อำเภอเมือง | ||
เนินวัดพระงาม | ||
ตั้งอยู่ที่วัดพระงาม(วัดโสดาพุทธาราม)
ตำบลนครปฐม ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนครปฐม
เป็นสถานที่ที่ค้นพบพระเจดีย์ขนาดสูงใหญ่สมัยทวาราวดีและยังขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ
เช่น พระพุทธรูปศิลาหักพัง พระเสมาธรรมจักร กวางหมอบ
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์
และพระพิมพ์ดินเผาซึ่งเป็นของเก่าแก่ฝีมืองดงามมากยากจะหาที่อื่นเทียบได้
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่า ที่เรียกว่า
วัดพระงาม
นั้นเพราะพระพุทธรูปดินเผาที่ขุดได้จากบริเวณวัดนี้งามเป็นเลิศนั่นเอง
ปัจจุบันบางส่วนเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
และหลายชิ้นเก็บไว้ที่องค์พระปฐมเจดีย์
โบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในบริเวณนี้ล้วนแต่เป็นวัตถุเก่าสมัยทวาราวดีซึ่งเป็นสมัยเดียวกับวัตถุที่ค้นพบบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ |
||
เนินธรรมศาลา | ||
อยู่ที่วัดธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา
ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร
อยู่ทางด้านใต้ของถนนสายเพชรเกษม มีสภาพเป็นเนิน
เข้าไปด้านในเป็นโพรงซึ่งเชื่อว่าเป็นอุโมงค์จากวัดพระเมรุมาถึงวัดธรรมศาลา
เล่าลือกันว่าภายในอุโมงค์มีขุมทรัพย์ เช่น ถ้วยโถโอชาม แต่ไม่สามารถ
ที่จะนำออกมาได้ เนื่องจากมีปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไว้ |
||
เนินพระ หรือ เนินยายหอม | ||
อยู่ที่วัดดอนยายหอม ตำบลดอนยายหอม
จากจังหวัดนครปฐมไปตามถนนเพชรเกษมมุ่งเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 5
กิโลเมตร จะเห็นสามแยกเลี้ยวขวาเข้าถนนเศรษฐกิจ 2
(ทางหลวงหมายเลข 3097 บ้านแพ้ว-ดอนยายหอม) เข้าไปประมาณ 8
กิโลเมตร จะถึงเนินพระหรือเนินยายหอมซึ่งอยู่ด้านซ้ายเข้าไปอีกประมาณ
150 เมตร อยู่กลางทุ่งนาใกล้กับถนนสายนครปฐม อำเภอบ้านแพ้ว
เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่มากเมื่อ พ.ศ.2479 พระธรรมวาทีคณาจารย์
(หลวงพ่อเงิน) เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม
ได้ขุดเอาอิฐที่หักพังแถวชานเนินไปสร้างพระอุโบสถ
เมื่อขุดลึกลงไปพบศิลาเหลี่ยมเขียวสองต้น สูงประมาณ 4 เมตร
มีลายจำหลักที่ปลายเสา
คล้ายกับเสาประตูสาญจีเจดีย์ของพระเจ้าอโศกมหาราชกับกวางหมอบ
ทำด้วยศิลา 1 ตัว พระพุทธรูปศิลาสมัยทวาราวดี 1 องค์
พระเสมาธรรมจักรทำด้วยหินแต่หักพัง
เสาศิลานี้ตอนบนมีง่ามสำหรับวางพระเสมาธรรมจักร
เป็นแบบเดียวกับที่พบในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์วัดพระงาม วัดพระประโทณ
และพระราชวังสนามจันทร์ ปัจจุบันเสาศิลานี้อยู่ที่วัดดอนยายหอม
ส่วนกวางหมอบกับพระพุทธรูปส่งไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
จากโบราณวัตถุที่พบเหล่านี้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเดิมบริเวณนี้เป็นวัดเก่า
และตัวเนินคงจะเป็นฐานเจดีย์ขนาดสูงใหญ่ที่อยู่ภายในบริเวณวัด
ตั้งแต่สมัยทวาราวดีหรือก่อนหน้านั้น และมีอายุกว่า 1,000 ปี มาแล้ว
ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญ |
||
วัดพระเมรุ | ||
ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม บริเวณสวนอนันทอุทยาน
ตำบลห้วยจระเข้ ห่างจากพระปฐมเจดีย์ไปทางทิศใต้ไม่ไกลนัก
วัดนี้เป็นวัดร้างปัจจุบันสภาพที่เห็นเหลือแต่ซากเนินใหญ่ปรากฏอยู่เนินหนึ่ง
วัตถุที่ค้นพบบริเวณนี้มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ พระกร พระเพลา
พระหัตถ์ของพระพุทธรูปศิลา เทพยักษ์ เทพสิงห์ดอกบัว
และลวดลายประดับองค์พระเจดีย์ที่หักพังลง
บางส่วนนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์องค์พระปฐมเจดีย์และบางส่วนไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เจ้าสามพระยาและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 6
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้นำพระบาทขนาดโต 2
คู่จากวัดพระเมรุมาไว้ตรงชั้นนอกพระระเบียงองค์พระปฐมเจดีย์
และกรมศิลปากรได้ร่วมมือกับนักโบราณคดีฝรั่งเศสทำการขุดค้นเมื่อพ.ศ.2482
ค้นพบวัตถุซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระเจดีย์องค์มหึมาก่อเป็นชั้นๆ
ย่อมุมขึ้นไปสูงมากเพราะซากฐานที่หักพังเหลืออยู่ในขณะที่ทำการขุดสูงถึง
12 เมตร มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปศิลานั่งห้อยพระบาทประจำ 4
ทิศและได้อัญเชิญพระพุทธรูปศิลาองค์นี้มาประดิษฐานไว้ที่วัดพระปฐมเจดีย์
สันนิษฐานว่า สร้างตั้งแต่สมัยทวาราวดีมีอายุเท่ากับพระปฐมเจดีย์เดิม
ซึ่งไม่น้อยกว่า 1,000 ปี ขึ้นไป |
||
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรวิหาร | ||
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานองค์พระปฐมเจดีย์ซึ่งถือว่าเป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จังหวัดนครปฐมได้ใช้พระปฐมเจดีย์เป็นตราประจำจังหวัด พระปฐมเจดีย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นองค์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2396 โดยโปรดเกล้าฯให้สร้างครอบพระเจดีย์องค์เดิมซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีฐานแบบโอคว่ำและมียอดปรางค์อยู่ข้างบน สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในตอนต้นพุทธศตวรรษที่ 4 เนื่องจากรูปร่างของเจดีย์แบบโอคว่ำ มีลักษณะคล้ายกับสาญจีเจดีย์ในอินเดียซึ่งสร้างสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช การก่อสร้างเจดีย์ครอบองค์ใหม่เสร็จเรียบร้อยในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2413 รวมเวลาก่อสร้าง 17 ปี พระเจดีย์องค์ใหม่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลม รูประฆังคว่ำแบบลังกา มีความสูงจากพื้นดินถึงยอดมงกุฎ 3 เส้น 1 คืบ 10 นิ้ว (หรือประมาณ 120.5 เมตร) ฐานวัดโดยรอบได้ 5 เส้น 17 วา 3 ศอก (หรือประมาณ 233 เมตร) ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ทรงบูรณะวัดพระปฐมเจดีย์ให้สง่างามมากขึ้น และถือว่าวัดพระปฐมเจดีย์เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 พระปฐมเจดีย์ เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ค่าเข้าชมชาวต่างประเทศ 20 บาท ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปีจะมีงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ โทร. 0 3424 2143 นอกจากนี้ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ดังนี้ |
สถาบันวัฒนธรรมภูมิภาคตะวันตก | ||
ตั้งอยู่ที่ตำหนักทับเจริญ
พระราชวังสนามจันทร์ จัดเป็นสถาบันที่รวบรวมผลงานด้านวัฒนธรรมเชิดชูปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นในภูมิภาค
ภายในอาคารมีห้องแสดงผลงานศิลปะของอาจารย์พิน อินฟ้าแสง
ห้องศิลปะวัตถุ ห้องงานหัตถกรรม ห้องหุ่นกระบอกคุณยายสาหร่าย
ช่วยสมบูรณ์ เปิดวันจันทร์-ศุกร์ ปิดวันเสาร์-อาทิตย์
วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3425 3840-4 ต่อ 2231 |
||
พระราชวังนครปฐม | ||
อยู่ทางทิศตะวันออกไม่ห่างจากวัดพระปฐมเจดีย์
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลนครนครปฐม
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงกล่าวถึงเหตุที่สร้างพระราชวังแห่งนี้ไว้ในหนังสือเรื่องตำนานวังเก่าว่า
เนื่องมาจากในช่วงที่มีการปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
การไปมาระหว่างกรุงเทพฯและนครปฐมไม่สะดวก ต้องค้างคืนกลางทางหนึ่งคืน
จำเป็นต้องสร้างที่ประทับแรมขึ้นในบริเวณนั้น
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชวังขึ้นที่บริเวณพระปฐมเจดีย์ทำนองเดียวกับพระราชวังที่พระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาทรงสร้างบริเวณริมพระพุทธบาท
และทรงพระราชทานนามว่า “พระนครปฐม” และโปรดเกล้าฯ
ให้ขุดคลองมหาสวัสดิ์และคลองเจดีย์บูชา ทำให้การคมนาคมระหว่างกรุงเทพฯ
ไปยังนครปฐมสะดวกขึ้น |
||
พระประโทณเจดีย์ | ||
เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในวัดพระประโทณเจดีย์
ตำบลพระประโทน
อยู่ห่างจากพระปฐมเจดีย์ไปตามถนนเพชรเกษมทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางประมาณ
2 กิโลเมตร รูปทรงเดิมของพระประโทณเจดีย์ เป็นทรงโอคว่ำ
ตามลักษณะของเจดีย์สมัยทวารวดี
เนื่องจากวัดพระประโทณตั้งอยู่กลางเมืองโบราณนครชัยศรี
ในบริเวณมีการขุดพบโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูป
เศียรพระพุทธรูปปูนปั้น พระดินเผา
รวมทั้งโลหะสำริดรูปพญาครุฑเหยียบนาค รัชกาลที่ 6
ทรงใช้เป็นเครื่องหมายราชการของพระองค์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 3421 2011, 0 3421 2313, 0 3424 2440 |
||
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ | ||
ตั้งอยู่ในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ด้านทิศใต้เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น โบราณวัตถุที่รวบรวมได้ในระยะแรกได้ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ระเบียงคตรอบองค์พระปฐมเจดีย์ กระทั่ง พ.ศ. 2454 จึงได้ย้ายไปไว้ในวิหารตรงข้ามพระอุโบสถ ซึ่งต่อมาเรียกว่า พระปฐมเจดีย์พิพิธภัณฑสถาน ( ปัจจุบันยังคงเป็นพิพิธภัณฑสถานในความดูแลของวัดพระปฐมเจดีย์) พ.ศ. 2477 ได้ยกฐานะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในความดูแลของกรมศิลปากร และเมื่อจำนวนโบราณวัตถุเพิ่มมากขึ้น อาคารหลังเดิมคับแคบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 กรมศิลปากรได้รับงบประมาณให้สร้างอาคารพิพิธภัณฑสถานหลังปัจจุบันขึ้น และเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุจากหลังเดิมมาจัดแสดงไว้ที่นี่ โดยโบราณวัตถุส่วนใหญ่เป็นหลักฐานในวัฒนธรรมทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) การจัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ |
ไม่มีความเห็น