วันครู 2552


แด่...คุณครูทุกท่าน
 
สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้เป็นวันครู ผมได้ไปร่วมกิจกรรมที่ทาง สทพ.นศ. เขต 1 จัดขึ้นที่ทุ่งท่าลาด ท่านผ้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นประธานในพิธี หลังจากนั้นก็มาทำงานต่อที่โรงเรียน เนื่องในโอกาสวันครู จึงค้นหาข้อมูลและเป็นที่มาบันทึกนี้ไว้อ่านร่วมกับ เพื่อแสดงความรักความเคารพต่อคุณครูทุก ๆ ท่านครับ
 ความหมาย
           ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ
  • ความเป็นมา
          วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500  สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู
          ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา
          ปี พ.ศ. 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง”
          จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน
          ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 กำหนดให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้
          การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ
          การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลาในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
          1. กิจกรรมทางศาสนา
          2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณ
              บูรพาจารย์  

          3. กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือ
              การจัดงาน  รื่นเริงในตอนเย็น
          ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่งประเทศ สำหรับในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็ได้
          รูปแบบการจัดงานในส่วนกลาง (หอประชุมคุรุสภา) พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์และประชาชนร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ จำนวน 1,000 รูป หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมงานจะเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วพิธีบูชาบูรพาจารย์โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงประคุณบูรพาจารย์ ว่าดังนี้

คาถา ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา (วสันตดิลกฉันท์)

     ข้าขอประนมกรกระพุ่ม

อภิวาทนาการ

กราบคุณอดุลคุรุประทาน

หิตเทิดทวีสรร

     สิ่งสมอุดมคติประพฤติ

นรยึดประคองธรรม์

ครูชี้วิถีทุษอนันต์

อนุสาสน์ประภาษสอน

     ให้เรืองและเปรื่องปริวิชาน

นะตระการสถาพร

ท่านแจ้งแสดงนิติบวร

ดนุยลยุบลสาร

     โอบเอื้อและเจือคุณวิจิตร

ทะนุศิษย์นิรันดร์กาล

ไปเบื่อก็เพื่อดรุณชาญ

ลุฉลาดประสาทสรรพ์

     บาปบุญก็สุนทรแถลง

ธุระแจงประจักษ์ครัน

เพื่อศิษย์สฤษฎ์คติจรัล

มนเทิดผดุงธรรม

     ปวงข้าประดานิกรศิษ

(ษ) ยะคิดระลึกคำ

ด้วยสัตย์สะพัดกมลนำ

อนุสรณ์เผดียงคุณ

     โปรดอวยพรสุพิธพรอเนก

อดิเรกเพราะแรงบุญ

ส่งเสริมเฉลิมพหุลสุน -

ทรศิษย์เสมอเทอญฯ

คาถา ปญญาวุฑฺฒิกเรเตเต ทินฺโนวาเท นมามิหํ

 
          คำประพันธ์ของ พระวรเวทย์พิสิฐ (วรเวทย์ ศิวะศริยานนท์) ครูอาวุโสสวดคาถาแรกแล้ว สวดคำฉันท์ ในวรรคแรก นำผู้ที่มาประชุมสวดต่อจนจบ แล้วครูอาวุโสสวดคาถาท้าย
          จากนั้นประธานจัดงานวันครู จะเชิญผู้ร่วมประชุมยืนสงบ 1 นาที เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อด้วยครูอาวุโสในประจำการ นำผู้ร่วมประชุมกล่าวปฏิญาณ ดังนี้
          ข้อ 1 ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
          ข้อ 2 ข้าจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
          ข้อ 3 ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
          จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคล แล้วต่อด้วยนายกรัฐมนตรีมอบรางวัลครูดีเด่นประจำปี มอบของระลึกให้ครูอาวุโสนอกและในประจำการ สุดท้ายกล่าวปราศรัยกับคณะครูที่มาประชุม
  • จรรยามารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู
         1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความ
             บริสุทธิ์ใจ
         2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
         3. ตั้ง ใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของ
             ตน ให้แก่
             ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
         4.  รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้
             เสื่อมเสีย
              เกียรติและชื่อเสียงของครู
         5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่ง
             ของผู้บังคับ บัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผน
             ของสถานศึกษา
         6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทาง
            วิชาการของตน ไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
         7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการโดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตนและ
             ไม่เบียดบัง  ใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป พื่อประโยชน์ส่วนตน
         8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่
             แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
         9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วม
            งานและของ สถานศึกษา
         10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน
      ผู้ที่จะเป็นครูได้นั้น ต้องเป็นผู้มีความเสียสละอย่างมาก เพราะการที่จะอบรมสั่งสอนศิษย์ให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในสังคมได้ ไม่เพียงแต่ครูจะต้องถ่ายทอดวิชาความรู้ให้เท่านั้น แต่ต้องสอนสั่งให้ศิษย์เป็นคนดี เป็นคนมีคุณภาพของสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลาและการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ครูจึงมีพระคุณเปรียบประดุจพ่อแม่คนที่สองของเรา

        ในหนังสือวันสำคัญโครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยฯ ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้กล่าวถึง ความเป็นมาของ “วันครู” ว่าสืบเนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ด้วยในสมัยนั้น ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศ ถึงแนวความคิดที่จะกำหนดให้มีวันครูขึ้น ด้วยเห็นว่าครูเป็นผู้มีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ชีวิต จึงควรมีสักวันหนึ่งที่จะให้ศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับความคิดเห็นของครูทั่วไป

        ดังนั้น ในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ทุกวันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็น “วันครู” โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็นวันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้

        การจัดงาน “วันครู” มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500 ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ โดยมีหลักการว่าให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี ซึ่งอนุสรณ์สำคัญก็ได้แก่ หนังสือประวัติวันครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุ ต่อมาการจัดงานวันครูก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเรื่อยมา จนปัจจุบันรูปแบบสำคัญมักจะประกอบด้วย กิจกรรมทางศาสนา พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ การกล่าวปฏิญาณตน การกล่าวรำลึกถึงพระคุณบูราพาจารย์ และกิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู เป็นต้น



        สำหรับดอกไม้ประจำวันครู คือ “ดอกกล้วยไม้” โดยพิจารณาเห็นว่าคุณลักษณะของดอกกล้วยไม้ มีลักษณะและความหมายคล้ายคลึงกับสภาพชีวิตครู นั่นคือ กว่ากล้วยไม้แต่ละช่อจะผลิดอกออกผลให้เราชื่นชมได้ ต้องใช้เวลานานและต้องการดูแลเอาใจใส่ไม่น้อย เช่นเดียวกับครูแต่ละคน กว่าจะสั่งสอนเคี่ยวเข็ญศิษย์คนแล้วคนเล่าให้มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าในชีวิตได้ ก็ต้องใช้เวลาอบรมสั่งสอนมิใช่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้ กล้วยไม้ยังเป็นพืชที่อยู่ในที่สูงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ร่วงโรยง่าย เปรียบเสมือนครูที่อยู่ทั่วแดนไทยที่ต้องอดทนต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และอุทิศตนเพื่อการศึกษาของชาติ

        ดังคำกลอนของ หม่อนหลวงปิ่น มาลากุล ศิลปินแห่งชาติ ที่ว่า

                         “กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด
                          การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น
                          แต่ออกดอกคราวใด งานเด่น
                         งานสั่งสอนปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม”

    พระพุทธเจ้าได้เปรียบครูว่า เป็นดังทิศเบื้องขวา ผู้ซึ่งมีหน้าที่อนุเคราะห์ต่อศิษย์ดังนี้
         1. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี
         2. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
         3. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
         4. ส่งเสริมยกย่องความดีงามความสามารถให้ปรากฏ และ
         5. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ คือ สอนฝึกให้สามารถใช้วิชาเลี้ยงชีพ และรู้จักดำรงรักษาตน
             ในอันที่จะ        ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยดี

        งานของครู นั้น เป็นงานหนัก และเป็นงานที่มีความสำคัญต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นงานสร้างคน โดยเฉพาะการสร้าง “คนดี” อันจะเป็นเสมือน “ต้นกล้า”ที่มีคุณภาพให้แก่แผ่นดินในอนาคต
 

คำขวัญวันครู

          การจัดงานครูอันที่จริงมีมานานแล้ว ตั้งแต่ 16 มกราคม 2500 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน  2499 แต่เริ่มจัดให้มีคำขวัญเกี่ยวกับงานวันครูเมื่อไม่นานมานี้เอง  แรกๆก็เป็นคำขวัญของคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา)ต่อมาก็เป็นคำขวัญของบุคคลทั่วไปที่ส่งเข้าประกวด ซึ่งพอจะรวบรวมได้ดังนี้
 

ปี พ.ศ.

คำขวัญ

เจ้าของคำขวัญ

2522

  การให้การศึกษาแก่คนในชาติ เป็นกระบวนการที่ต้องทำต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิต   ดังนั้นจึงต้องระดมสรรพกำลังหลายๆด้านมาช่วยเหลือการศึกษา ปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะขาดเสียมิได้ก็คือ ครูซึ่งจะเป็นผู้ผลักดันให้ทุก  อย่างไปสู่เป้าหมายได้ ฉะนั้นท่านทั้งหลายคงตระหนักถึงหน้าที่อันมีเกียรตินี้ ในโอกาสที่วันสำคัญอย่างยิ่งของครูได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งข้าพเจ้าในนามของกระทรวงศึกษาธิการและประธานอำนวยการคุรุสภา ขอส่งความปรารถนาดีและความระลึกถึงเพื่อนครูทุกท่าน ทั้งนอกและใน ราชการขอจงประสบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกันและขอได้โปรดตระหนักถึงหน้าที่ ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีของครูที่ดีสืบไป

นายแพทย์บุญสม มาร์ติน

2523

     เป็นครูต้องยึดถือคุณธรรมของครู

ดร.ก่อ    สวัสดิ์พาณิชย์

2524

 ครูที่แท้ต้องทำแต่ความดี ประพฤติปฏิบัติในระเบียบแบบแผนอันสมควรกับ เกียรติภูมิของตน มีความรักในลูกศิษย์และอบรมปัญญาให้ลูกศิษย์มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านวิชาการความฉลาดรอบรู้ในเหตุและผล ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และทางด้านพลานามัย

ดร.สิปปนนท์   เกตุทัต

2525

     ครูนั้น สังคมยกย่องนับถือว่าเป็นปูชนียบุคคล ทั้งนี้เพราะว่าครูเป็นผู้เสียสละยึดมั่นในคุณงามความดี และความถูกต้อง จีงขอให้รักษาความดีนี้ตลอดไป

ดร.เกษม   ศิริสัมพันธ์

2526

อนาคตของเด็กไทย อยู่ที่ความเอาใจใส่ของครูทุกคน

ดร.เกษม   ศิริสัมพันธ์

2527

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2527 ผมขอให้เพื่อนครูที่รักทั้งหลายและสมาชิกคุรุสภาทุกท่าน ประสบความสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล สัมฤทธิ์ผลอันพึงปรารถนาตลอด

นายชวน    หลีกภัย

2528

     การที่บุคคลหนึ่งจะดำรงชีวิตได้อย่างดีนั้นมิใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะผู้เป็นครูมี แนวปฏิบัติที่ยากยิ่ง เป็นสิ่งน่าเห็นใจที่ครูจะต้องปฏิบัติโดยยึดถือความดี  มีคุณธรรมระดับสูงกว่าบุคคลทั่วไป แต่ก็น่าภาคภูมิใจเมื่อครูผู้ปฏิบัตินั้นได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา และยอมรับจากสังคมมากขึ้น จึงขอให้เ้พื่อนครู ทุกท่านปฏิบัติตนด้วยความเสียสละ อดทน ยึดถือความดี มีคุณธรรมเพื่อจะ บังเกิดผลดีแก่ตนเอง ชุมชน และประเทศชาติสืบไป

นายชวน    หลีกภัย

2529

ครูคือผู้พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณค่าต่อการพัฒนาชาติให้ก้าวหน้า และอยู่รอดปลอดภัย

นายชวน    หลีกภัย

2530

ครูดีมีวินัย และคุณธรรม ย่อมน้อมให้เยาวชนเป็นพลเมืองดี

นายมารุต   บุญนาค

2531

ครูเป็นผู้สร้าง ครูเป็นผู้ให้ความหวัง ครูเป็นพลังให้ศิษย์เป็นคนดี

นายมารุต   บุญนาค

2532

ครูดี มีจรรยา มุ่งค้นคว้าเพื่อพัฒนาเด็กไทย

พลเอกมานะ   รัตนโกเศศ

2533

ครูคือผู้อุทิศทั้งชีวิตและจิตใจ ส่งเสริมเพิ่มพูนให้เยาวชนเป็นคนดี

พลเอกมานะ   รัตนโกเศศ

2534

ครูคือผู้สร้างสรรค์ให้เยาวชนของชาติเป็นพลเมืองดี

พลเอกมานะ   รัตนโกเศศ

2535

ครูคือ ผู้ให้ ผู้สร้าง ผู้พัฒนา และผู้นำเยาวชนของชาติ

ดร.ก่อ    สวัสดิ์พาณิชย์

2536

ครูคือนักพัฒนา และรักษาสิ่งแวดล้อม

นายสัมพันธ์    ทองสมัคร

2537

ครูคือ ผู้มีคุณธรรม ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

นายสัมพันธ์    ทองสมัคร

2538

อุทิศเวลา รักษาคุณธรรม ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

นายสัมพันธ์    ทองสมัคร

2539

ครู เป็นหัวใจของการพัฒนาคน

นายสุขวิช   รังสิตพล

2540

ครูสร้างศิษย์ ด้วยมิตรและนำ้ใจ ครูคือผู้ให้ เพื่อเยาวชนไทยได้พัฒนา

นายสุขวิช   รังสิตพล

2541

ครูเป็นผู้นำทางปัญญา ชี้นำประชาธิปไตย สร้างเด็กไทยให้เป็นคนดี

นายชุมพล   ศิลปอาชา

2542

ครูเป็นผู้เบิกทางแห่งปัญญา ครูชี้ทางสร้างสรรค์ภูมิปัญญา  ชนเชิดบูชาพระคุณครู

นายปัญจะ    เกสรทอง

 

นางเซียมเกียว    แซ่เล้า

2543

ครูต้องมีจิตวิญญาณของความเป็นครู และประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีู

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล

2544

สร้างชาติ สร้างคน ผลงานของครู ทั่วโลกรับรู้ เชิดชูบูชาพระคุณครูยิ่งใหญ่ สร้างไทยให้พัฒนา ขอบูชาคุณครู

นายประจักษ์    เสตเตมิ

น.ส.สุทิสา  ธนบดีไพบูลย์

2545

สร้างคนสร้างชาติ สร้างศาสตร์ก้าวหน้า สร้างภูมิปัญญา ขอบูชาครู

นายสุเทพ    วิเศษศักดิ์ศรี

2546

ครูให้ความรู้ ควบคู่จรรยา ปวงชนทั่วหล้า น้อมบูชาครู

นางสมปอง   สายจันทร์

2547

ครูคือพลังสร้างแผ่นดิน ไทยทุกถิ่นน้อมบูชาพระคุณครู

นางสาวพรทิพย์    ศุภกา

2548

ครูสร้างคนสร้างชาติด้วยศาสตร์ศิลป์ ทั่วแผ่นดินศรัทธาบุชาครู

นายประจักษ์   หัวใจเพชร

2549

ครูดีเป็นศรีแผ่นดิน ศิษย์ทั่วถิ่นศรัทธาบูุชาครู

นางพรรณา     คงสง

2550

สิบหกมกรา เทิดทูน"พ่อแผ่นดิน"ภูมินทร์บรมครู

นางสาวศันสนีย์  แสนโรจน์

2551

ครูของแผ่นดินเลิศศิลป์ศาสตร์ มหาราชภูมิพลฯ ชนบูชา

นางพงษ์จันทร์ สุขเกษม จ.พัทลุง

2552

ครูสร้างคนดี เป็นศรีแผ่นดิน ทั่วถิ่นศรัทธา บูชาครู

นางนฤมล จันทะรัตน์ จ.กาฬสินธุ์

 
 
 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : หนังสือวันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม
        : สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ. ข้อมูลวันสำคัญโครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม. กรุงเทพฯ : สำนักงาน, 2537.

โดย  : สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ
รวบรวมโดย : สถาบันเด็ก มูลนิธิเด็ก         
ข้อมูลนี้จากเว็บ :: http://www.mc41.com/data/kroo_50.htm 
ภาพและข้อคิดดี ๆ จาก น้องเม้ง สมพร ช่วยอารีย์ http://gotoknow.org/blog/mrschuai/159567
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
คำสำคัญ (Tags): #วันครู
หมายเลขบันทึก: 235604เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2009 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท