่ะ..ขอบคุณนะคะ