3. ไฟลัมแพลทีเฮลมินเทส (Phylum Platyhelminthes)


ได้แก่ หนอนตัวแบนต่างๆ เช่นพยาธิตัวตืด พยาธิใบไม้ ส่วนพลานาเรียดำรงชีพอิสระไม่ได้เป็นปรสิต

พลานาเลีย

พลานาเลีย

พลานาเรีย

พยาธิใบไม้

พยาธิใบไม้

พยาธิตัวตืด

พยาธิตัวตืด

ลักษณะสำคัญ คือ

1. มีสมมาตรเป็นแบบครึ่งซีก (bilateral symmetry)

2. มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้นครบถ้วน (triloblastics) ไม่มีช่องตัว(acoelomate) คือไม่มีช่องว่างระหว่างผนังลำตัวกับ   ผนังทางเดินอาหาร ผนังชั้นนอกอ่อนนุ่ม บางชนิดมีซิเลีย เช่น พลานาเลียบางชนิดมีคิวทิเคิล (cuticle) หุ้มและมีปุ่มดูด หรือขอเกี่ยว (hooks) สำหรับยึดเกาะกับโฮสต์ (host) เช่นพยาธิใบไม้ (flukes) พยาธิตัวตืด (tapeworms)

3. ร่างกายแบนทางด้านหลังและด้านท้อง (dorsoventrally) ไม่มีข้อปล้อง แต่บางชนิดเช่นพยาธิตัวตืด มีข้อปล้องแต่เป็นปล้องที่เกิดขึ้นเฉพาะที่ผิวลำตัวเท่านั้น

4. พวกที่มีการดำรงชีวิตอย่างอิสระจะมีเมือกลื่น ๆ หุ้มตัวเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ ส่วนพวกที่ดำรงชีวิตแบบปรสิต (parasitic type) จะมีคิวทิเคิล (cuticle) หุ้มตัวซึ่งสร้างจากเซลล์ที่ผิวของลำตัว ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายซึ่งเกิดจากน้ำย่อยของผู้ถูกอาศัย (host)

5. มีท่อทางเดินอาหารที่เป็นปลายตัน หรือเป็นแบบที่ไม่สมบูรณ์ มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก

6. สัตว์ในไฟลัมนี้เริ่มมีการรวมตัวของอวัยวะแสดงลักษณะหัว (cephalization) คือมีปมประสาทสมอง อวัยวะรับความรู้สึกและช่องปากมารวมกันอยู่ทางด้านหน้าของลำตัว

7. ระบบขับถ่าย มีอวัยวะที่เรียกว่า โพรโตเนฟริเดีย (protonephridia) มีลักษณะเป็นท่อที่ปลายด้านในปิดและ มีท่อไปเปิดออกด้านนอก ซึ่งประกอบด้วยท่อตามยาวหลายท่อ (protonephridial canal) จากท่อเล็ก ๆ นี้จะมีท่อแยกไปเป็นท่อย่อย (capillary) ที่ปลายท่อย่อยมีเซลล์โพรโตเนฟริเดียลักษณะเป็นรูปถ้วย (flame bulb) มีแฟลกเจลลัมเป็นกระจุกอยู่ด้านในของถ้วย ซึ่งจะโบกพัดไปมาคล้ายเปลวเทียน จึงเรียกว่า เฟลมเซลล์ (flame cell = เซลล์เปลวไฟ)    การโบกพัดของแฟลกเจลลัมทำให้เกิดแรงดึงน้ำผ่านเข้าสู่ท่อของเสียที่โพรโตเนฟริเดีย กำจัดออกในรูปของแอมโมเนียที่ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งจะไหลออกมาตามท่อและออกสู่ภายนอกทางช่องเปิดที่เรียกว่า เนฟริดิโอพอร์ (nephridiopore)

8.ไม่มีอวัยวะที่ใช้ในการหายใจโดยเฉพาะ ในพวกปรสิตจะหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน (anaerobic respiration) เช่นพยาธิใบไม้

9. ระบบประสาทประกอบด้วยปมประสาทด้านหน้า (anterior ganglia) หรือปมประสาท รูปวงแหวน     (nerve ring) ทำหน้าเป็นสมองเชื่อมระหว่างเส้นประสาทใหญ่ตามยาว (longitudinal nerve cord) ซึ่งทอดไปตามยาวของร่างกายจำนวน 2 เส้น และมีเส้นประสาทตามขวาง (transverse nerve) เชื่อมระหว่างเส้นประสาทใหญ่ทั้งสอง   ด้วย มีอวัยวะรับสัมผัสแบบง่าย ๆ บางชนิดมีตา (eye spot)

10. ระบบสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยมีสองเพศอยู่ในตัวเดียวกัน จัดเป็นกะเทย (hermaphrodite) มีการปฏิสนธิภายในตัวเอง (self fertilization) และปฏิสนธิแบบข้ามตัว (cross fertilization) และมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ   โดยการงอกใหม่ (regeneration)

หมายเลขบันทึก: 244971เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2009 14:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 11:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สู้ๆๆน่ะค่ะ

สู้ๆเด้อ

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท