สหรัฐฯมียอดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูง ในปี 2550 คิดเป็นประมาณ 2.2
พันพันล้านดอลลาร์ ($2.2 trillion คิดเป็น 16% ของ GDP)
คิดว่าถ้าไม่ทำอะไรตัวเลขน่าจะขึ้นเป็น 25% ในอีก 16 ปี
สหรัฐฯจะใช้เงิน 1.1
พันล้านดอลลาร์เพื่อวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างยาต่างๆ
เครื่องมือแพทย์ การผ่าตัดและวิธีต่างๆสำหรับรักษา
ภาวะทางการแพทย์ชนิดหนึ่งๆ
บ้างว่า
"ต้องให้ความสำคัญในความแตกต่างระหว่างเพศในการตอบสนองต่อการรักษา"
บ้างว่า
“ข้อมูลของงานวิจัยจะอิงมาจากค่าเฉลี่ยของประชากรและจะไม่สนใจความแตกต่างระหว่างผู้ป่วย"
"รัฐจะติดตามดูว่าแพทย์ได้เลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะสมและ
มีประสิทธิภาพดีในเชิงค่าใช้จ่ายด้วย (cost-effective)"
"กังวลว่ารัฐจะนำข้อมูลไปใช้ผิดๆโดยแบ่งปันการดูแลรักษาพยาบาล
)ปฏิเสธการรักษาเพื่อช่วยชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ"
"ผลน่าจะทำให้....การรักษาที่แพงกว่า มีประสิทธิภาพน้อยกว่า
จะไม่นำมาใช้"
ข่าว ROBERT PEAR, U.S. to Compare Medical Treatments, February 15,
2009
http://www.nytimes.com/2009/02/16/health/policy/16health.html
ทัศนะ
คงต้องติดตาม ไม่รู้ว่าข้อมูลการวิจัย
การรักษาที่มีประสิทธิภาพดีสำหรับชาวอเมริกัน จะมีการเผยแพร่
และจะมีประโยชน์ต่อการเลือกวิธีรักษาของเราหรือไม่
ทั้งต้องระวังแนวโน้มของยาแพงที่มีประสิทธิภาพต่ำ
หรือการนำยาที่ในการวิจัยเปรียบเทียบว่ามีประสิทธิภาพต่ำกว่าส่งไปขายประเทศอื่นแทน
สวัสดีครับ อ.ศิลา