ประโยชน์ของ e-Learning ::
ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเนื้อหา และ สะดวกในการเรียน
การเรียนการสอนผ่านระบบ e-Learning นั้นง่ายต่อการแก้ไขเนื้อหา และกระทำได้ตลอดเวลา เพราะสามารถกระทำได้ตามใจของผู้้สอน เนื่องจากระบบการผลิตจะใช้ คอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากนี้ผู้เรียนก็สามารถเรียนโดยไม่จำกัดเวลา และสถานที่
เข้าถึงได้ง่าย
ผู้เรียน และผู้สอนสามารถเข้าถึง e-learning ได้ง่าย โดยมากจะใช้ web browser ของค่ายใดก็ได้ (แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตบทเรียน อาจจะแนะนำให้ใช้ web browser แบบใดที่เหมาะกับสื่อการเรียนการสอนนั้นๆ) ผู้เรียนสามารถเรียนจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใดก็ได้ และในปัจจุบันนี้ การเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกระทำได้ง่ายขึ้นมาก และยังมีค่าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มีราคาต่ำลงมากว่าแต่ก่อนอีกด้วย
ปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยกระทำได้ง่าย
เนื่องจากผู้สอน หรือผู้สร้างสรรค์งาน e-Learning จะสามารถเข้าถึง server ได้จากที่ใดก็ได้ การแก้ไขข้อมูล และการปรับปรุงข้อมูล จึงทำได้ทันเวลาด้วยความรวดเร็ว
ประหยัดเวลา และค่าเดินทาง
ผู้เรียนสามารถเรียนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ โดยจำเป็นต้องไปโรงเรียน หรือที่ทำงาน รวมทั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องประจำก็ได้ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลามาก การเรียน การสอน หรือการฝึกอบรมด้วยระบบ e-Learning นี้ จะสามารถประหยัดเวลาถึง 50% ของเวลาที่ใช้ครูสอน หรืออบรม
จากประโยชน์ของ e-Learning ดังกล่าวนี้ ทำให้ภาคเอกชนเป็นจำนวนมากหันมานิยมใช้ระบบ e-learning ในการพัฒนาบุคลากรมากขึ้น
:: ประโยชน์ของการเรียนแบบออนไลน์เมื่อเทียบกับการฝึกอบรมในห้องเรียน ::
ห้องเรียน/สถานที่อบรม เครือข่ายออนไลน์
การเข้าถึง จำกัด (ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องเรียน) / ระยะเวลาที่เปิดสอนต่อวัน 24 ฃั่วโมงต่อวัน และ 7 วันต่อสัปดาห์
การวัดผล วัดผลด้วยตัวเอง หรือครูผู้สอน อัตโนมัติ หรือครูผู้สอน
การจดจำ จำกัด ไม่สามารถทวนซ้ำได้ อาจจะต้องในการจดบันทึกแทน สูง เพราะสามารถทวนซ้ำได้หลายๆ ครั้ง เท่าที่ต้องการ
ค่าใช้จ่าย สูง เพราะค่าจ้างผู้สอนต่อครั้ง ต่ำ ค่าจ้างครูผู้สอนครั้งเดียวในการผลิตเนื้อหา
e - Learning ใช้เป็นสื่อหลัก หรือสื่อเสริมก็ได้
............. การใช้เป็นสื่อหลักนั้นหมายถึง การนำมาใช้ในการเรียนการสอนอย่างเต็ม รูปแบบ คือผู้เรียนจะเข้าเรียน ส่งงาน ติดต่อสื่อสารกับผู้สอนผ่านระบบ โดยไม่ต้องเข้าเรียนในชั้นเรียน
.............ใช้เป็นสื่อเสริม นั้นหมายถึง ผู้เรียนได้เข้าเรียนในชั้นเรียนตามปกติ แล้วสามารถใช้ระบบ e - Learning เป็นตัวเสริมเพื่อทบทวนเนื้อหาวิชาต่างๆ ก่อนหรือหลังการเข้าเรียนในชั้นเรียนปกติได้
E-Learning มีลักษณะเป็นอย่างไร
1. สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง หรือเรียนร่วมประสมไปกับระบบการเรียนในชั้นเรียน การฝึกอบรม หรือการฝึกปฏิบัติทั่ว ๆ ไป
2. เป็นระบบการเรียนที่มีปฏิสัมพันธ์ (Interactive) ทั้งกับบทเรียน เพื่อนร่วมเรียน ครูอาจารย์ผู้สอน และในบางกรณีเปิดกว้างในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลทั่วไปผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
3. สามารถเรียนผ่านระบบสถานศึกษา สถานที่ทำงาน ที่บ้าน หรือจะเรียนในที่ใด และเรียนขณะเดินทาง หรือในสภาวะใดก็ได้ ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์สื่อสารผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ได้
การเรียนแบบ e-Learning มีจุดเด่นและประโยชน์ที่เห็นอย่างชัดเจนที่สุดได้แก่
ความสะดวกสบาย ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะระบบการเรียนการสอนแบบ e-Learning จะไม่ผูกติดกับชั้นเรียน ในตัวระบบจะทำการจำลองห้องเรียนเสมือนเพื่อให้ผู้เรียนเข้าไปเรียนเนื้อหาวิชาต่างๆ ได้ ผู้เรียนจะสามารถเข้าชั้นเรียนที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่นั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถต่อ Internet ได้หรือไม่ นอกจากนี้ผู้เรียนยังกำหนดระยะเวลาการเรียนได้อย่างอิสระ ตามความสามารถของแต่ละบุคคล
ความทันสมัยของเนื้อหา นี่คือจุดเด่นอีกประการของการเรียนการสอนแบบ e-Learning เพราะการผลิตบทเรียนได้เน้นการผลิตในรูปแบบของเว็บไซต์เป็นประการสำคัญ ดังนั้นการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสามารถทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่มาก นอกจากนี้ยังไม่จบแค่ เนื้อหาในบทเรียนที่นำเสนอ ยังสามารถเสริมเนื้อหากว้างไกลด้วย link ที่เกี่ยวข้องได้อีก
ง่ายต่อการใช้งานระบบ เนื่องด้วยการทำงานของระบบ e-Learning นั้นเป็นวิธีการทำงานแบบเว็บไซต์ จึงทำให้ใช้งานได้ง่าย ผู้เรียนเพียง แค่คลิกเมาส์หรือพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดก็สามารถใช้งานได้แล้ว
ความเป็นเลิศของระบบ ระบบสามารถติดตามบันทึกข้อมูลของผู้เรียน อาทิ เวลาเข้าเรียน,คะแนนเก็บ,คะแนนสอบ ดังนั้นผู้เรียนสามารถตรวจสอบตัวเองได้ตลอดเวลา ส่วนทางด้านผู้สอน ผู้สอนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เรียนได้อย่างละเอียดตามความต้องการ การเรียนแบบ e-Learning นั้น มีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนได้ทั้งแบบเป็นกลุ่ม และรายบุคคล สามารถรวมคะแนนและ แสดงผลการเรียน ให้ Feed back อย่างทันทีทันใด ผ่านระบบได้
ประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้เรียนสามารถเรียนที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ จะช่วยประหยัดค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะตามมา
ใช้เป็นสื่อหลัก หรือสื่อเสริมก็ได้ การใช้ระบบ e-Learning เป็นสื่อหลักนั้นหมายถึง การนำมาใช้ในการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ คือผู้เรียนจะเข้าเรียน ส่งงาน ติดต่อสื่อสารกับผู้สอนผ่านระบบ โดยไม่ต้องเข้าเรียนในชั้นเรียน แต่ในกรณีที่นำมาใช้เป็นสื่อเสริมนั้นหมายถึง ผู้เรียนได้เข้าเรียนในชั้นเรียนตามปกติ แล้วสามารถใช้ระบบ e-Learning เป็นตัวเสริมเพื่อทบทวนเนื้อหาวิชาต่างๆ ก่อนหรือหลังการเข้าเรียนในชั้นเรียนปกติได้
การเรียนแบบผสมผสาน (Blended Learning) เป็นการบูรณาการการเรียนการสอนในระบบ E-Learning กับการเรียน
การสอนในชั้นเรียนปกติ โดยผู้เรียนจะได้เรียนในระบบ E-Learning ในเนื้อหาที่ไม่จำเป็นต้องมาพบปะกันในห้องเรียนหรือกิจกรรม
ที่ทำการเรียนการสอนในระบบ E-Learning ได้เหมาะสมกว่า และผู้เรียนกับผู้สอนจะได้พบปะกันในห้องเรียนในกิจกรรมการเรียนการ
สอนที่จำเป็นต้องพบกันหรือไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในระบบ E-Learning ได้ ทั้งนี้การจะจัดการผสมผสานอัตราส่วนระหว่าง
การเรียนการสอนในระบบ E-Learning กับชั้นเรียนปกติในอัตราส่วนเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหา และการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน
ซึ่งการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning) นั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์ดังนี้
๑. ผู้เรียนผู้สอนได้มีโอกาสได้พบปะกัน สร้างความสนิทสนมคุ้นเคย ผู้สอนสามารถรับรู้ได้ว่าผู้เรียนมีตัวตนอยู่จริง
๒. ผู้เรียนที่ไม่เคยชินกับระบบการเรียนการสอน ในระบบ E-Learning ค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่ระบบ E-Learning ไปได้ทีละน้อย
๓. ผู้เรียนไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะได้พบปะกับผู้เรียนคนอื่นๆ และครูผู้สอน
๔. ผู้เรียนมีช่องทางในการเรียนมากขึ้นเพราะสามารถพบกับผู้สอนได้โดยตรง ผู้สอนเองก็สามารถถ่ายทอดความรู้ได้มากขึ้น
ในเนื้อหาที่ไม่สามารถถ่ายทอดทางช่องในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ หรือเนื้อหาที่จะต้องใช้งบประมาณในการสร้าง และนำเสนอใน
เครือข่ายอินเตอร์เน็ตค่อนข้างสูงก็ไม่จำเป็นแต่สามารถนำมาถ่ายทอดในชั้นเรียนปกติได้
๕. ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง เพราะในบางกิจกรรมสามารถจัดในระบบการเรียนแบบ E-Learning ได้ดีหรือเหมาะสม
กว่าการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติ ผู้เรียนก็ไม่จำเป็นต้องมาพบกับผู้สอน
๖. การเรียนแบบผสมผสานในระบบ E-Learning และในชั้นเรียนปกติย่อมส่งผลดีต่อการเรียนต่อผู้เรียนรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
เพราะเป็นการผนวกเอาข้อดีของการจัดการเรียนการสอนในระบบ E-Learning และการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติ ทำให้ข้อเสีย
ของระบบทั้งสองถูกกำจัดจนเหลือน้อยที่สุด
กล่าวโดยสรุป การเรียนการสอนแบบผสมผสานอาจจะเข้ามาช่วยขจัดข้อขัดแย้งของจุดยืนทั้งสองได้ ช่วยให้การเรียนการสอน
ทางไกลมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่มากขึ้น แต่สุดท้ายปัจจัยที่สำคัญที่สุดในระบบการเรียนการสอน ก็คือ Peopleware ซึ่งก็หมายถึง
ผู้สอนและผู้เรียนนั่นเอง ผู้สอนและผู้เรียนนั้นจะต้องมีความสอดคล้องซึ่งกันและกัน ผู้สอนไม่ว่าจะสอนระบบ E-Learning หรือสอน
ในชั้นเรียนปกติ ก็จะต้องมีหลักการในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผู้เรียนผู้สอนควรจะต้องทำการวิเคราะห์ผู้เรียนในด้านต่างๆ ทั้งจิตวิทยา
พัฒนาการ วัยของผู้เรียน รูปแบบหรือลีลาการเรียนรู้ของผู้เรียน หลักการสอน วิธีการสอน วิเคราะห์เนื้อหา กำหนดวัตถุประสงค์
ในการเรียน เรียงลำดับบทเรียน คัดเลือกสื่อที่จะนำมาใช้ประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนวิธีการวัดและประเมินผลผู้เรียนให้ตรง
กับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ในขณะที่ผู้เรียนเอง ก็ควรจะต้องมีความกระตือรือร้นในการค้นคว้าหาความรู้ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง
มีความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา เลิกค่านิยมการเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว ระบบการเรียนการสอนของประเทศไทยก็คงจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ในปัจจุบัน
สา
ไม่มีความเห็น