จากตอนที่แล้วผมได้เขียนเล่าภาพรวมของงานมาแล้ว (ความเดิมตอนที่แล้ว http://gotoknow.org/blog/attawutc/246753) มาตอนนี้เรามาดูกันว่าวิทยากรแต่ละท่านจะมานำเสนอ เรื่องอะไร อย่างไรบ้าง
วิทยากรท่านแรกคือ อาจารย์ชูศักดิ์ หงษ์หยก ผู้บุกเบิก อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งนิตยาสาร Go Training และนักฝึกอบรม Mind Training จากสถาบันฝึกอบรมโฮไอ เปิดตัวด้วย Keyword คำว่า “CHAIN”
เนื้อหาโดยสรุปของ อาจารย์ชูศักดิ์ หงษ์หยก ได้พูดเปรียบองค์กรเสมือนกับกับสายโซ่ และบุคลากรแต่ละคนในองค์กรเปรียบเสมือนกับข้อของโซ่แต่ละข้อ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับข้อโซ่แต่ละข้อ อย่างเท่าเทียมกัน ป้องกันไม่ให้ข้อนั้นอ่อนแอ เพราะข้อโซ่แต่ละข้อต่ออนุกรมกันถ้าข้อใดข้อหนึ่งขาดก็จะทำให้โซ่เส้นนั้นไม่สมบูรณ์ ในความคิดเห็นของผมทำให้นึกเชื่อมโยงไปกับเรื่องทุนมนุษย์ (Human Capital) และทุนทางสังคม (Social Capital) ที่ อ. วรภัทร ภู่เจริญท่านได้กล่าวไว้ ใน Series หนังสือ LO&KM ที่ได้ออกมา 4-5 เล่มแล้ว โดยเฉพาะตอน Innovation Management http://www.managerroom.com/forums/forum_topics.asp?FID=18&PN=1
วิทยากรท่านที่สองคือ อาจารย์เกรียงศักดิ์ นิรัติพัฒนะศัย ผู้เชี่ยวชาญด้าน Coaching และการทำงานข้ามวัฒนธรรม (Cross Culturing) เปิดตัวด้วย Keyword คำว่า “COACH” เจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการ Coaching / Cross Culturing หลายเล่ม
ลักษณะการนำเสนของ อาจารย์เกรียงศักดิ์ เป็นแบบ Lecture ทั่วไป ซึ่งในความคิดเห็นของผมคิดว่าค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ได้เนื้อหาเป็นกอบเป็นกำมากเลยทีเดียว เนื้อหาโดยสรุปพูดถึงเรื่องการโค้ชในกับผู้บริหารระดับสูง (Execute Coach) โดยใช้หลัก 4 D (Diagnostic, Design, Discuss และ Destiny) หลักการโค้ชผู้บริหารนี้ ไม่ใช่การสอนแต่เน้นเรื่องการสื่อสาร เป็นกระจก Feedback ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องมีการโค้ชเพราะ/เพื่อ
- ผู้บริหารมีความโดดเดี่ยว ยิ่งสูง ยิ่งหนาว
- มีแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลง
- เพื่อ Feed Back ให้เห็นจุดบอด
- ท้วงติง คิดต่าง ให้เกิดไอเดียที่ท้าทาย
จากประสบการณ์อาจารย์ได้เล่าว่าส่วนใหญ่การโค้ชนี้ได้รับความสำเร็จเพียงแค่ 33 % เท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจาก
- คนเราเปลี่ยนแปลงได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บุคลิก หรือสันดาน
- คนโค้ช ใจร้อน บอกก่อน ไม่รอให้ผู้ถูกโค้ช เรียนรู้เอง
- เป็นเรื่องทางวัฒนธรรม เช่นถ้าผู้ถูกโค้ชเป็นชาวต่างชาติ ถ้าไม่เห็นจะเถียง อย่างมีตรรกะ ถ้ามีคำตอบที่มีเหตุผลชัดเจน จะทำให้ดำเนินการต่อไปได้ดี ถ้าผู้ถูกโค้ชคนไทย ดูเหมือนจะเห็นด้วย โอเคไปหมด แต่ไม่ทำ ดื้อเงียบ
- วุฒิภาวะ หรือข้อจำกัดอื่นๆ เปลี่ยนคนที่เปลี่ยนไม่ได้ ผู้ถูกโค้ชคิดว่าติดเพดานแล้ว
ดังนั้นการโค้ชต้องเป็นเรื่อง เฉพาะบุคคล เฉพาะงาน ตามบริบทนั้น จะเหมาโหลไม่ได้ สุดท้ายอาจารย์ได้ฝากคำคมไว้ว่า “หน้าที่ของโค้ช คือ ต้องทำให้เขาเก่งกว่าที่เขาคิด”
ที่มา http://gotrainingtalk.wordpress.com/speaker/
ยังเหลือวิทยากรอีก 5 ท่าน บรรยากาศ เนื้อหา จะเป็นอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความเห็น