โครงการจ้าง อสม ให้เป็นหมอ ยาไทย เป็น ความมั่นคงทางสุขภาพ ที่ดีกว่าเดิม

ทุกวันนี้ อสม ทำตัวเกือบคล้าย  หมอ ไปทุกที  ทำทุกอย่างสารพัด

น่าจะจ้าง ให้มี อสม. หมอแผนไทย ประจำหมู่บ้าน  เพียงหมู่บ้านละคนไปก่อน   หากมีความพร้อม ก็ให้เพิ่มทีหลังเป็นหลายคนก็ได้

คราวนี้ก็จ้างให้ผลิตยาขาย แจก ในชุมชน ตามความต้องการของหมู่บ้าน และ อบต และ รพ.

เช่น ถามในสภาหมู่บ้าน กันเลย ว่า  คนในหมู่บ้านนี้ ใครต้องการทานยาสมุนไพร อายุวัฒนะ ราคาไม่แพง กันเองในหมู่บ้าน โดยไม่ต้องนั่งรถไปขอจากหมอที่ รพ .

เราคนในหมู่บ้าน จะเอา ยาอะไรกันบ้าง

และ คนในหมู่บ้าน จะออกแบบ การเงินการคลังของระบบยาชุมชนอย่างไร ให้ตกลงกันว่า  กองทุนกลางของหมู่บ้านจะอุดหนุน การผลิตและการกินยาไทย ที่ดีและปลอดภัย อย่างไร

เช่น จะขายในราคาเท่าไร  จะรับซื้อวัตถุดิบอย่างไร ในราคาเท่าไร ( หรือ ลงแขก ช่วยกันหา ช่วยกันเก็บ ช่วยกันแปรรูป )   หรือ จะลงทุนปลูกกันอย่างไร

และ จะให้ใครได้กินยาฟรี  จะแจกฟรี กรณีใด

ตลอดจน จะแลกเปลี่ยนกับหมู่บ้านอื่นอย่างไร

เรื่องอย่างนี้ คงต้องการพี่เลี้ยง ผู้ชอบยุแหย่ให้ ชุมชนเข้มแข็ง  ด้วยการตั้งคำถาม (เพื่อการพัฒนา) อย่างง่าย  ให้คนและชุมชน รู้จัก ตั้งตัว ตั้งหลัก ในการแสวงหาทักษะ ที่จำเป็นของชีวิต 

เราอาจจะเริ่มจากคำถามว่า มีทางไหนบ้างที่เรา(คนในหมู่บ้าน)ไม่ต้องไปหาหมอหายา ในตลาด ในอำเภอ

เราจะให้มีหมอ มียา ในหมู่บ้าน สำหรับ โรคหรือปัญหาที่พบบ่อยๆ ได้อย่างไร

เราเชิญหมอ และ เภสัชกรมา   ประจำ เขาจะมามั้ย หรือเราส่งคนที่มีหน่วยก้านในหมู่บ้านไปเรียน หมอ เรียนเภสัชกร เสียเลยดีมั้ย  

ให้เรียน จากโรคง่ายๆ พบบ่อย พบมาก

ให้ทำยาจากโรคง่ายๆ  โรคพบบ่อยๆ พบมาก

และหากมีอะไรที่ยากเกิน ค่อยให้หมอใหญ่ที่ รพ. เป็นพี่เลี้ยง แนะนำ

 

สมมุติง่ายๆ เลยว่า หาก เราเป็นเบาหวาน ความดันขึ้นมาหลายๆคน จริง แต่ไม่มีเงิน เป็นค่ารถ ค่ายา ค่าหมอ มีทางอื่นๆอีกหรือไม่ที่ เราจะทุเลาดีขึ้นจากโรคนี้ได้

เรามีโอกาส เลือกกินผัก หรือ สมุนไพร หรือ อาหาร อะไร  ที่ช่วยให้น้ำตาลในเลือด ความดันเลือด ลดลงได้

เราไม่ควรโง่ทานอะไรเกินขอบเขต 

หรือ เราไม่ควรหักโหม การงานอะไร 

หรือควรสงสัยว่า  เราเสียท่า โง่ไปมากแล้ว กับสิ่งใด เราจึงเป็นโรคมากมาย โดยที่คนอื่นๆเขาไม่ได้เป็นโรคอย่างเรา

เราไม่ควรโทษกรรมพันธุ์ทั้งหมด แต่ต้องสืบสวนหาสาเหตุจากพฤติกรรมการกินการอยู่

เราควรจะช่วยกัน เลิกพิษร้ายอะไร  ที่ช่วยให้เราแข็งแรง

 

ดังนั้นหากต้องการ ให้เมืองไทยมั่นคง แข็งแรงจริง ก็ต้องช่วยกันถาม และ ตอบ แล้วฝึกทำตัวใหม่ๆ  เราก็คงมีกินมีใช้พอเพียง

ทุกวันนี้ เราเริ่มหาเงินไม่พอมาซื้อยากิน ( มีงบประมาณไม่พอเพียง กับการจัดบริการรักษาแจกยา ตรวจสุขภาพ )

นอกจากนี้ คนหลายๆคน ก็ระวังไม่กินยาเกิน  แต่คนส่วนใหญ่ยังชอบกินยา มากกว่า จะยอมคุมปาก คุมอาหาร

 

การบริการสุขภาพแบบปฐมภูมิ ที่ไม่เน้นเสริมพลังชุมชน ให้ถูกต้อง ก็อาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาของระบบบริการสุขภาพ

ความมั่นคงทางสุขภาพ อาจจะต้องเลี้ยวไปสู่หนทางของ การพึ่งพาตนเองทางสุขภาพระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน

การผ่าตัด การรักษาโรคยากๆ ก็ต้องให้หมอใหญ่ทำ 

การรักษาโรคง่ายๆ บ่อยๆ ให้ต้องหมอน้อยๆ  อสม. ช่วย

ตัวอย่างความสำเร็จของวิธีคิดแล้วทำจริง มีหลายชุมชน เล่ากันแล้วเล่ากันอีก แต่ยังไม่แรงพอ ให้คนอีกหลายหมื่นหมู่บ้านทำตาม